อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555

ตำแหน่งการวางมือทั้งสอง(สุนนะฮิ) ตำแหน่งการวางมือทั้งสองภายหลังการตักบีรฺขณะละหมาด







ท่านอาอิลเล่าว่า "ฉันเห็นท่านรสูลุลลอฮฺ(ซ.ล.) ขณะละหมาด โดยท่ารสูลใช้มือขวากำมือซ้าย" (ฮาดิษเศาะหีหฺ...บันทึกโโดยนะสาอีย์ หะดิษที่๘๗๗)

ท่านนบีห้ามวางมือไว้ข้างเอว ท่านอบูฮุร็อยเราะหฺเล่าว่า "ท่านรสูลุลลอฮฺ(ซ.ล.)ห้ามนำมือ(ขวาทับลงบนมือซ้าย)วางไว้ข้างสะเอว(ซ้าย)ในขณะละหมาด"(หะดิษเศาะหี้หฺ...บันทึกโดยอบูดาวูด หะดิษที่๘๑๐ และติรฺมรซีย์ หะดิษที่ ๓๔๙)

"ท่านรอสูล(ซ.ล.)เดินผ่านชายคนหนึ่งซึ่งเขากำลังละหมาดอยู่ โดยเขาวางมือซ้ายทับบนมือขวา ท่านรสูลก้แกะมือเขาออก แล้วเปลี่ยนมือขวาวางทับมือซ้าย"(ฮาดิษเศาะหีหฺ...บันทึกโดยอะหมัด หะดิษที่๑๔๕๕๘)

ท่านวาอิล บุตรของหุจญ์รินเล่าว่า "เมื่อท่านรสูล(ซ.ล.)ยืนขึ้นตักบีรฺ ซึ่งท่านรสูลยกมือทั้งสองจนกระทั้งอยู่ในระดับเดียวกับใบหูทั้งสองของท่านรสูล จากนั้นท่านรสูลก็วางมือขวาทับบนหลังมือซ้าย และ(วางบน)ข้อมือซ้าย และ(วางบน)ท่อนแขนซ้าย"(หะดิษเศาะหีหฺ...บันทึกฮาดิษโดยอะหฺมัด หะดิษที่๑๘๑๑๕ นะสาอีย์ หะดิษที่๘๗๙ และอบูดาวูด หะดิษที่ ๖๒๔)

ท่านวาอิล บุตรของหุจญ์รินเล่าว่่า "ฉันละหมาดพร้อมกับท่านรสูล(ซ.ล.) โดยท่านรสูลวางมือขวาทับมือซ้ายบนหน้าอกของท่านรสูล"(หะดิษเศาะหีหฺ...คัดจากหนังสือ "อัลวะญิช"หน้า๙๘

ท่านอฺลีย์กล่าวว่า "ส่วนหนึ่งจากสุุุุนนะฮ์ในละหมาด คือ การวางมือทับบนมือ (วางบริเวณ)ใต้สะดือ(บันทึกโดยอะหฺมัด อบูดาวูด อิบนุคุซัยมะฮ์ และอัดดารุกฏนีย์)

ท่านอิมามอะหฺมัดถุกถามถึงเรื่องดังกล่าว อิมามอะหิมัดตอบว่า "จะวางมือเหนือสะดือก็ได้ , จะวางตรงสะดือก้ได้ , หรือจะวางใต้สะดือก็ได้ ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งเปิดกว้าง" บรรดานักวิชาการเพียรพยายามทุกวิถีทางเพื่อได้มาซึ่งความถูกต้อง ความแม่นยำต่อสุนนะฮ์นบีมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมจึงมีหลากหลายในเรื่องทัสนะ โดยเฉพาะการวางมือทั้งสองระดับไหน เป็นเรื่องที่ต้องค้นหาและให้น้ำหนักในการเลือกปฏิบัติ ซึ่งพวกเขาขัดแย้งกันในประเด็นสถานะของหะดิษว่าอยู่ในระดับไหนเท่านั้น

ถึงแม้ว่าหะดิษที่ให้วางมือแต่ละระดับ นักวิชาการได้ตรวจสอบแล้วว่าเป็นหะดิษที่ไม่ถูกต้อง แต่มีหะดิษที่เศาะเฮียะฮ์ที่รายงานการเอามือขวาทับมือซ้าย โดยวางมือขวาทับบนหลังมือซ้าย และ(วางบน)ข้อมือซ้าย และ(วางบน)ท่อนแขนซ้าย มิได้ยืนตรงๆเอามือแนบลำตัวแต่อย่างใด

ต่อไปนี้เป็นหะดิษเกี่ยวกับตำแหน่งการวางมืที่ได้ตรวจสอบแล้วว่าเป็นหะดิษฎออิฟ



ท่านวาอิล อิบนุ หุจญ์รฺ เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุ ได้เล่าว่า:
صليت مع رسول الله صلى الله عليه و سلم ووضع يده اليمنى على يده اليسرى على صدره
ความว่า: ฉันได้ละหมาดพร้อมกับท่าน เราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม และท่านได้วางมือขวาของท่านบนมือซ้ายของท่านบนหน้าอก.
(หะดีษบันทึกโดยอิบนุคุซัยมะฮฺในหนังสือ "อัศ-เศาะหีหฺ" เลขที่: 479, และอบูอัช-ชัยคฺ อัล-อัศบะฮานีย์ในหนังสือ "เฏาะบะกอต อัล-มุหัดดิษีน บิ อัศ-บะฮาน" 2/268.)

