อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557

ร่วมกันปกป้องพี่น้องของเราจากเหล่ารอฟีเฎาะฮฺ



เมื่อทราบข่าว ว่าเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันตอนมัธยม เขาได้ไปเลื่อมใสในลัทธิชีอะฮฺร่อฟีเฎาะฮฺอีกคน  มันรู้สึกหดหู่ นอนไม่หลับทั้งคืน ความเจ็บปวดรวดร้าวที่มันได้ประสบกับการได้รับข่าวอันเลวร้ายเหล่านี้ เราในฐานะมุสลิมผู้ศรัทธา และต่อต้านมันอย่างเข้มแข็งกับพวกกลับกรอกเหล่านี้  มันไม่มีอะไรไปมากกว่าความเสียใจ ความเจ็บปวด และเสียดายเพื่อนๆเหล่านั้น

ในท่ามกลางความวุ่นวายและการแตกแยกกันในสังคมมุสลิมในบ้านเรา กลับมีพวกหนึ่งที่ฉกฉวยโอกาส เข้ามาแทรกซึม บ่อนทำลาย และฉุดกระชากพี่น้องมุสลิมบางคนไปจากลู่ทางอัล-อิสลาม และกลายเป็นพวกสมุนของพวกมันอย่างไม่มีวันกลับ และพวกเขายังกลับมาทะลุทะลวงทิ่มแทงป้ายสีให้ร้ายต่างๆนานากับอัล-อิสลามซึ่งในอดีตที่ผ่านมาได้ชุบเลี้ยงจิตใจ ให้เขาดำรงอยู่บนพื้นฐานอิสลามตลอดมา

การคืบคลานของเหล่าศัตรูอย่างรอฟีเฎาะฮฺ ที่แอบอ้างตนว่าเป็นมุสลิม มันเข้ามาแอบแฝงตัวคลุกคลีกับพี่น้องมุสลิม ด้วยการกอดคอเคียงบ่าเคียงไหล่ทำเหมือนให้การช่วยเหลือ จนได้ทีเผลอตัวและให้ความไว้วางใจ แล้วมันก็ค่อยๆพูดโน้มน้าวใจ ปลูกฝังความเชื้อ ให้เขาลังเลใจต่อการศรัทธาที่เขามีอยู่  แล้วให้โน้มเอียงไปตามแผนการความเชื่อของพวกมัน จนในที่สุด เขาก็ตกหลุมพรางที่พวกมันกับดักไว้ และกลายเป็นสมุนของพวกมันในที่สุด

เพื่อนร่วมห้องของข้าพเจ้ากี่คนแล้วที่ติดกับดักและกลายเป็นสมุนของพวกมัน  ที่รู้ๆอยู่รวมถึงเพื่อนคนล่าสุด ก็ปาไป 5 คนแล้ว เพื่อนๆเหล่านี้เราเคยร่วมหัวจมปลักมาด้วยกัน  วันเสาร์-อาทิตย์เราพากันไปศึกษาศาสนาชั้นตะดีกา คุณครูพร่ำสอนเรียนรู้หลักศรัทธาที่ถูกต้อง ปฏิบัติศาสนกิจที่อิสลามบัญญัติไว้  ให้ตามกิตาบุลลอฮฺ และสุนนะฮฺตามความเข้าใจของคนยุคชาวสลัฟ (สามร้อยปีแรก) ให้รักนบี(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ) รักอะฮฺลุลบัยตฺเครือญาติของท่านนบี  (บรรดาภรรยา, ลูกๆ, พ่อแม่, ปู่ย่าตายาย และลุงป้าน้าอา) รักบรรดาเศาะหาบะฮฺหรือบรรดาสาวกของท่านนบี ซึ่งท่านบีได้รับรองสวรรค์ไว้แล้วสำหรับพวกเขา  แต่เพื่อนเหล่านี้กลับลืมมัน และไปเป็นพวกสมุนเหล่าบริวารศัตรูอิสลาม  ซึ่งพวกมันชอบใส่ร้ายป้ายสีบรรดาภรรยาอันเป็นที่รักของท่านนบี ดูถูกเกลียดชังเหล่าบรรดาเศาะหาบะฮฺ  กล่าวหาว่าหลังที่ท่านนบีเสียชีวิตบรรดาเศาะหาบะฮฺตกมุรตัดทั้งหมด เหลือเพียง 3 คน  และตกนรก ทั้งที่ท่านนบีได้รับรองสวรรค์ให้พวกเขา หลักศรัทธาก็ต่างกันโดยสิ้นเชิง การละหมาดก็ไม่เหมือนกัน และอีกมายมากที่ไม่ใช่อิสลามตามที่พระองค์อัลลอฮฺตะอาลาประทานลงมา เมื่อเพื่อนๆเหล่านั้นได้ไปเป็นสมุนและเดินรอยตามแนวทางพวกรอฟีเฎาะฮฺ ก็เท่ากับว่าพวกเขาได้ละทิ้งและเดินหันหลังออกจากอิสลามอันบริสุทธิ์ไปแล้วนั้นเอง

