อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ฮิญาบราคาหมื่นแปด








"" อ่านแล้วน้ำตาไหล เพราะความตักวาของครอบครัวนี้

หญิงหม้ายวัยสามสิบต้น ๆ พร้อมลูกชาย
วัยเก้าขวบและวัยสองขวบเศษเดินทางจาก
ปัตตานีมุ่งหน้าสู่ภูมิลำเนาเดิม
นางเป็นชาวกรุงเทพฯ โดยกำเนิด รับอิสลาม
ได้สิบห้าปี ภายหลังแต่งงานกับมุสลิมแถวสาม
จังหวัดชายแดนภาคใต้ อยู่กินกันได้ประมาณ
สิบปี ชีวิตคู่เริ่มมีปัญหาถึงขั้นหย่าร้าง ทำให้
ต้องกลับมาปักหลัก ณ ที่เดิมที่เคยรับอิสลาม
   สิ่งแรกที่นางต้องรีบทำโดยด่วนคือ การหา
งานทำ ชีวิตในเมืองหลวงทุกย่างก้าวล้วนแล้ว
แต่ต้องใช้เงินทั้งสิ้น เงินที่ติดตัวมาหลังจากที่
หย่าก็มีไม่มาก เพราะถูกอธรรมจากฝ่ายอดีต
สามีเนื่องด้วยตัวเองหัวเดียวกระเทียมลีบ แต่
นางเป็นคนมีความรู้เลยคิดว่าคงหางานทำได้
ไม่ยาก
    วันแรกของการออกหางานทำ นางอาศัย
การเดินเท้า หางานตามป้ายที่ติดตามป้ายประ
กาศ ตามเสาไฟฟ้า  หรือแม้แต่หน้ากระจก
บริษัทต่าง ๆ  การกลับมาคราวนี้แตกต่างจาก
คราวที่แล้วโดยสิ้นเชิง เพราะคราวที่แล้วนาง
ยังเป็นต่างศาสนิก แต่คราวนี้นางเป็นมุสลีมะฮฺ
แถมใส่ฮิญาบผืนยาวใหญ่ปิดหน้าอย่างกับนินจา
พอเข้าไปแจ้งความจำนงค์ว่าจะมาสมัครงาน
เลยถูกปฏิเสธตั้งแต่ยังไม่เขียนใบสมัครด้วยซ้ำ
นางไม่ย่อท้อยังคงเดินหางานทำต่อไป พลันสาย
ตาหันมาหยุดอยู่ที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง หน้า
ประตูกระจกติดป้ายไว้ว่า "รับสมัครพนักงาน
ต้อนรับ 1 ตำแหน่ง" นางไม่รีรอตัดสินใจก้าว
เท้าเข้าไปทันที  ที่นี่เปิดโอกาสให้นางได้กรอก
ใบสมัครพร้อมยื่นหลักฐาน หลังกรอกใบสมัคร
เสร็จนั่งรออยู่สักครู่มีเสียงเรียกจากพนักงาน
หญิงคนหนึ่งให้เข้าสัมภาษณ์ในห้องผู้จัดการ
นางเดินเข้าไปในห้อง พร้อมทรุดตัวลงนั่งที่
เก้าอี้เบื้องหน้าชายผู้หนึ่งหน้าตาละม้ายคล้าย
ลูกครึ่ง เขาทักทายเป็นภาษาอังกฤษทันที
นางตอบรับ นี่คงจะเริ่มต้นการสัมภาษณ์
แล้วสินะ นึกในใจเป็นธรรมดาของตำแหน่ง
พนักงานต้อนรับที่ต้องติดต่อกับบุคคลหลาย
ชาติหลายภาษา ภาษาอังกฤษจึงถูกเลือก
ให้เป็นภาษาหลักที่ใช้ในการสื่อสาร นางได้
ใช้ภาษาที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก ที่
คุณพ่อจ้างมิชชันนารีจากออสเตรเลียมาสอน
ภาษาให้เป็นเวลาสิบกว่าปี จึงทำให้นางผ่าน
ด่านตรงนี้ไปได้ไม่ยากเย็นนัก อัลฮัมดุลิลลาฮฺ
   หลังจากสัมภาษณ์เสร็จเรียบร้อย นี่คือบท
ทดสอบอันยิ่งใหญ่สำหรับนาง เพราะคำตอบ
ที่ได้คือ
ผู้จัดการ. :  ทางเรามีความยินดีขอแจ้งให้คุณ
ได้ทราบว่าเรารับคุณเข้าทำงานในตำแหน่ง
