อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

อัลกุรอานเป็นกะลามุลลอฮฺ




                อัลกุรอาน เป็น กะลามุลลอฮฺ หรือคำดำรัสของอัลลอฮฺ ไม่ใช่มัคลูคหรือสิ่งที่ถูกสร้าง นี้คือแนวทางของชาวอะหฺลุซซุนนะฮฺ วัลญะมาอะฮฺ ที่ดำเนินตามแนวทางของอัส-สะลาฟุศศอลิหฺ

                สำหรับ กลุ่มมุอฺตะซิละฮ และกลุ่มอัลชะอิเราะฮฺยุคหลัง ซึ่งทั้งสองกลุ่มเป็นแนวคิดเทววิทยา ที่ใช้สติปัญญาพิจารณาชี้ขาดก่อนหลักฐาน คือใช้สติปัญญาพิจารณาก่อนอัลกุนอานและหะดิษ พวกเขาเชื่อว่าอัลกุรอานเป็นมัคลูคหรือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา

                แต่สำหรับท่านอบูหะซันอัลอัชอารีย์ ซึ่งผู้ก่อตั้งสำนักคิดอัชอะรียฺ มีทัศนะต่าง อัลชะอิเราะฮฺยุคหลัง เกี่ยวกับอัลกุรอาน โดยท่านเชื่อว่า อัลกุรอ่านไม่ใช่มัคลูค ดังที่ท่านได้กล่าวว่า
دليل آخر ومما يدل من كتاب الله على أن كلامه غير مخلوق قوله سبحانه إنما قولنا لشىء إذا أردناه أن نقول له كن فيكون 40 16 فلو كان القرآن مخلوقا لوجب أن يكون مقولا له كن فيكون
หลักฐานอื่นอีก และส่วนหนึ่งจากกิตาบุลลอฮ แสดงบอกว่า กะลาม(คำพูด)ของอัลลอฮนั้น ไม่ใช่มัคลูค คือ คำตรัสของอัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาที่ว่า "
إنما قولنا لشىء إذا أردناه أن نقول له كن فيكون
แท้จริงเมื่อเราปรารถนาคำตรัสของเราแก่สิ่งใด เราก็จะกล่าวแก่มันว่า “จงเป็น” แล้วมันก็เป็นขึ้น"
ดังนั้น ถ้าปรากฏว่า อัลกุรอ่านเป็นมัคลูค ก็จำเป็นจะต้องกล่าวว่า
أن يكون مقولا له كن فيكون
" มันเป็นคำพูดของพระองค์ ว่า จงเป็น แล้วมันก็เป็น" ดู อัลอิบานะฮ เล่ม 1 หน้า 65


              และสำหรับท่านอิมามอะหฺมัด อิบนุฮัมบัล เป็นอุละมาอฺหนึ่งในมัซฮับ โดยรู้จักในนาม มัซฮับฮัมบาลีย์" ท่านอิมามอะหฺมัดอยู่ในยุคของเฆาะลีฟะฮฺอัลมะมูม แห่งราชวงศ์อัลอับบาสิยะฮฺ ซึ่งยึดมั่นในมัซฮับมุอฺตะซิละฮฺ โดยเขามีความคิดว่า อัลกุรอานคือมัคลูกฺ (สิ่งที่ถูกสร้าง)  แต่สำหรับอิมามอะหฺมัดกลับปฏิบัติตรงกันข้าม กล่าวคือท่านปฏิเสธไม่ยอมน้อมรับความเห็นเช่นนั้่น โดยยืนหยัดอยู่บนแนวทางอันเที่ยงตรงและถูกต้องโดยไม่หวาดเกลงต่ออำนาจอิทธิพลใดๆ ของเฆาะลีฟะฮฺท่านนั้น ท่านอิมามอะหฺมัดยังยืนยันว่า อัลกุรอานนั้นคือ กะลามุลลอฮฺ (คำดำรัสของอัลลอฮฺ) กล่าวว่า คัมภีร์อัลกุรอานคือคำดำรัสของอัลลอฮฺ ศุบอานะฮูวะตะอาลา ซึ่งไม่ใช่สิ่งถูกสร้างของอัลลอฮฺ หากบุคคลใดเข้าใจเช่นนั้น ถือว่าเป็นการเข้าใจผิดไปจากอะกีดะฮฺที่ถูกต้อง และเฆาะลีฟะฮฺมะมูม ทราบเรื่องก็สั่งให้จับกุมท่าน แต่ท่านอิมามอะหฺมัดก็ยังยืนยันอากีดะฮฺเดิม จนอิมามอะหฺมัดถูกสั่งเฆี่ยนตีสลบหมดสติ และยังถูกคุมขังอีกเป็นเวลานาน 2 ปี 6 เดือน

والله أعلم بالصواب

✿ ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ ✿



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น