อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2558

ขีดเส้นใต้สีแดง นัยและข้อสังเกตจากโศกนาฏกรรมที่มีนา



จากเหตุโศกนาฏกรรมที่มีนา ในวันที่ 10 ซุลหิจญะฮฺ ปีนี้ ได้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆนานา

ก่อนอื่น เราขอ Takziyah ต่อพี่น้องที่เสียชีวิตทุกท่าน ขออัลลอฮฺทรงประทานให้พวกเขาได้เป็นผู้ที่ตายชาฮีด และตอบรับเป็นหัจญ์ที่มับรูร

ในเหตุโศกนาฏกรรมในคร้ังนี้ มีนัยและขีดเส้นใต้สีแดง เพื่อเป็นข้อสังเกตบางประการ

แน่นอนที่สุด หลังเหตุโศกนาฏกรรมเกิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ประเทศที่ตกเป็นจำเลยและถูกโจมตี คือ ซาอุดีอาระเบีย

เราจะเห็นว่า หลังเกิดเหตุการณ์ อีหร่านได้แถลงโจมตีความบกพร่องของรัฐบาลซาอุดีอาระเบียทันที ความจริง ก็น่าจะถูกวิจารณ์ แต่ ก็มีการวิจารณ์รัฐบาลอีหร่านกลับว่า กำลังฉวยโอกาส หรือ หาประโยชน์ทางการเมือง จากซากศพและเลือดเนื้อของพี่น้อง

ที่ออกโรงโจมตีอย่างเปิดเผยอีกกลุ่ม คือ พวก Liberalism ฉวยโอกาสโจมตีและดิสเครดิตซาอุดีอาระเบียและอิสลามไร้ประประสิทธิภาพและทำให้เกิดปัญหาในการจัดการ ซึ่งพวกเขาถูกตอบโต้กลับว่า .พวกเขาลืมไปว่า ขนาดในเวทีคอนเสิร์ตของพวเขา ซึ่งเป็นที่ชุมนุมของคนกลุ่มเล็กๆ ก็ยังเกิดเหตุโศกนาฏกรรมใหญ่เป็นประจำ

แต่ข้อสังเกตที่ต้องขีตเส้นใต้และมีน้ำหนักมากที่สุด คือเกิดจาก การสร้างสถานการณ์ และ มีการเขียนสคริปต์เพื่อโจมตีทางการเมืองเป็นอย่างดี

จากการติดตามจากการโพสต์ตามสื่อออนไลน์ ค่อนข้างจะให้น้ำหนักกับการสร้างสถานการณ์ ...ส่วนใหญจะให้นำ้หนักไปที่การสร้างสถานการณ์จากกลุ่มชีอะฮฺ....

ดูจากรูปการณ์ กลุ่มผู้แสวงบุญหรือหุจญาจที่เสียชีวิตเป็นจำนวนมากในเหตุโศกนาฏกรรมในคร้ังนี้ คือ ชาวอีหร่าน จากรายงานข่าวของหลายสำนักข่าว รายงานว่า เหตุโศกนาฏกรรมในครั้งนี้ เกิดขึ้นขณะที่มีการเดินเข้ามาของคลื่นหุจญาจจากประเทศอีหร่านเป็นจำนวนมาก

มีพยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า มีหุจญาจจากประเทศอีหร่านจำนวนหนึ่ง เดินทางกลับจากการขว้างหินที่ญุมรอตตามเส้นทางเดียวกันกับ บรรดาหุจญาจจำนวนมากที่กำลังเดินทางไปขว้างหินที่ญุมรอต ทำให้ทั้งสองกลุ่มเกิดการประจันหน้ากัน เกิดเหตุล้มทับและเหยียบกันตายเป็นจำนวนมาก ซึ่งความจริงแล้ว คนที่เดินกลับจากการไปขว้างหิน เขาต้องเดินออกไปตามเส้นทางอื่นที่กำหนดไว้แล้ว (ก็อดดาร็อลลอฮ มาชาอ์)