พวกรอฟีเฎาะฮฺมันยังไม่อิ่มหนำสำราญ   ที่ได้หลอกล่อเพื่อนๆจนกลายเป็นสมุนของพวกมัน พวกมันยังหิวกระหายไม่รู้จบ  ยังมาปั่นป่วนชักนำญาติๆพี่น้องเพื่อนบ้านไปเป็นพวกมันอีกหลายคน หนำซ้ำมันยังบังอาจมาเยียบย่ำถึงใต้ถุนบ้านจะมาชักนำแม่อันเป็นที่รักของข้าพเจ้าไปเป็นพวกมันอีกคน แม่ของข้าพเจ้ามีโรคประจำตัว มีคนข้างบ้านแนะนำให้ไปรักษาตัวในที่แห่งหนึ่ง ซึ่งแท้จริงคนข้างบ้านคนนี้ก็ได้กลายเป็นสมุนรอฟีเฎาะฮฺไปแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ แม่ของข้าพเจ้าก็เชื่อใจ จึงยอมไปรักษา พอไปถึง หมอที่ทำการรักษาได้ทำการรักษาแม่ด้วยคาถาอะไรไม่ทราบ พร้อมกับกล่าวกับแม่ว่าถ้าแม่เข้ามาอยู่กับพวกเขา โรคนี้จะหาย  พอแม่รู้แล้วว่าพวกมันคือรอฟีเฎาะฮฺ และเคยได้ยินข้าพเจ้าเคยกล่าวเตือนให้ท่านได้ระวังให้มากกับพวกนี้  เมื่อท่านตั้งสติได้ ท่านก็รีบสะบัดตัวแล้ววิ่งหนีออกมาจากพวกมันทันที และได้เล่าเรื่องนี้ให้ข้าพเจ้าทราบ



