อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2558

พระเยซูทำนายการมาของศาสดามุฮัมมัด ในไบเบิลที่พบในตุรกี


หนังสือพิมพ์รายวัน Hurriyet รายงานว่า สำนักวาติกันได้ออกหนังสืออย่างเป็นทางการ เพื่อขอตรวจสอบคัมภีร์ไบเบิ้ลอายุ 1,500 ปี ที่ทางการตุรกีเก็บรักษาไว้หลังจากมีการค้นพบเมื่อ 12 ปีที่แล้ว
มีรายงานว่าคัมภีร์ดังกล่าวได้บรรจุหลักฐานการเทศนาสั่งสอนในยุคต้นๆ ของพระเยซู โดยเขียนตัวอักษรด้วยทองคำ บนหนังสัตว์ ด้วยภาษาอาราเมอิค (Aramaic) ซึ่งเป็นภาษาที่พระเยซูใช้ในการเทศนาในสมัยนั้น
มีรายงานข่าวจาก National Turk ว่า คัมภีร์ดังกล่าวถูกยึดได้จากสถานที่ซ่องสุมของแก๊งมิจฉาชีพซึ่งหากินอยู่แถบเมดิเตอเรเนี่ยน ซึ่งไบเบิ้ลนี้เป็นหนึ่งในจำนวนของเก่าแก่โบราณหลายชิ้นที่ถูกขโมยมา
หนังสือพิมพ์ Today’s Zaman รายงานว่า คัมภีร์เล่มนี้ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี และยังมีการคาดเดาว่าอาจจะเป็นสำเนาของ Gospel of Barnabas ซึ่งเป็นตอนหนึ่งของคัมภีร์ Old Testament (คัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับเก่า) ที่ถูกตัดออกไปในช่วงของการสังคายนาไบเบิ้ล เนื่องจากมีข้อความที่ขัดแย้งและบันทึกคำกล่าวของพระเยซู ถึงการมาของศาสดาคนสุดท้ายซึ่งก็คือ ศาสดามุฮัมมัด อย่างเปิดเผยโจ่งแจ้ง
คัมภีร์ที่มีรายงานว่ามีมูลค่าถึง 22ล้านดอลล่าร์ มีคำทำนายของพระเยซูในเรื่องการมาของศาสดามุฮัมมัด แต่ถูกปิดบังไว้โดยคริสตจักรนานหลายปี
คัมภีร์ไบเบิลอายุ 1,500ปี ที่เชื่อกันว่าพระเยซูได้บอกไว้ล่วงหน้าถึงการมายังโลกนี้ของศาสดามุฮัมมัด ได้ดึงดูดความสนใจจากสำนักวาติกันในสัปดาห์นี้
มีรายงานว่า พระสันตะปาปาเบเนดิกที่ 16ได้ขอดูคัมภีร์เล่มนี้ ซึ่งมันได้ถูกซ่อนไว้ที่ประเทศตุรกีมาเป็นเวลา 12ปีแล้ว ตามการรายงานของ เดอะเดลี่ เมล
เออร์ตุกรัล กูเนย์ รัฐมนตรีวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของตุรกีบอกกับหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ว่า คัมภีร์เล่มนี้ ซึ่งมีรายงานว่ามีมูลค่าถึง 22ล้านดอลล่าร์ ได้กล่าวถึงคำทำนายของพระเยซูในเรื่องการมาของศาสดาท่านี้ แต่ถูกปกปิดไว้โดยคริสตจักรเป็นเวลาหลายปีเนื่องจากมันมีความเหมือนกันอย่างมากกับทัศนะของอิสลามในเรื่องของพระเยซู
“พระคัมภีร์กล่าวถึงพระเยซูในฐานะเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ไม่ใช่พระเจ้า ซึ่งตรงกันกับความเชื่อของอิสลาม เป็นการปฏิเสธแนวคิดเรื่องพระเจ้าสามองค์และการตรึงกางเขน และเปิดเผยเรื่องที่พระเยซูได้ทำนายไว้ถึงการมาของศาสดามุฮัมมัด”หนังสือพิมพ์รายงาน
