อัลฟาฟิซอิบนุเราะญับ(ร.ฮ)กล่าวว่า
وكل ما روى في فضل الاكتحال في يوم عاشوراء، والإختضاب، والاغتسال فيه، فموضوع لا يصح....
وأما اتخاذه مأتمًا، كما تفعله الرافضة، لأجل قتل الحسين بن علي رضي الله عنهما فيه، فهو من عمل من ضل سعيه في الحياة الدنيا، وهو يحسب أنه يحسن صنعًا، ولم يأمر الله ولا رسوله باتخاذ أيام مصائب الأنبياء وموتهم مأتمًا، فكيف بمن دونهم؟ اهـ.
لطائف المعارف 1/ 58-
และทุกสิ่งทีถูกรายงานในเรื่องความประเสริฐของการเขียนขนตาในวันอาชูรอ, การย้อมผมและการอาบน้ำในวันนั้น คือหะดิษปลอม ไม่เศาะเฮียะ
และสำรับการถือเอาวันอาชูรอ เป็นวันแห่งการไว้อาลัย ดังที่พวกรอฟิเฏาะฮ(ชีอะฮ)ได้ปฏิบัติมัน เพื่อ(ไว้อาลัย)การฆาตรกรรมท่านหุซัยนฺ บิน อาลี (ร.ฎ)ในวันนั้น มันเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำของ ผู้ที่การขวนขวายของพวกเขาสูญสิ้นไป ในการมีชีวิตในโลกนี้และเขาคิดว่าแท้จริงพวกเขาปฏิบัติความดีแล้ว”ทั้งที่อัลลอฮและรอซูลของพระองค์ไม่ได้สั่งให้ยึดเอาวันที่บรรดานบีประสบ โศกนาฏกรรมและการตายของพวกเขาเป็นวันแห่งการไว้อาลัยแล้วผู้ที่อยู่ในฐานะต่ำกว่าพวกเขา(พวกบรรดานบี)จะเป็นอย่างไรเล่า –ละฏออิฟอัลมะอารีฟ 1/58
การกำหนดวันแสดงการไว้อาลัยต่อ โศกนาฏกรรม และการตายของบรรดานบี ไม่มีคำสั่งจากอัลลอฮและรอซูลให้ปฏิบัติ แล้วบรรดาคนที่มีฐานะตำกว่านบี จะให้ปฏิบัติต่อพวกเขาได้อย่างไรเล่า
คำว่า “ผู้ที่การขวนขวายของพวกเขาสูญสิ้นไป ในการมีชีวิตในโลกนี้”
มาจากอายะฮที่ว่า
الَّذِينَ ضَلَّ سَعْيُهُمْ فِي الْحَيَاةِ الدُّنْيَا وَهُمْ يَحْسَبُونَ أَنَّهُمْ يُحْسِنُونَ صُنْعًا
“คือบรรดาผู้ที่การขวนขวายของพวกเขาสูญสิ้นไป ในการมีชีวิตในโลกนี้ และพวกเขาคิดว่าแท้จริงพวกเขาปฏิบัติความดีแล้ว”-อัลกะฮฟฺ/104
อิหม่ามอิบนุกะษีร(ร.ฮ)อธิบายว่า
( الَّذِينَ ضَلَّ سَعْيُهُمْ فِي الْحَيَاةِ الدُّنْيَا ) أَيْ : عَمِلُوا أَعْمَالًا بَاطِلَةً عَلَى غَيْرِ شَرِيعَةٍ مَشْرُوعَةٍ مَرْضِيَّةٍ مَقْبُولَةٍ ،
(คือบรรดาผู้ที่การขวนขวายของพวกเขาสูญสิ้นไป ในการมีชีวิตในโลกนี้) หมายถึง พวกเขาปฏิบัติบรรดาการงานที่เป็นโมฆะ บนอื่นจากสิ่งที่ถูกบัญญัติ ทีได้รับความพึงพอพระทัย ,ที่ถูกรับรอง(จากอัลลอฮ) – ตัฟสีรอิบนุกะษีร 5/202
อัลลามะฮ อัลอัจญฮูรีย์(ร.ฮ) ปราชญมัซฮับชาฟีอีย์ กล่าวว่า
وَلَقَدْ سَأَلْتُ بَعْضَ أَئِمَّةِ الْحَدِيِثِ وَالْفِقْهِ عَنِ الْكَحْلِ وَطَبْخِ الْحُبُوْبِ وَلُبْسِ الْجَدِيْدِ وَإِظْهَارِ السُّرُوْرِ فَقَالَ لَمْ يَرِدْ فِيْهِ حَدِيْثٌ صَحِيْحٌ عَنِ النَّبِيِّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَلَا عَنْ أَحَدٍ مِنَ الصَّحَابَةِ وَلَا اِسْتَحَبَّهُ أَحَدٌ مِنْ أَئِمَّةِ الْمُسْلِمِيْنَ وَكَذَا مَا قِيْلَ إِنَّهُ مَنْ اِكْتَحَلَ يَوْمَهُ لَمْ يَرْمَدْ ذَلِكَ الْعَامَ
وَمَنْ اِغْتَسَلَ يَوْمَهُ لَمْ يَمْرَضْ كَذَلِكَ
และแท้จริง ข้าพเจ้าได้ถามบางส่วนของบรรดาอิหม่ามหะดิษและฟิกฮ เกี่ยวกับการเขียนตา ,การหุงต้มเมล็ดพืช(เช่นการกวนขนมอาชูรอ –ผู้แปล) การสวมใส่เสื้อผ้าใหม่ และการแสดงออกซึ่งความสนุกสนาน (หมายถึงในวันอะชูรอ) แล้วเขากล่าวว่า “ไม่ปรากฏหะดิษเศาะเฮียะ จากท่านนบี ศอ็ลฯ ในมัน ,ไม่ปรากฏ จากคนหนึ่งคนใดจากเหล่าเศาะหาบะฮ และ ไม่มีคนหนึ่งคนใดจากบรรดาอิหม่ามแห่งมุสลิม ส่งเสริมมัน และในทำนองเดียวกันนั้น (หมายถึงไม่ปรากฏหลักฐานเศาะเฮียะเช่นกัน) คือ สิ่งที่ได้ถูกกล่าวว่า (หรือมีผู้กล่าวว่า) “ผู้ใดเขียนตาในวันนั้น (วันอาชูรอ) เขาก็จะไม่เป็นโรคตาแดง ในปีนั้น และผู้ใดอาบน้ำในวันนั้น(วันอาชูรอ) เขาจะไม่ป่วย ดังเช่นดังกล่าวนั้น – อิอานะฮอัฏฏอลิบีน 2/301
>>>>>>>>>
ในกรณีกวนขนมอาชูรอ นั้น ผู้ทำมักจะอ้างว่า ไม่ได้เกี่ยวกับศาสนา แค่ทำเป็นประเพณีตามที่ปู่ย่าตายายปฏิบัติสืบทอดกันมา จึงสงสัยว่า ขนมสูตรนี้ ทำไมไม่ทำในวันอื่น แต่มาทำเจาะจงในวันอาชูรอ มีความเชื่ออะไรแอบแฝงอยู่หรือ ดังเช่น ที่อัลลามะฮอัลอัจญฮูรีย์ บอกว่า มีผู้กล่าวว่า ใครเขียนตาในวันอาชูรอ เขาจะไม่เป็นโรคตาแดงในปีนั้น เป็นต้น
والله أعلم بالصواب
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น