อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

อากีดะฮ์ของชัยคฺอับดุลกอดีร...อัลลอฮฺทรงอยู่เบื้องสูง






ชัยคฺอับดุลกอดีร อัลญีลานีย์ เกิดในปี ฮิจเราะห์ที่  ๔๗๐ – ๕๖๑ (เกิดก่อนวาฮาบีย์)  มีการอ้างว่าท่านเป็นผู้นำซูฟีย์สายฏอริเกาะฮอัลกอดิรียะฮอัศศูฟียะฮ   มาดูอะกีดะฮของท่าน ดังนี้

وهو بجهة العلو مستو على العرش، محتو على الملك، محيط علمه بالأشياء، {إليه يصعد الكلم الطيب والعمل الصالح يرفعه})

และพระองค์อยู่ทิศเบื้องสูง ทรงเป็นผู้สถิตเหนือบัลลังค์ ทรงเป็นผู้มีอำนาจเหนือการปกครอง ความรู้ของพระองค์ ครอบคลุมบรรดาสรรพสิ่ง (คำกล่าวที่ดีย่อมจะขึ้นไปสู่พระองค์  และการงานที่ดีนั้นพระองค์ทรงยกย่องสรรเสริญมัน(ฟาฏิร/10) – ดู الغنية لطالبي طريق الحق لعبد القادر الجيلاني (ج1 ص121 و123

และเขาได้กล่าวอีกว่า

وينبغي إطلاق صفة الاستواء من غير تأويل ، وأنه استواء الذات على العرش لا على معنى القعود والمماسة كما قالت المجسمة والكرامية ، ولا على معنى العلو والرفعة كما قالت الأشعرية ، ولا معنى الاستيلاء والغلبة كما قالت المعتزلة ، لأن الشرع لم يرد بذلك ولا نقل عن أحد من الصحابة والتابعين من السلف الصالح من أصحاب الحديث ذلك ، بل المنقول عنهم حمله على الإطلاق

และสมควรกล่าวคุณลักษณะของการอิสติวาอฺ ไว้กว้าง โดยไม่ตีความ  และแท้จริงมันคือ การอิสติวาอฺ ของซาต(ตัวตนของอัลลออ เหนืออะรัช  ไม่ได้อยู่บนความหมายว่า นั่ง หรือ การสัมผัส อย่างเช่นที่กลุ่มมุญัสสิมะฮและอัลกะรอมียะฮได้กล่าวไว้ และไม่ใช่ความหมาย ว่า สู่งส่งและสูงศักดิ์ ดังที่กลุ่มอัชอะรียะฮกล่าวไว้ และไม่ใช่ ความหมายว่า การยึดครองและการพิชิต ดังที่ กลุ่มมุอตะซิละอ ได้กล่าวไว้ เพราะว่า  ตัวบททางศาสนาบัญญัติไม่ได้บอกกล่าวถึงความหมายดังกล่าวนั้นๆไว้ แล้วก็ไม่ปรากฏการรายงานจากบรรดาซอฮาบะฮฺหรือจากบรรดาตะบีอีนจากยุคสลัฟหรือจากบรรดานักวิชาการหะดีษถึงการตีความในแบบเหล่านี้เลย” ในทางกลับกัน  สิ่งที่ถูกรายงานจากพวกเขา (ความหมายของอิสติวาอฺนั้น)คือ การถือมันตามที่ถูกกล่าวไว้กว้าง(ในตัวบท) -ดูเชคอับดุลกอดีรญีลานี หนังสือ ฆุนยะตุตตอลิบีน เล่ม 1 หน้า 73
และเช็คอับดุลกอเดร อัลญัยลานีย์ ได้กล่าวอีกว่า

وأنه تعالى ينزل في كل ليلة إلى سماء الدنيا كيف شاء وكما شاء ، فيغفر لمن أذنب وأخطأ وأجرم وعصى لمن يختار من عباده ويشاء تبارك العلي الأعلى ، لا إله إلا هو له الأسماء الحسنى ، لا بمعنى نزول الرحمة وثوابه على ما ادعته المعتزلة والأشعرية

และแท้จริง อัลลอฮตาอาลา ทรงเสด็จลงมา ยังฟากฟ้าดุนยาในทุกๆคืน ตามรูปแบบที่ทรงประสงค์ ดังสิ่งที่ทรงประสงค์ แล้วทางอภัยแก่ผู้ที่ทำบาป ,ทำความผิด ,ก่ออาชญกรรมและทำการฝ่าฝืน แก่ผู้ที่ทรงเลือก จากบรรดาบ่าวของพระองค์ และผู้ทรงบริสุทธิ์ ทรงสูงส่งยิ่ง ทรงประสงค์ ,ไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจากพระองค์ ผู้ทรงมี บรรดาพระนามที่สวยงาม ,การเสด็จลงมา (นูซูล) นั้น ไม่ใช่ ความหมายว่า ความเมตตาและผลบุญของพระองค์ ตามที่ กลุ่มมุอตะซิละฮและ อัชอะรียะฮ อ้าง
-จากหนังสือที่อ้างแล้ว
>>>>>>>>>>>>
ข้างต้นชี้ให้เห็นว่า อะกีดะฮของ ชัยคฺอับดุลกอดีร อัลญีลานีย์  คือ อะกีดะฮสะลัฟ ที่เชื่อในการอยู่ทิศเบื้องสูงของอัลลอฮ และคำว่า อยู่บนอะรัช ไม่ได้หมายถึงนั่งและสัมผัสกับอะรัช แต่หมายถึง อยู่เหนืออะรัช  เหนือมัคลูคแยกจากมัคลูคทั้งหลาย และบรรดามุสลิมส่วนหนึ่งที่ถูกอุปโลกน์ให้เป็นวะฮบีย์ ก็ไม่ได้เชื่อว่า อัลลอฮอาศัยอะรัชเป็นที่อยู่อาศัย  ดังที่พวกอคติได้ใส่ใคล้และปรักปรำ –วัลอิยาซุบิลละฮ

อ.อะสัน หมัดอะดั้ม



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น