อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ละหมาดสุนนะฮ์ที่บ้านประเสริฐยิ่ง














การละหมาดของมุสลีมะฮ์ที่ประเสริฐที่สุดนั้นคือที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นละหมาดฟัรฎู 5 เวลา หรือละหมาดสุนนะฮ์ก็ตาม
แต่สำหรับมุสลิมชายการละหมาดฟัรฎูที่ประเสริฐสุดนั้นคือ ที่มัสยิด แต่สำหรับละหมาดสุนนะฮ์นั้นที่ประเสริฐที่สุดคือที่บ้านของเขา


ละหมาดซุนนะฮฺที่บ้าน  ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮฺุอะลัยฮิ วะสัลลัม) ได้กล่าวมีใจความว่า:
"โอ้ผู้คนทั้งหลายพวกท่านจงละหมาดที่บ้านของพวกท่านเถิด(คือให้ใช้บ้านเป็นที่ ประกอบการละหมาดด้วย) เพราะการละหมาดที่ ประเสริฐยิ่งคือการละหมาดของคนหนึ่งนั้นที่บ้าน ของเขาเองนอกจากละหมาดฟัรฎู (ซึ่งต้องทําที่ มัสยิด)

(บันทึกโดย อัล-บุคอรีย) 


นอกจากท่านบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ได้กล่าวย้ำว่าการละหมาดสุนนะฮ์ที่บ้านของเขาประเสริฐสุด ท่านก็ได้ปฏิบัติไว้เป็นแบบอย่าง ดังหลักฐานหะดิษที่ถูกรายงานมา


  จากรายงานของอิบนิ อุมัร รอฎิยัลลอฮุอันฮุมา ฉันจำได้ จากท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะล้ยฮิวะซัลลัม) ได้กล่าวความว่า
"ละหมาดสุนนะห์วันหนึ่งๆ มี10ร๊อกาอะฮฺ คือ 2 ร๊อกาอะฮฺ ก่อนดุฮรี 2ร๊อกาอะฮฺ หลังดุฮรี 2ร๊อกาอะฮฺ หลังมักริบที่บ้านของท่าน 2ร๊อกาอะฮฺ หลังอิซาอฺที่บ้านของท่าน และ 2ร๊อกาอะฮฺ  ก่อนละหมาดศุบฮฺ"
(บันทึกโดยบุคอรีและมุสลิม)


ท่านรสูลุลลอฮ์(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) จะละหมาดก่อน (ซุฮฺรี่) สองร็อกอัต และหลังจาก (ซุฮฺรี่) สองร็อกอัต และหลังจาก (มักริบ) สองร็อกอัตในบ้านของท่าน และจะละหมาดหลัง (อีชาอ์) สองร็อกอัต และท่านจะยังไม่ละหมาดหลังจากละหมาดวันศุกร์ จนกว่าท่านจะกลับไปบ้านแล้วท่านก็จะละหมาดสองร็อกอัต"

(บันทึกหะดิษโดยอีหม่ามบุคอรี)


จากหะดิษ ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ท่านจะหมาดสุนนะฮ์ที่บ้านของท่านไม่ว่าละหมาดสุนนะฮ์นั้นจะก่อนหรือหลังละหมาดฟัรฎู แม้แต่ละหมาดสุนนะฮ์หลังจากละหมาดวันศุกร์ ท่านก็กลับมาละหมาดที่บ้านของท่าน ทั้งที่มัสยิดและบ้านของท่านอยู่ใกล้และติดกัน ท่านก็ยังกลับมาละหมาดสุนนะฮ์ที่บ้าน ท่านไม่เคยนอนค้างคืนที่มัสยิดเพื่อละหมาดสุนนะฮ์ในยามค่ำคืน เว้นแต่ 10 คืนสุดท้ายในเดือนรอมาฎอน และท่านไม่เคยไปนอนค้างคืนมัสยิดอื่นเพื่อละหมาดสุนนะฮ์นอกจากบ้านของท่าน ท่านละหมาดตะฮัจญุดในห้องที่ท่านนอนกับภรรยาของท่านที่บ้าน ท่านใช้วิตตามปกติในการทำอิบาดะฮ์ในบ้าน และแสวงหาปัจจัยใจเลี้ยงชีพ ร่วมถึงการใช้ชีวิตกับภรรยาและบุตร ญาติพี่น้อง และบรรดาเศาะหาบะฮ์ของท่าน ท่านนบีได้แบ่งเบาภาระภรรยาในงานบ้านในครัวเรือน ท่านสร้างแบบอย่างในการชีวิตคู่อย่างโรแมนติก ท่านนบีมักจะนอนหนุนตักของภรรยาในขณะที่ภรรยาของท่านมีประจำเดือน แล้วท่านก็อ่านกุรอ่าน ท่านนบีอาบน้ำพร้อมกับภรรยา และท่านนบีได้จูบภรรยาของท่านก่อนไปละหมาดที่มัสยิด ฯลฯ


ดังนั้น หากในบ้านของเรา อบอวลไปด้วยการทำอิบาดัต อบอวลไปด้วยการละหมาดสุนนะฮ์ การอ่านอัลกุรอาน  สามีเป็นแบบอย่างแก่ภรรยาและคนในครอบครัว และการใช้ชีวิตในบ้านและสร้างความโรแมนติกกับคนในครอบครัวในบ้าน ตามแบบอย่างของท่านนบีมุหัมหมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) อัลลอฮ์ก็จะทรงให้เราและครอบครัวมีแต่ความสุข เกิดบารอกัตและมารร้ายไกลห่างจากรั่วบ้านของเรา อินชาอัลลอฮ์


والله أعلم بالصوا
















  



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น