รายงานจากอะบีซะอฺละบะห์ ว่า เขาได้ถามท่านรสูล โดยกล่าวว่า “แท้จริงพวกเรา(ได้เดินทาง)ผ่านพวกที่ศรัทธาในคัมภีร์ โดยพวกเขาจะต้มหมูในหม้อของพวกเขา และจดื่มสุราในภาชนะของพวกเขา” ท่านตอบว่า “ถ้าพวกท่านพบ(หม้อและภาชนะ)อื่น ก็ให้ท่านทั้งหลายจงรับประทานและดื่มใน(หม้อและภาชนะ)นั้น แต่ถ้าหากพวกท่านไม่พบ(หม้อและภาชนะ)อื่น ให้พวกท่านจงล้างมันด้วยน้ำ และจงรับประทานและจงดื่ม”
(บันทึกโดย บุคอรี มุสลิม อบูดาวูด และติรฺมีซีย์)
รายงานจากยาบิร ได้กล่าวว่า “พวกเราได้เคยออกไปทำสงครามพร้อมกับท่านรสูล และพวกเราได้เอาภาชนะและถุงหนังใส่น้ำของมุชริกิน(พวกตั้งภาคี) พวกเราได้นำมาใช้ โดยท่านรสูลไม่ได้ตำหนิพวกเรา”
(บันทึกหะดิษโดยอบูดาวูด)
ท่านรสูลุลลอฮ์ ได้ถูกถามถึงหม้อหุงต้มของพวกบูชาไฟ(คือพวกที่ยึดถือว่า โลกนี้มีต้นกำเนิดอยู่สอง ได้แก่แสงสว่าง และความมืด แสงสว่างคือความดี ความมืดคือความชั่วร้าย) ท่านตอบว่า “พวกท่านจงล้างมันให้สะอาดและจงใช้มันในการหุงต้ม”
(บันทึกหะดิษโดยติรฺมีซีย์)
จากหลักฐานข้างต้นแสดงว่า อนุญาตให้ใช้ภาชนะ(หม้อ กระทะ จาน ชาม ช้อน....)ของพวกที่ศรัทธาในคัมภีร์(ยิว คริสต์)และพวกตั้งภาคี(บูชาไฟ,พุทธ,พราหมณ์..)ได้ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องล้างให้สะอาดเสียก่อน แต่หากมีภาชนะอื่นที่สะอาดก็ควรใช้ภาชนะนั้น เช่นหากเราอยู่ห้องพักกับเพื่อนต่างศาสนิก หากเพื่อนต่างศาสนิกนำจานไปใส่หมู เมื่อเรานำมาใช้เราก็ต้องล้างให้สะอาด แต่ถ้าเราแยกภาชนะจะเป็นการดีกว่า...ที่กล่าวมาเป็นเพียงภาชนะเท่านั้น ไม่รวมถึงอาหารเครื่องดื่ม ถึงแม้ภาชนะที่สะอาด แต่อาหารนั้นหะรอม ก็รับประทานไม่ได้ เช่น คนศาสนิกนำน้ำมันปาล์มไปทอดหมู เราก็นำน้ำมันนั้นไปทำกับข้าวอีกที่ ถือว่าเจือปนสิ่งหะรอม ไม่เป็นที่อนุมัติจากศาสนา นอกจากมีความจำเป็นตามที่ศาสนาระบุไว้
والله أعلم
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น