อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557

แต่งงานกับลูกสาวพิการตาบอดและหูหนวกแลกกับการอภัยโทษ



เรื่องเล่าชายคนหนึ่งกับลูกแอปเปิ้ล (และผู้หญิงตาบอด เป็นใบ้ หูหนวก)

เพียงแอปเปิ้ลครึ่งผล
วันหนึ่งบนเส้นทางเมืองกูฟะฮ ( ในอีรัค ) ท่าน ซาบิต บิน อิบรอฮีม -ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮ- เดินผ่านทางสายนั้น พลันสายตาเหลือบไปเห็นแอปเปิ้ลผลหนึ่งตกอยู่นอกสวน ด้วยความหิว ท่านจึงหยิบมันขึ้นรับประทาน แต่พอทานไปได้ครึ่งผล ท่านฉุกคิดได้ว่า ท่านไม่มีสิทธิ์ที่จะทานแอปเปิ้ลผลนี้ ท่านจึงตัดสินใจเดินเข้าไปพบกับคนทำสวน

แล้วพูดว่า : " ขอโทษนะครับ ผมได้ทานแอปเปิ้ลไปครึ่งผล ขอให้ท่านยกโทษให้ผมด้วยที่หยิบมันทานโดยไม่ได้รับอนุญาติ นี่ครับอีกครึ่งหนึ่ง โปรดเอาคืนไปเถิด "

คนสวน : " ฉันไม่มีสิทธิ์จะยกโทษให้ท่านได้ เพราะสวนนี้ไม่ได้เป็นของฉัน แต่มันเป็นของเจ้านายฉัน "

ซาบิต : " แล้วเจ้านายของท่านอยู่ไหนละครับ ผมจะได้ไปขอให้เขายกโทษ "

คนสวน : " ท่านต้องใช้เวลา 1 วัน กับ 1คืน นะกว่าจะได้พบกับเขา "

ซาบิต : " ผมต้องไปหาเขาให้ได้ แม้จะไกลแค่ไหน เพราะการที่ผมทานแอปเปิ้ลไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ มันก็ไม่ฮาล้าลสำหรับผม ท่านร่อซู้ล ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า " ผู้ใดที่ร่างกายของเขาเติบโตมาจากของที่ฮารอม ไฟนรกก็คู่ควรกับเขาแล้ว "

ท่านซาบิตได้ออกเดินทางไปพบกับเจ้าของสวน เมื่อถึงที่หมาย ท่านได้เคาะประตูบ้าน ทันทีที่ประตูถูกเปิดออก

ท่านให้สลามและพูดว่า : " นายท่านครับ ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย เพราะผมทานแอปเปิ้ลของท่านไปครึ่งผลโดยไม่ได้รับอนุญาต นี่ครับ อีกครึ่งที่เหลือ "

เจ้าของสวนพิจารณาชายหนุ่มผู้มาเยือนพลางกล่าวว่า : " เจ้าหนุ่มเอ๋ย เราคงยกโทษให้เจ้าไม่ได้หรอก นอกจากเจ้าจะยอมรับข้อแม้ของเราก่อน "

ท่านซาบิตถาม : "อะไรหรือครับ ?"

เจ้าของสวนตอบ :" เจ้าต้องแต่งงานกับลูกสาวของเรา "

ท่านซาบิตรำพึงกับตัวเองว่า อะไรกันนี่ ข้อแม้ที่ว่าคือการแต่งงานกับลูกสาวของท่านผู้นี้น่ะหรือ ?!

" เราจะบอกคุณลักษณะของนางให้เจ้าได้คิดก่อนที่เจ้าจะตอบตกลง ..ลูกสาวของเราเป็นหญิงตาบอด หูหนวก เป็นใบ้ และ เป็นอัมพาต แต่หากท่านไม่ยอมรับเงื่อนไขข้อนี้ เราคงให้อภัยท่านไม่ได้หรอก "

ท่านซาบิตใช้ความคิดกับสิ่งที่ได้ยินก่อนยินยอมตอบตกลงว่า : " ครับ ตกลง ผมยอมสู่ขอเธอ ยอมแต่งงานกับเธอ ผมจะดูแลเธอเอง ผมมั่นใจครับว่า อัลลอฮ ทรงบรรจุความดีให้ผม ณ ที่พระองค์แล้ว "


เมื่อท่านซาบิตตอบตกลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าของสวนจึงนำพยานมาสองคนเพื่อทำพิธีนิกาฮ และเมื่อพิธีสิ้นสุดลง เจ้าของสวนก็พาลูกสาวมารอที่ห้องของท่านซาบิต ท่านซาบิตเตรียมพร้อมสำหรับการพบเจ้าสาวเป็นครั้งแรก หากแต่ท่านยังคงลังเลที่จะให้สลามกับเธอ พลันก็คิดขึ้นได้ว่ามะลาอีกะฮย่อมได้ยินสลามและตอบสลามของท่าน..

ท่านซาบิตจึงกล่าวให้สลาม เจ้าสาวตอบรับสลามอย่างอ่อนโยน และยืนขึ้นต้อนรับจับมือท่าน

ท่านซาบิตอุทานด้วยความตกใจว่า : " อะไรกันนี่ เกิดอะไรขึ้น ?! "

เธอรับสลาม แสดงว่าเธอก็ไม่ได้เป็นใบ้ ไม่ได้หูหนวก

เธอลุกขึ้นยืน แสดงว่าเธอก็เดินได้ ไม่ได้เป็นอัมพาต

เธอจับมือ แสดงว่าเธอมองเห็นไม่ได้ตาบอด แล้วทำไมพ่อของเธอถึงได้บอกว่าเธอเป็นอย่างนั้นอย่างนี้

ท่านซาบิตนั่งลงข้างๆ เจ้าสาวของท่าน และเริ่มถามนางว่า : ทำไมครับ ทำไมคุณพ่อของคุณถึงได้บอกผมว่าคุณเป็นผู้หญิงตาบอด หูหนวก เป็นใบ้ และเป็นอัมพาต ?

" ที่คุณพ่อบอกว่าฉันตาบอด ก็เพราะ ตาฉันบอดจากสิ่งที่ฮะรอม,ต้องห้าม

หูฉันหนวก จากสิ่งพระองค์ไม่พอพระทัย

ลิ้นเป็นใบ้ จากทุกสิ่งที่ไม่ใช่การรำลึกถึงพระองค์

และเป็นอัมพาต จากการย่ำไปในที่ที่พระองค์กริ้ว "

- ท่านซาบิตผู้นี้เองที่เป็นบิดาของอิมาม นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ อบูฮะนีฟะฮ. อันนั๊วะมาน บิน ซาบิต หรือ อิมาม ฮะนะฟีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮ

.....................
Cr:Muslimthai

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น