อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558

การละหมาดสุนัตหลักอาซานครั้งแรกก่อนละหมาดวันศุกร์



ตอบโดย อ. ปราโมทย์ ศรีอุทัย

ถาม

อัสลามุอะลัยกุมครับอาจารย์
ที่อาจารย์บอกว่าไม่มีละหมาดหลังฮาซานครั้งแรก แล้วนถ้าาอ้างถึง หะดีษนี้ล่ะครับ أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ بَيْنَ كُلِّ أَذَانَيْنِ صَلَاةٌ ثَلَاثًا لِمَنْ شَاءَ

“แท้จริงท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า ระหว่างสองอะซาน (คืออะซานกับอิกอมะฮ์) นั้น มีละหมาด ท่านกล่าวถึงสามครั้ง (ครั้งที่สามท่านนะบีย์กล่าวว่า) สำหรับผู้ที่ประสงค์ (จะละหมาด) ” รายงานโดยอัลบุคอรีย์ (หะดีษลำดับที่ 627) และมุสลิม (หะดีษลำดับที่ 729)

ตอบ

ที่ผมบอกว่า "อะซานครั้งแรก" หมายถึงอะซานครั้งแรกของ "ละหมาดวันศุกร์" ซึ่งเพิ่งจะบังเกิดขึ้นในสมัยของท่านอุษมาน(หรือท่านมุอาวิยะฮ์ ตามทัศนะที่ขัดแย้งกัน)จนกลายเป็นว่า ในวันศุกร์จะมีการอะซานถึง 2 ครั้ง การละหมาดหลังอะซานครั้งแรกที่เพิ่งบังเกิดขึ้นจึงไม่มีหลักฐานจากซุนนะฮ์ให้ละหมาดสุนัตหลังอะซานครั้งนี้ หรือแม้กระทั่งหลังอะซานจริงในวันศุกร์ก็ไม่มีละหมาดสุนัตเช่นเดียวกัน เพราะหลังจากอะซานแล้ว คอฏีบก็จะอ่านคุฏบะฮ์ต่อทันที .. ที่กล่าวมาจึงเป็นคนละประเด็นกับหะดีษบทนั้นที่คุณอ้างถึงครับ เพราะหะดีษบทนั้นหมายถึงการอะซานใน "ละหมาดฟัรฺฎู" ซึ่งมีแค่ครั้งเดียวแล้วจึงมีการอิกอมะฮ์ละหมาดเลย ท่านนบีย์จึงส่งเสริมให้ละหมาดสุนัต 2 ร็อกอะฮ์ระหว่างอะซานและอิกอมะฮ์ โดยท่านใช้สำนวนเรียกอะซานและอิกอมะฮ์นี้ว่า "อะซานัยน์" ดังเป็นที่ทราบกันดี ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น