อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2557

สะพานซิรอต้อลมุสตะกีม


วันกิยามะห์ เป็นวันแห่งความสะพรึงกลัว ไม่มีมนุษย์คนใดที่จะพ้นวันแห่งความหวาดกลัวนี้ไปได้ ซึ่งในวันนั้นหัวใจของพวกเขา จะเต็มไปด้วยความกลัว

ในวันนั้นอัลลอฮฺ จะทรงสั่งใช้ให้ประชาชาติแต่ละประชาชาติ ติดตามผู้นำของตน ผู้ใดสักการะสิ่งใด ก็จะติดตามสิ่งนั้นไป ดังนั้น ผู้ใดสักการะพระอาทิตย์ ก็จะตามพระอาทิตย์ ผู้ใดสักการะพระจันทร์ ก็จะตามพระจันทร์ โดยที่สิ่งเหล่านี้ จะนำพวกเขาไปสู่นรก และจะคงเหลือแต่เพียงประชาชาติอิสลามเท่านั้น ซึ่งในประชาชาติอิสลามนั้น รวมทั้งคนดีและคนชั่ว สะพาน “ซิรอต้อลมุสตะกีม” จะทอดผ่านนรกให้พวกเขาได้ข้ามไป ซึ่งขอบสะพานนั้น เต็มไปด้วยตะขอและหอก แน่นอนอัลลอฮฺจะทรงสั่งใช้ให้พวกเขาข้ามไปโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ และในวันนั้น บรรดารอซู้ลจะเรียกร้องต่ออัลลอฮฺ โดยกล่าวว่า โอ้ อัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงทำให้ปลอดภัย ขอพระองค์ทรงทำให้ปลอดภัย และบุคคลแรกที่จะเดินผ่านสะพานนี้ไปก็คือ ท่านศาสดามูฮัมมัด

ได้มีรายงานจะท่านอบีฮุรอยเราะห์ว่าท่านศาสดามูฮัมมัดได้กล่าวไว้ว่า

ความว่า: “ในวันกิยามะห์อัลลอฮฺ จะทรงรวมมนุษย์เอาไว้ แล้วพระองค์ก็ทรงกล่าวว่า ผู้ใดที่สักการะสิ่งใด ก็จงตามสิ่งนั้นไป ดังนั้น ผู้ใดสักการะพระอาทิตย์ ก็จะตามพระอาทิตย์ ผู้ใดสักการะพระจันทร์ จะตามพระจันทร์ และผู้ใดสักการะเทวรูป ก็จะตามเทวรูป และจะเหลือแต่ประชาชาตินี้ ซึ่งในกลุ่มนี้จะมีพวกมุนาฟิกอยู่ด้วย แล้วอัลลอฮฺจะทรงนำพวกเขามา แล้วกล่าวว่า ฉันคือพระเจ้าของพวกท่าน แล้วพวกเขาก็กล่าวว่า นี้คือสถานที่ของเรา เพื่อพระเจ้าของเราจะมาหาเรา ดังนั้น เมื่อพระเจ้าของเรามาหาเรา เราจะรู้จักพระองค์ แล้วอัลลอฮฺ ก็มาหาพวกเขา ในรูปของพระองค์ที่พวกเขารู้จัก แล้วกล่าวว่า ฉันคือพระเจ้าของพวกท่าน แล้วพวกเขาก็กล่าวว่า ท่านคือพระเจ้าของเรา แล้วพวกเขาก็ตามอัลลอฮฺ ไป แล้วไปข้ามสะพานที่ทอดอยู่เหนือนรก ญะฮันนัม แน่นอนฉัน (มูฮัมหมัด) และประชาชาติของฉัน จะเป็นกลุ่มแรกที่เดินผ่านสะพานนี้ไป และในวันนั้น จะไม่มีใครพูดอะไรใดๆ นอกจากบรรดารอซู้ลเท่านั้น ในวันนั้นบรรดารอซู้ลจะเรียกร้อง (ต่ออัลลอฮฺ) ว่า โอ้ อัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงทำให้ปลอดภัย ขอพระองค์ทรงทำให้ปลอดภัย และในนรกญะฮันนัมนั้นมีหอก ที่มีลักษณะคล้ายหนามของต้น ซะอฺดาน (ต้นไม้มีหนามจำพวกหนึ่ง) พวกท่านเคยเห็นต้นซะอฺดานหรือไม่? พวกเขา (ซอฮาบะห์) กล่าวว่า ครับ ท่านรอซูลุ้ลลอฮฺ

ท่านรอซู้ลกล่าวต่อไปความว่า " แท้จริงหอกนั้นคล้ายกับหนามของต้นซะอฺดาน ซึ่งไม่มีใครรู้ถึงขนาดความใหญ่ของมัน นอกจากอัลลอฮฺ ซึ่งมันจะฉุดมนุษย์โดย (พิจารณา) การงานของพวกเขา...”