ในโองการหนึ่งของพระคัมภีร์ กล่าวว่าพระองค์ได้บอกกับนักบวชคนหนึ่ง "ควรจะเรียกเมสไซอาห์ (ผู้มาโปรดโลก) คนนั้นว่าอย่างไร? มุฮัมมัดคือชื่ออันจำเริญของเขา"
จากรายงานนี้ ชาวมุสลิมอ้างว่าคัมภีร์เล่มนี้ ซึ่งหลายคนบอกว่าเป็นพระคัมภีร์บาร์นาบัส เป็นส่วนเพิ่มเติมของพระคัมภีร์ดั้งเดิมของมาร์ค, แมทธิว, ลู้ค และจอห์น
เซนต์บาร์นาบัสเป็นผู้ก่อตั้งคริสตจักรไซปรัส เป็นชาวคริสเตียนช่วงต้นซึ่งต่อมาได้ชื่อว่าเป็น อัครธรรมทูต
กูเนย์กล่าวว่า สำนักวาติกันได้ร้องขออย่างเป็นทางการเพื่อดูคัมภีร์เล่มนี้ ซึ่งตุรกีค้นพบระหว่างปฏิบัติการต่อต้านการลักลอบขนส่งสินค้าของตำรวจเมื่อปี 2000
มีรายงานว่า ขบวนการนั้นได้ลักลอบขนส่งสิ่งของหลากหลายชนิดที่ถูกยึดได้ระหว่างปฏิบัติการ รวมทั้งคัมภีร์ไบเบิลเล่มนี้ และโบราณวัตถุทั้งหมดถูกเก็บไว้ในตู้นิรภัยที่ศาลากลางกรุงแองการ่า
มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลาก่อนที่จะถูกส่งมอบต่อไปให้แก่พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์แองการ่า ที่ซึ่งมันจะถูกจัดแสดงในเร็วๆ นี้
สำเนาภาพถ่ายหนึ่งหน้าจากคัมภีร์เย็บด้วยหนังและตัวอักษรสีทอง ที่เขียนด้วยภาษาอราเมอิกซึ่งเป็นภาษาที่พระเยซูพูด มีมูลค่าประมาณ 2.4ล้านดอลล่าร์
แต่ได้มีความสงสัยเกิดขึ้นในเรื่องความแท้จริงของคัมภีร์ที่เขียนด้วยลายมือโบราณเล่มนี้
สาธุคุณอิห์ซาน ออซเบก บาทหลวงโปรเตสแตนท์ กล่าวว่า คัมภีร์เล่มนี้กล่าวกันว่ามาจากศตวรรษที่ห้าหรือหก ขณะที่ เซนต์บาร์นาบัสมีชีวิตอยู่ในศตวรรษแรกเพราะเป็นอัครสาวกคนหนึ่งของพระเยซู
“คัมภีร์เล่มที่อยู่ในแองการ่าอาจเขียนขึ้นโดยสาวกคนหนึ่งของเซนต์บาร์นาบัส”เขาบอกกับหนังสือพิมพ์ ทูเดย์ซามาน
“เนื่องจากมีระยะเวลาประมาณ 500ปีระหว่างเซนต์บาร์นาบัสกับการเขียนคัมภีร์ไบเบิลเล่มนี้ มุสลิมอาจจะผิดหวังที่ได้เห็นว่าคัมภีร์เล่มนี้ไม่ได้พูดถึงสิ่งที่พวกเขาอยากจะเห็น... มันอาจจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาในพระคัมภีร์ของบาร์นาบัส”ออซเบกกล่าวเสริม
แต่ข้อสงสัยจะถูกเปิดเผยออกมา
อายุที่แท้จริงของคัมภีร์ไบเบิลเล่มนี้จะได้รับการตรวจสอบด้วยเครื่องสแกนทางวิทยยาศาสตร์ ศาสตราจารย์โอเมอร์ ฟารุค ฮาร์มาน ศาสตราจารย์ด้านศาสนศาสตร์บอกกับเดลี่เมล ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะมีการประกาศว่ามันเขียนขึ้นโดยเซนต์บาร์นาบัสหรือสาวกคนหนึ่งของท่าน
แหล่งข้อมูล - fatonionline

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น