พนักงานต้อนรับด้วยเงินเดือนขั้นแรก 18,000
บาทต่อเดือน แต่มีข้อแม้ว่าคุณจะต้องแต่งกาย
ตามเครื่องแบบที่โรงแรมกำหนดให้  หากคุณ
ยอมทำตามเงื่อนไขของเรา พรุ่งนี้มาเริ่มงาน
ได้เลย"
   นางอึ้งไปครู่ใหญ่ จึงบอกกับผู้จัดการไปว่า
ขอกลับไปคิดที่บ้านสักหนึ่งวันแล้วจะให้คำตอบ
ผู้จัดการรับคำแล้วลุกเดินจากไป ทิ้งความเงียบ
ไว้ให้กับนางที่ยังคงนั่งนิ่งราวกับหุ่น
นางเดินกลับที่พักด้วยความเลื่อนลอย ในใจ
ครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อสักครู่ ตั้งแต่
รับอิสลามมา นางยังไม่เคยถอดฮิญาบออก
นอกบ้านเลยแม้แต่ครั้งเดียว นี่นางต้องถอด
ฮิญาบเพื่อแลกกับเงินเดือน 18,000 บาทเลยหรือ?
พลางคิดในใจ โอ้อัลลอฮฺ !! พระองค์ทรงกำลัง
ทดสอบบ่าวผู้อ่อนแอคนนี้อยู่ใช่ไหม? ขอพระองค์
ทรงให้ทางออกที่ดีกว่านี้ด้วยเถิด
      คืนนั้นหลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ นาง
ได้เรียกลูกชายคนโตเข้ามาคุยเกี่ยวกับเรื่องงาน ลูกชายเมื่อได้ฟังดังนั้นจึงบอกกับผู้เป็นแม่ว่า
ลูกชาย : อุมมีย์ไม่ต้องไปทำงานที่นั่นหรอก
เพราะหากต้องแลกกับการที่ต้องถอดฮิญาบ
แล้วถึงจะได้เงินมา ผมว่ามันไม่คุ้มกันหรอกกับ
การที่จะทำให้อัลลอฮฺไม่พอใจ ไม่เป็นไรหรอก
ครับ เดี๋ยวเราลองขอเช่าที่เล็ก ๆ กับคนแถวนี้
ดู ขายของกินอะไรก็ได้ อุมมีย์ก็ทำอาหารอร่อย
ตั้งหลายอย่าง หลังจากกลับจากโรงเรียนผม
ค่อยมาสลับให้อุมมีย์ได้พักมั่ง ทำการบ้านไป
พลางขายไปพลางก็คงจะได้อยู่ ส่วนช่วงมัฆริบ
ก็สลับกันไปละหมาด
นาง :  จะดีเหรอลูก? หนูกลับจากโรงเรียนมา
เหนื่อยๆ น่ะ ยังต้องมาช่วยอุมมีย์ขายของอีก
ไหนจะการบ้านอีก
ลูกชาย :  ถึงจะเหนื่อยกาย แต่ไม่หนักใจนะครับ เพราะมันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ หากเรายอมแลก
เครื่องแบบที่พระองค์ทรงจัดไว้ให้อุมมีย์กับเงิน
18,000. มันอาจจะดูเยอะแต่..อัลลอฮฺน่าจะให้
เราเยอะยิ่งกว่า ถ้าเราทำให้พระองค์พอใจ
    ได้ยินลูกชายพูดดังนั้น นางถึงกับกลั้น
น้ำตาไว้ไม่อยู่ดึงลูกชายมาสวมกอดด้วยความ
รักอย่างสุดหัวใจ พร้อมกล่าวขอบคุณลูกชาย
ที่เข้าใจความรู้สึกของนางเป็นอย่างดี นี่แหละกระมัง ของขวัญอันล้ำค่าและยิ่งใหญ่ที่หาซื้อและแลกไม่ได้ด้วยเงิน

🎀cr : อัลลอฮฺ์ให้
.......


จะเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง ก็สามารถที่จะทำให้หลายๆคนได้คิด(หากจะเป็นบ่าวผู้ที่ศรัทธา)เพราะทุกๆก้าวย่างของชืวิตนั้น จะต้องพบกับบททดสอบอยู่เบื่องหน้า!





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น