ประเภทของผู้ที่ผ่านสะพานซิรอต้อลมุสตะกีม

ผู้ที่เดินผ่านไปบนสะพานนี้ จะมีความแตกต่างกันอย่างมาก โดยขึ้นอยู่กับผลบุญ และการงาน ที่เขาได้เคยทำเอาไว้ บ้างผ่านไปอย่างรวดเร็วดั่งสายฟ้าแลบ บ้างผ่านไปดั่งลมพัด บ้างผ่านไปอย่างนกบิน บ้างเดินด้วยเท้า บ้างคลานไป ซึ่งบรรดาเราะซูล จะยืนอยู่บนสะพาน และกล่าวเรียกร้องต่ออัลลอฮฺ ว่า

"โอ้อัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงทำให้ปลอดภัย ขอพระองค์ทรงทำให้ปลอดภัย คอยให้ความช่วยเหลือประชาชาติของตน และเตือนถึงภัยร้ายที่อยู่ใต้สะพาน"

ลักษณะของสะพาน

ลักษณะของ สะพานซิร็อต มีความลื่นมาก มีความคมยิ่งกว่าคมดาบ มีความเล็กยิ่งกว่าเส้นผม ดังที่มีรายงานมาจากอิบนิมัสอูดว่า ท่านศาสดาได้กล่าวไว้ว่า

ความว่า "แล้วพวกเขาจะเดินผ่านสะพานซิร็อต โดยที่สะพานนั้นเสมือนกับคมดาบ ลื่นทะไหล .."

และได้มีรายงานจะท่านสะอีด อัล-คุดรีย์ได้รายงานว่าท่านศาสดามูฮัมหมัด ได้กล่าวว่า

ความว่า “อัซ-ซิร็อต นั้นคือสะพานที่มีความละเอียด (เล็ก) กว่าเส้นผม และมีความคมยิ่งกว่าคมดาบ ซึ่งอัลลอฮฺ ได้ทรงทอดมันไปด้านบน (หลัง) ของ นรกญะฮันนัม เพื่อให้ผู้ศรัทธาได้ผ่านมันไปยังสวนสวรรค์ต่างๆโปรดปราน และเพื่อให้ผู้ตั้งภาคีได้ผ่านมันไปยังนรกญะฮันนัมและที่พำนักอันเลวร้าย ดังนั้นมันคือสะพานกอนตอเราะห์ที่อยู่ระหว่างนรกและสวรรค์”

สะพานที่สอง คือสะพานกอนตอเราะห์ ซึ่งทอดระหว่างสวรรค์และนรก

เมื่อผู้ศรัทธารอดพ้นจากสะพานซิร็อตมาแล้ว พวกเขาจะถูกกักขังอยู่ ณ ที่สะพานแห่งนี้ โดยพวกเขาจะต้องชดใช้ความผิดที่เขาได้เคยกระทำไว้ ก่อนที่พวกเขาจะเข้าสวรรค์ ดังที่ท่านศาสดาได้กล่าวไว้ว่า

ความว่า “บรรดาผู้ศรัทธาจะรอดพ้นจากไฟนรก และจะถูกกักกันที่สะพาน “กอนตอเราะห์” ซึ่งอยู่ระหว่างสวรรค์และนรก บางคนจากพวกเขา จะถูกลงโทษ ด้วยกับความผิดบางประการ ที่เขาได้กระทำในช่วงที่อยู่ในโลกดุนยา (ภพนี้) จนกระทั่งเมื่อพวกเขาสะอาด บริสุทธิ์ พวกเขาจะถูกอนุญาตให้เข้าสวรรค์ได้…”

แน่นอนสะพานนี้ จะขจัดและชำระล้างความผิดต่างๆ ถึงแม้ว่าจะเลยเท่าผงธุลี ที่เกี่ยวกับบ่าวด้วยกัน ให้หมดไปจากตัวและจิตใจของผู้ศรัทธา ไม่ว่าจะเป็นความอิจฉาริษยา ความโกรธแค้นซึ่งกันและกัน ก่อนที่จะนำตัวเข้าสวนสวรรค์ ดังที่อัลลอฮฺ ทรงบอกลักษณะของชาวสวรรค์ ไว้ในซูเราะห์ อัลหะญัร โองการที่ 47 ว่า

ความว่า “และเราได้ขจัดความขุ่นแค้น ที่มีอยู่ในหัวอกของพวกเขา ให้กลายเป็นพี่น้องกัน โดยพำนักอยู่บนเตียงหันหน้าเข้าหากัน”

และนี่แหละคือ สะพานอัซ-ซิร็อต และ สภาพความสะพรึงกลัวที่เกิดขึ้นในวันกิยามะห์

พวกเราได้เตรียมตัว เพื่อวันนั้นแล้วหรือยัง พวกเราได้สำรวจตัวเองแล้วหรือยังครับว่า สิ่งที่พี่น้องได้ทำไปนั้น มันมีข้อผิดพลาดและบกพร่องอะไรไปบ้าง แน่นอนความตายนั้น อยู่ใกล้ตัวเรามาก โดยที่ไม่มีใครคาดคิด และรู้ว่าในอีกไม่กี่วินาทีของหน้า ชีวิตของเขาจะหมดสิ้นลมหายใจหรือไม่

.............................
สุวัฒน์ อิสมาแอล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น