อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ละหมาดญะมาอะฮฺที่มัสยิดสำคัญไฉน



          สำหรับชายมุสลิมที่บรรลุศาสนภาวะ มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด หากไม่มีอุปสรรคใดๆแก่เขา ที่จะต้องไปละหมาดฟัรดูญะมาอะฮฺ(รวม)ที่มัสยิด

 روى مسلم في صحيحه أن رجلاً أعمى قال : يا رسول الله عليه و سلم : ليس قائد يقودني إلى المسجد ، فسأل رسول الله صلى الله عليه و سلم أنْ يُرَخِص له ، فرخص له ، فلما ولى دعاه ، فقال : " هل تسمع النداء ؟ قال : نعم قال : " فأجب " . وهذا الرجل هو ابن أم مكتوم · و في مسند الإمام أحمد وسنن أبي داود عن عمرو ابن أم مكتوم قال : قلت : يا رسول الله ( أنا ضرير شاسع الدار ولي قائد لا يلائمني ، فهل تجد لي رخصة أن أصلي في بيتي ؟ قال " تسمع النداء " قال : نعم . قال :" لا أجد لك رخصة 

  "ชายตาบอดคนหนึ่งบอกกับท่านรอซู้ลว่า ฉันไม่มีใครจูงพาไปมัสยิด เขาจึงขออนุญาติไห้ยกเว้นเขาไม่ต้องไปละหมาดที่มัสยิด ท่านรอซู้ลก็อนุญาติไห้เขาไม่ต้องมาละหมาดที่มัสยิด เมื่อเขาหันหลังเดินกลับ ท่านรอซู้ลก็เรียกเขาและถามเขาว่าได้ยินเสียงอะซานไหม?(เมื่อเขาอยู่บ้าน) เขาตอบว่าได้ยินท่านรอซู้ลจึงบอกว่างั้นก็วายิบคือจำเป็นต้องมาละหมาดที่มัสยิด ชายตาบอดคนนี้คืออิบนุอุมมักตูม และในหนังสือมุสนัดของท่านอีมามอะห์มัดและสุนันอบีดาวูดจากท่านอัมรอิบนุอุมมักตูมถามท่านรอซู้ลว่า ฉันตาบอดทั้งสองข้างและไม่มีคนพาฉันมามัสยิดฉนั้นฉันขอละหมาดที่บ้านได้ไหมท่านรอซู้ลถามว่า ได้ยินเสียงอะซานไหม เขาตอบว่าได้ยิน ท่านรอซู้ลก็ตอบว่างั้นก็ละหมาดที่บ้านไม่ได้" (บันทึกโดยซอเฮียะมุสลิม)

روى أبو داود و أبو حاتم ابن حبان في صحيحه عن ابن عباس قال : قال رسول الله صلى الله عليه و سلم : " من سمع النداء فلم يمنعه من اتباعه عذر " قالوا : و ما العذر ؟ قال : " خوف أو مرض ، لم تقبل منه الصلاة التي صلاها

รายงานจากท่านอิบนุอับบาสกล่าวว่าท่านรอซู้ลกล่าวว่า "ใครได้ยินเสียงอะซาน ไม่มีอะไรมาห้ามเขาไม่ไห้ไปมัสยิดได้นอกจากอุปสรรคที่จำเป็น ซอฮาบะห์ถามว่า อะไรเล่าคืออุปสรรคที่จำเป็น ท่านรอซู้ลตอบว่า ความกลัว(ภาวะสงครามหรือมีสัตว์ดุร้ายระหว่างทางไปมัสยิด)งั้นอัลลอฮจะไม่รับการละหมาดของเขาที่ทำที่บ้าน" (บันทึกโดยท่านอบูดาวูดและอบูฮาติมอิบนุฮิบบานในซอเฮียะของท่าน )

فالواجب على كل مسلم أن يجيب النداء إذا كان يسمعه، لكن إذا كان لا يسمعه إلا من المكبر فإنه لا يلزمه الذهاب إلى المسجد، فإن ذهب فإن ذلك أفضل وأحسن

เชคอับดุลอาซีซบินบาซบอกว่า  เป็นวายิบสำหรับมุสลิมทุกคนที่ได้ยินเสียงอะซานต้องไปละหมาดที่มัสยิด หากเขาไม่ได้ยินนอกเสียจากต้องใช้เครื่องขยายเสียงเขาก็ไม่จำเป็นต้องไปมัสยิด  แต่ถ้าเขาไปก็เป็นการดีกว่า



والله أعلم بالصواب

✿ ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ ✿


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น