อย่างไรก็ตาม เราท้ังหลายก็ทราบกันดีว่า สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างซาอุดีอาระเบีย กับ อีหร่านในตอนนี้ กำลังร้อนแรง กองกำลังพันธมิตรภายใต้การนำของซาอุดีอาระเบียกำลังรุกคืบ เพื่อยึดคืนเมืองหลวงของเยเมน ซึ่งถูกพวกชีอะฮฺ อัลฮูซีย์ ที่นิยมอีหร่านยึดครอง

แน่นอน อีหร่านมีผลประโยชน์ใหญ่หลวง จากการลดความน่าเชื่อถือ หรือ ลดเครดิตของซาอุดีอาระเบียในสายตาของประชาคมระหว่างประเ่ทศ การสร้างสถานการณ์ในช่วงเทศกาลหัจญ์ จึงทรงประสิทธิผลและได้ผลมากที่สุด

ในด้านอุดมการณ์ วันที่ 10 ซุลหิจญะฮฺ เป็นวันที่มีความหมายและมีนัยเป็นอย่างยิ่ง สำหรับชาวชีอะฮฺ

แล้วมัน มีความหมายอย่างไร?

เราทราบกันดีจากบันทึกทางประวัติศาสตร์ว่า ในปีที่ 8 ของการหิจเราะห์ของท่านนบีฯน้ัน เป็นปีที่บทบัญญัติในเรื่องหัจญ์ถูกประทานลงมา ในปีน้ัน ท่านนบีฯยังไม่ได้ไปทำหัจญ์ เพราะ ในการทำหัจญ์น้ัน ยังมีพวกมุชริกเจือปนอยู่ และพวกมุชริกยังคงเปลือยกายในขณะฏอวาฟรอบๆบัยตุลลอฮฺ

แต่ในปีน้ัน ท่านนบีฯได้สั่งให้อบูบักรและบรรดาซอฮาบะฮฺจำนวนหนึ่งไปทำหัจญ์ ซึ่งในปีนั้นท่านนบีฯได้ส่ังให้ท่านอบูบักรฺแจ้งประกาศที่สำคัญของท่านนบีฯ 2 เรื่อง คือ
(1) หลังจากปีนี้ ห้ามพวกมุชริกมาทำหัจญ์อีก
(2) หลังจากปีน้ี ห้ามเปลือยกายในช่วงฏอวาฟรอบๆบัยตุลลอฮ
ในขณะน้ันเอง ซูเราะห์บารออะฮฺ หรือ ซูเราะห์ อัตเตาบะห์ถูกประทานลงมา ซึ่งเนื้อหาของซูเราะห์นี้ส่วนใหญ่ เป็นการยกเลิกบรรดาพันธสัญญาทั้งหลายที่มีต่อพวกมุชริกในสมัยน้ัน

ดังน้ัน วันที่ 10 ซุลหิจญะห์ จึงเป็นวันที่ อบูบักรฺ แจ้งประกาศสำคัญสองข้อของท่านนบีฯดังกล่าวข้างต้น

พวกมุชริกทั้งหลายจึงถูกสั่งให้ออกมักกะห์ตั้งแต่บัดน้ันเป็นต้นมา และในปีต่อมา(ปี่ที่ 9 ของการหิจเราะห์ท่านนบีฯ) ท่านนบีฯก็ได้เดินทางไปทำหัจญ์

แล้วคำประกาศดังกล่าว มันเกี่ยวข้องกับพวกชีอะฮฺ อย่างไร?

