อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เมื่อทัศนะผู้รู้ขัดแย้งกับสุนนะฮนบี เราจะเลือกทางใด






          ผู้รู้ไม่ว่าจะระดับใด ย่อมมีถูก มีผิด  และมีการผิดพลาดในการวินิจฉัย  แล้วถ้าเขามีทัศนะไม่ตรงกับสุนนะฮ  เราจะตามใคร และเลือกทางใด

و عن سالم بن عبد الله بن عمر قال: إني لجالس مع ابن عمر رضي الله عنه في المسجد، إذ جاءه رجلٌ من أهل الشام فسأله عن التمتع بالعمرة إلى الحج؟ فقال ابن عمر: حسن جميل، فقال: فإن أباك كان ينهى عن ذلك؟ فقال: ويلك، فإنْ كان أبي قد نَهَى عن ذلك، و قد فعله رسول الله صلى الله عليه وسلم و أمر به، فبقول أبي تأخذ، أم بأمرِ رسول الله صلى الله عليه وسلم؟! قال: بأمر رسول الله صلى الله عليه وسلم، فقال: فقُمْ عني (6

รายงานจาก สาลิม บุตร อับดุลลอฮ บุตร อุมัร เขากล่าวว่า " แท้จริงข้าพเจ้าได้นั่งอยู่กับ ท่านอิบนิอุมัร ในมัสยิด ปรากฏว่า มีชายคนหนึ่ง จากชาวเมืองชาม มาหาเขา แล้วถามเกียวกับการทำหัจญตะมัตตัวะ ท่านอิบนุอมัรกล่าวตอบว่า " ดีและสวยงาม" แล้วเขา(ชายผู้นั้น)กล่าวว่า " ความจริงพ่อของท่าน(หมายถึงอุมัร)ได้ห้ามเรื่องดังกล่าวไว้นะ ? ท่านอิบนุอุมัรกล่าวว่า"เสียหายแล้วละท่าน ! แล้วถ้าหากพ่อของฉันได้ห้ามเรื่องนั้น แต่ความจริง ท่านรซูลุ้ลลอฮ ศอลฯได้ปฏิบัติและได้สั่งเอาไว้ แล้วท่านจะเอาคำพูดขอพ่อฉันหรือ คำสั่งของท่านรซูลุลลอฮ(สอลฯ มายึดถือล่ะ ? เขา(ชายผู้นั้น)ตอบว่า" (ข้าพเจ้า)เอาคำสั่งของรซูลุลลอฮ ศอลฯ มายึดถือ แล้วเขา(อิบนิอุมัร)กล่าวว่า "ดังนั้นจงลุกขึ้นไปเสียจากฉัน
- 6-إسناده صحيح ، رواه الطحاوي في شرح معانى الآثار (1/272) وأبو يعلى في مسنده ، انظر مقدمة صفة الصلاة للعلامة الألباني (ص32) .
.................................................
หะดิษข้างต้นแสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าใครก็ตามหากมีทัศนะไม่ตรงกับสุนนะฮของท่านรอซูล เขาก็ต้องเอาสุนนะฮรอซูล ศอลฯ มาปฏิบัติ ไม่ใช่ตักลิดตามผู้อื่น
อิหม่ามชาฟิอี (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
أجمع المسلمون على أنَّ مَن استبان له سُنَّةٌ عن رسول الله صلى الله عليه وسلم لم يحل له أنْ يَدَعها لقول أحد
บรรดามุสลิมต่างก็มีมติเอกฉันท์ว่า ผู้ใดที่สุนนะฮจากรซูลุลลอฮ ศอลฯ ได้ปรากฏชัดเจนแก่เขาแล้ว ก็ไม่อนุญาตให้เขาละทิ้งมัน(สุนนะฮ) เพื่อไปเอาคำพูดของคนหนึ่งคนใด
الفلاني ص 68
อิมามชาฟิอีย์เคยพูดไว้ว่า
إِذَا وَجَدْتُمْ فِي كِتَابِي خِلافَ سُنَّةِ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَقُولُوا بِسُنَّةِ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَدَعُوا مَا قُلْتُ
ความว่า "เมื่อพวกท่านพบในตำราของฉันแตกต่างกับสุนนะฮฺของท่านรสูลุลลอฮฺ ดังนั้นพวกท่านจงปฏิบัติตาม สุนนะฮฺของรสูลุลลอฮฺเถิด และจงทิ้งสิ่งที่ฉันพูด
- มะริฟะฮ สุนันวัลอะษาร ของ อัลบัยหะกีย หะดิษ หมายเลข ๑๐๙

ท่านอิหม่ามนะวาวีย์ระบุในอัลมัจญมัวะว่า

وَكَانَ جَمَاعَةٌ مِنْ مُتَقَدِّمِي أَصْحَابِنَا إذَا رَأَوْا مَسْأَلَةً فِيهَا حَدِيثٌ ، وَمَذْهَبُ الشَّافِعِيِّ خِلَافُهُ عَمِلُوا بِالْحَدِيثِ

และ มีคณะหนึ่งจากสหายของเรายุคก่อน เมื่อพวกเขาเห็นในประเด็นใดมีหะดิษ และมัซฮับชาฟิอีย์ ขัดแย้งกับหะดิษ พวกเขาก็ปฏิบัติตามหะดิษ – ดูอัลมัจญมัวะ เล่ม 1 หน้า 105



والله أعلم بالصو






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น