อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ช่วงเวลาการเนียต และการกล่าวคำเนียต(อุศ็อลลีย์)



ตอบโดย อ. ปราโมทย์ ศรีอุทัย

ถาม

อัสลามูอาลัยกุม ค่ะ อาจารย์ ดิฉันสงสัยเรื่องการเหนียตนิดหนึ่งค่ะ ที่เคยศึกษามา สำหรับศิลอดเดือนรอมาฎอน ให้มีเหนียตช่วงก่อนเข้าเวลาละหมาดศุบฮี หากอาบน้ำละหมาดขณะจะล้างหน้า หากละหมาด ขณะยกมือกล่าวตักบีรร่อตุลเอียะหฺรอม จึงอยากทราบว่าหากเราเหนียตก่อนล้างมือ หรือก่อนยกมือตักบีรฺได้หรือไม่ค่ะ(เช่น เหนียตละหมาดมาตั้งแต่เดินมายังมัสยิด หรือเมื่ออาบนำละหมาดเสร็จ) และหากเหนียตขณะตักบีรฺยังไม่ครบ แต่เหนียตเสร็จเมื่อเอามือกอดอกแล้ว ละหมาดนั้นจะใช้ได้ไหมค่ะ
และการเหนียตต้องระบุครบที่กำหนดและตามลำดับไหมค่ะ เช่น ละหมาดซุฮีย์โดยเป็นมะมูม หากเหนียตเพียงละหมาดซุฮ์รี 4 ร็อกอะฮ์ โดยไม่เหนียตส่วนอื่นอีก หรือเหนียตว่าข้าพเจ้าละหมาด 4 ร็อกอะฮ์ก่อนเหนียตละหมาดซุฮรีฮ์ การเหนียตเช่นนี้ใช้ได้ไหมค่ะ (เคยได้ยินคำว่าตะยีนส่วนหนึ่งของการเหนียต)
และยังสงสัยว่าการเหนียตนี้ต้องนึกในใจ หรือต้องกล่าวออกมา หรือต้องกล่าวพร้อมนึกในใจค่ะ เคยได้ยินว่า การกล่าวออกมาซึ่งเป็นคำเหนียต ขณะยืนตรงตรงก่อนยกมือตักบีรฺ ยังไม่เข้าเวลาละหมาดทำได้ และกียาสกับหะดิษที่นบีศิลอดสุนัต และตอนทำฮัจญ์ การกล่าวคำเหนียตนั้นเป็นผลดีเป็นที่ส่งเสริมกับผู้ละหมาด ผู้อาบน้ำละหมาด และถือศิลอด คือจะทำให้จิตใจมั่นคง มีสมาธิ ไม่วอกแวก และเป็นเพียงสุนัตไม่ใช่วาญิบ และไม่ใช่บิดอะฮฺลุ่มหลง คำกล่าวเช่นนี้ถูกต้องไม่ค่ะ
ดิฉันเคยเห็นผู้ละหมาดหลายคน กล่าวคำเหนียตดังมาก และยกมือตักบีรฺหลายครั้ง เคยตามละหมาด อีหม่ามตักบีรฺ ก็ยกมือตักบีรฺตาม แต่อีหม่ามกลับออกและยกมือตักบีรฺใหม่ ต้องรอจนกว่าอีหม่ามกอดอกและกล่าวดุอาอ์แล้วจึงยกมือกล่าวตักบีรฺตามค่ะ

ตอบ

วะอลัยกุมุสสลาม ..
 เรื่องการเนียตถือศีลอด มีคำสั่งชัดเจนจากท่านศาสดา ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัมให้เราเนียตหรือตั้งเจตนาจะถือศีลอดตั้งแต่ตอนกลางคืน คือ ก่อนแสงอรุณจะปรากฏขึ้น ..

ส่วนการเนียตละหมาด ทัศนะของมัษฮับชาฟิอีย์กล่าวว่าให้เนียต "พร้อม" กับการกล่าวตักบีรอตุ้ลเอี๊ยะห์รอม
 ขณะที่อีก 3 มัษฮับคือมัษฮับหะนะฟีย์, มัษฮับมาลิกีย์ และมัษฮับหัมบะลีย์กล่าวว่า อนุญาตให้เนียต "ก่อนตักบีรอตุ้ลเอี๊ยะห์รอมเล็กน้อย" ได้ ดังข้อมูลในหนังสือ อัล-ฟิกฮ์ อะลัลมะษาฮิบ อัล-อัรฺบะอะฮ์

ผมจึงเห็นว่า ถ้าเราเนียตละหมาดตอน "ยืนตรง" ก่อนตักบีรอตุ้ลเอี๊ยะห์รอมนั่นแหละครับจะเหมาะสมและสอดคล้องกับเจตนารมณ์จากคำกล่าวของทั้งสามมัษฮับมากที่สุด
ส่วนผู้ที่กล่าวว่า เราเนียตมาจากบ้านก็ได้ ผมว่ามัน "เว่อร์" เกินไปครับ แม้จะไม่มีหลักฐานห้ามก็ตาม ...

ส่วนการกล่าว
"อุศ็อลลีย์ ......... ก่อนการตักบีรอตุ้ลเอี๊ยะห์รอมในทุกๆละหมาด
เป็นสิ่งที่ไม่มีหลักฐาน

ซึ่งท่านอิหม่ามนะวะวีย์นักวิชาการมัษฮับชาฟิอีย์เองยังกล่าวว่า ที่มาของการอ่านอุศ็อลลีย์ เกิดจากความเข้าใจผิดของนักวิชาการบางคนในมัษฮับชาฟิอีย์ต่อคำกล่าวของท่านอิหม่ามชาฟิอีย์เรื่องการกล่าวตัลบิยะฮ์ในการทำหัจญ์

ผมจึงเห็นว่า องค์ประกอบของอิบาดะฮ์ใดที่ไม่มีหลักฐานรองรับ เราก็ไม่ควรนำมาปฏิบัติ และนักวิชาการจำนวนมากก็หุก่มว่า การอ่านอุศ็อลลีย์ก่อนการตักบีรอตุ้ลเอี๊ยะห์รอมเป็นบิดอะฮ์ครับ ...



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น