โดยสรุป พวกชีอะฮฺ มีความเห็นว่า ผู้ที่สมควรนำคำสั่งท้ังสองประการจากท่านนบีฯ ไปประกาศสู่สาธารณชน คือ ท่านอาลี (รอฏิยัลลอฺ อันฮู)

ในมุมมองของพวกชีอะฮฺ มองในมิติของรัฐ ซึ่งมองว่า อาลี เป็นผู้ที่มีสิทธิโดยชอบธรรมในการเป็นคอลีฟะฮฺหลังจากท่านนบีฯเสียชีวิต พวกเขามองว่า อบูบักร ปล้นหรือยึดอำนาจจากท่านอาลี

ดังน้ัน การโจมตี อบูบักร จากกลุ่มชีอะฮฺจึงมีตลอดมา

วันที่ 10 ซุลหิจญะฮฺ จึงเป็นวันที่บรรดาผู้ประกอบพิธีหัจญ์ชาวชีอะฮฺ ใช้โอกาสนี้ ประท้วงเชิงสัญญลักษณ์ต่อสถานการณ์ดังกล่าว โดยพวกเขาอ้างว่า เป็นการบารออะฮฺจากพวกมุชริก

แต่เมื่อเราเหลียวมองดูจาก การปฏิบัติจริงของชาวชีอะฮฺ มันหาใช่การประท้วงต่ออบูบักรฺและพวกซุนนีไม่ แต่มันเป็นการยกย่องเชิดชูท่านอาลีและท่านหูซัยนฺเสียมากกว่า ดังจะเห็นได้จากการตัลบียะฮฺในช่วงประกอบพิธีหัจญ์ของพวกชีอะฮฺ แทนที่จะกล่าวว่า
"ลับบัยกัลลอฮฺกัลลอฮฺ ลาชารีกาลัก...พวกเขากลับไปกล่าวว่า...ลับบัยกา ยา ฮูเซ็น" ซึ่งเรามักจะเห็นป้ายพวกชีอะฮฺชูป้ายนี้เป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงพวกเขาเดินขบวน

นัยและข้อสังเกตที่ได้ขีดเส้นใต้สีแดงข้างต้น ข้อสรุป น่าจะมีนำ้หนักไปที่ เหตุโศกนาฏกรรมที่ทุ่งมีนาในคร้ังนี้ เกิดจากการสร้างสถานการณ์ของชาวชีอะฮฺ

ถึงแม้ จะมีข้อบกพร่องในการบริหารจัดการของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย แต่จะมองข้ามประเด็นการสร้างสถานการณ์ของพวกชีอะฮฺไม่ได้เป็นอันขาด

เรื่องนี้ จะมีต้องมีการสืบสวน สอบสวน หาข้อเท็จจริงอย่างมืออาชีพ เป็นกลางและยุติธรรมต่อไป

ส่วนข้อโจมตีจากบางสำนักข่าวว่า เหตุโศกนาฏกรรมในคร้ังนี้ เกิดจาก การชนหรือติดขบวน หรือ ปิดเส้นทางเพื่อขบวนของโอรสของกษัตริย์ สัลมาน บิน อับดุลอาซิส แห่งซาอุดิอาระเบียผ่านน้ัน

มันเป็นข้อกล่าวหาและโจมตีที่ไร้เหตุผลและน้ำหนักโดยสิ้นเชิง

เพราะ รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ได้เตรียมสถานที่ขว้างหินที่ญุมรอตในชั้นใต้ดินสำหรับขุนนางชั้นผู้ใหญ่และบรรดาอาคันตุกะของกษัตริย์แห่งซาอุดีอาระเบียเป็นอย่างดี จึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่คนระดับมกุฏราชกุมาร ของซาอุดีอาระะเบียต้องไปแย่งเบียดเสียดกับคนเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาน้ัน เพื่อไปขว้างหินที่ญุมรอต คำกล่าวหาดังกล่าว จึงไม่มีน้ำหนัก

อนึ่งบทความนี้ ผู้เขียนได้แสดงความเห็นโดยบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้มีเจตนาใส่ร้าย หรือ เพื่อแก้ตัวแก่ฝ่ายใดท้ังสิ้น

จาก www.dakwatuna.com
http://www.dakwatuna.com/…/benarkah-insiden-mina-by-design/…






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น