นี้คือแผนการร้ายของพวกมัน มันทำทุกวิธีการที่จะทำการเปลี่ยนชาวมุสลิมไปเป็นพวกสมุนบริวารของพวกมันให้จงได้ โดยเฉพาะกับมุสลิมที่อ่อนแอในหลักการอิสลาม หากเป็นหัวหน้าครอบครัว มันย่อมเป็นการดีสำหรับพวกมัน เพราะพวกมันจะได้กินรวบทั้งครอบครัว  พวกมันสร้างมัสยิดของพวกมันอย่างใหญ่โต และชักชวนผู้คนที่รอบๆมัสยิด ให้ละทิ้งอิสลาม แล้วไปอยู่ร่วมกับลัทธิของพวกมัน  ข้าพเจ้าเคยได้สอบถามผู้คนในรอบมัสยิดนั้น  ก็ได้ทราบว่ามีพวกรอฟีเฎาะฮฺจากอิหร่านมาชักชวนพวกเขา โดยื่นข้อเสนอว่าหากพวกเขาเข้ารับนับถือลัทธิรอฟีเฎาะฮฺอิมามสิบสองแล้ว พวกมันจะปลดหนี้ให้กับพวกเขาทั้งหมด พวกมันทำได้แม้วิธีการที่ต่ำช้า ขอให้ชาวมุสลิมตกหลุมพรางของพวกมันก่อน แล้วพวกมันค่อยๆพร่ำสอนความคิดอันชั่วช้าที่พวกมันมีต่ออิสลามมาลบล้างสมองของพวกเขา มันคือศัตรูอิสลามหมายเลขหนึ่ง มันชั่วช้าและร้ายกาจยิ่งกว่ากลุ่มชนชาวยิวอีกร้อยเท่า ผู้ที่เสนอตัวชัดเจนว่าเป็นศัตรู มันจะร้ายกาจเท่าพวกที่บอกว่าศรัทธาแต่เบื้องหลังนั้นมีแต่ขยี่ทำลายได้อย่างไร?  ซึ่งพระองค์อัลลอฮฺตะอาลาได้ตรัสเอาไว้ว่า พวกกลับกลอกหรือมุนาฟิกจะอยู่ในก่นเหวนรกต่ำสุด

ตอนนี้พวกมันกำลังเหิมเกริมได้ทำการบุกขยี้ในทุกพื้นที่ตารางนิ้วของชุมชนมุสลิม เพื่อให้เป็นไปตามแผนการที่คุมัยนีย์วางหมากเอาไว้ ตามวาทกรรมที่ว่า “เปลี่ยนชาวสุนนีย์ เป็นรอฟีเฎาะฮฺ” นั้นเอง จนพวกสมุนรอฟีเฎาะฮฺในประเทศไทยกล้าพูดอย่างทะนงตัวและสุดจะภาคภูมิที่ว่า “พวกเราได้ยึดพื้นที่และเปลี่ยนพวกสุนนีย์มาเป็นพวกเราเกือบหมดแล้ว”



เมื่อได้เห็นความร้ายกาจของเหล่าลัทธิรอฟีเฎาะฮฺที่เข้ามาขยี้ความเชื้อของชาวมุสลิมให้เป็นพรรคพวกของมัน ก็ไม่ต่างอะไรที่พวกมันได้ร่วมกับเหล่าชีอะฮฺนุศ็อยรีย์ทำการเข่นฆ่าพี่น้องของเราในซีเรีย ทุกๆวัน พวกมันไม่ได้เข่นฆ่าพี่น้องบ้านเราอย่างพี่น้องชาวซีเรีย แต่การที่พวกมันได้ชักจูงพี่น้องของเราไปเป็นสมุนบริวารของพวกมัน ก็เท่ากับว่าพวกมันได้เข่นฆ่าพี่น้องของเราไปจากอิสลามอย่างไม่มีวันกลับนั้นเอง

แล้วพี่น้องผู้ศรัทธายังคงนิ่งเฉยอยู่อย่างนี้ หรือ? ยังไม่เห็นภัยอันตรายของพวกมันอีกหรือ? คงปล่อยให้พวกมันทำการทะนงตน  ฉุดกระชากพี่น้องของเราไปต่อหน้าต่อตา อย่างนี้ต่อไปอีกกระนั้นหรือ?
เราพร้อมหรือยัง? ที่จะร่วมกันปกป้องพี่น้องของเรา และต่อสู้และขับไล่พวกรอฟีเฎาะฮฺ ให้หมดสิ้นไปในแผ่นดินแห่งอิสลาม  และช่วยกันชักนำให้พี่น้องของเราที่ได้กลายไปเป็นพรรคพวกของรอฟีเฎาะฮฺ ให้กลับมาในอ้อมกอดอิสลามอีกครั้ง...



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น