ทั้งสองรายงานด้วยสายรายงานถึงมุอัมมัล จากสุฟยาน จากอาศิม อิบนุ กุลัยบฺ จากพ่อของเขา จากวาอิล อิบนุ หุจญ์รฺ เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุ.
และมีอีกสายรายงานหนึ่งที่รายงานจากวาอิล อิบนุ หุจญ์รฺ เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุ ด้วยสำนวนที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งบันทึกโดยอัล-บัยหะกีย์ในหนังสือ "อัส-สุนัน อัล-กุบรอ" เลขที่: 2335. ด้วยสายรายงานถึงมุหัมมัด อิบนุ หุจญ์รฺ อัล-หัฎเราะมีย์ จากสะอีด อิบนุ อับดุลญับบารฺ อิบนุ วาอิล จากพ่อของเขา (คืออัลดุลญับบารฺ อิบนุ วาอิล) จากแม่ของเขา (นั่นคือแม่ของอับดุลญับบารฺ) จากวาอิล อิบนุ หุจญ์รฺ เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุ.

ข้อมูลนักรายงานหะดีษ
1. มุอัมมัล อิบนุ อิสมาอีล (เสียชีวิตฮ.ศ 206)
อิบนุ สะอฺดฺกล่าว่า: "ษิเกาะฮฺ มีความผิดพลาดมาก"
อิบนุ มะอีนกล่าวว่า: "ษิเกาะฮฺ"
อบูหาติมกล่าวว่า: "เศาะดูก มีความเข้มงวดในสุนนะฮฺ มีความผิดพลาดมาก"
อัล-บุคอรีย์กล่าว่า: "มุนกัรฺ อัล-หะดีษ"
อบูซุรฺอะฮฺกล่าวว่า: "ในหะดีษของเขามีความผิดพลาดมาก"
อิบนุหิบบานระบุชื่อเขาในหนังสือ "อัษ-ษิกอต" และท่านกล่าวเสริมว่า: "บางทีมีความผิดพลาด"
อัซ-ซะฮะบีย์กล่าวว่า: "หาฟิษ (ผู้ท่องจำหะดีษ) อาลิม (ผู้รู้) มีความผิดพลาด"

อิบนุหะญัรฺกล่าวว่า: "เศาะดูก มีความจำที่ไม่ดี"
บางคนกล่าวว่า: "เขาได้ฝังบรรดาหนังสือของเขา แล้วเขารายงานหะดีษจากความจำ เลยทำ ให้มีความผิดพลาดมาก"
สรุป: มุอัมมัล อิบนุ อิสมาอีลมีระดับความน่าเชื่อถือที่ใช้ได้ แต่ทว่าท่านมีความผิดพลาดมากและมีความจำที่ไม่ดี.

2. สุฟยาน อิบนุ สะอีด อัษ-เษารีย์ (เสียชีวิตฮ.ศ 161)
อิบนุหะญัรฺกล่าว่า: "ษิเกาะฮฺ หาฟิซ ฟะกีฮฺ อาบิด อิมาม หุจญะฮฺ"


3. อาศิม อิบนุ กุลัยบฺ (เสียชีวิตฮ.ศ 137)
อิบนุสะอฺดฺกล่าวว่า: "ษิเกาะฮฺ สามารถเอาเขามาเป็นหลักฐานได้ ไม่ได้รายงานหะดีษมาก"
อิบนุมะอีนกล่าวว่า: "ษิเกาะฮฺ"
อิบนุหิบบานระบุชื่อเขาไว้ในหนังสือ: "อัษ-ษิกอต"
อิบนุ อัล-มะดีนีย์กล่าวว่า: "ไม่สามารถเอาเขามาเป็นหลักญานได้ เมื่อเขารายงานเพียงคนเดียว"
อัล-อิจญ์ลีย์กล่าวว่า: "ษิเกาะฮฺ"
อบูหาติมกล่าว่า: "ศอลิหฺ"
อิบนุหะญัรฺกล่าวว่า: "เศาะดูก"

4. กุลัยบฺ อิบนุ ชิฮาบ (พ่อของอาศิม)
อิบนุสะอฺดฺกล่าวว่า: "ษิเกาะฮฺ รายงานหะดีษมาก"
อบูซุรฺอะฮฺกล่าวว่า: "เป็นชาวกูฟีย์ ษิเกาะฮฺ"
อิบนุหิบบานได้ระบุชื่อเขาในหนังสือ: "อัษ-ษิกอต"
อัล-อิจญ์ลีย์กล่าว่า: "ษิเกาะฮฺ"
อิบนุหะญัรฺกล่าวว่า: "เศาะดูก"

5. วาอิล อิบนุ หุจญ์รฺ (เสียชีวิตประมาณฮ.ศ 50)
เป็นเศาะหาบะฮฺของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม พำนักอยู่ที่เมืองหัดเราะเมาตฺ (Hadhramaut) ประเทศเยเมน และเป็นเชื้อสายของกษัตริย์หัดเราะเมาตฺ ท่านได้เดินทางไปยังนครมะดีนะฮฺเพื่อเข้ารับอิสลามและท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม ก็ได้ดุอาอ์ให้แก่เขา.

สถานะของหะดีษ
หะดีษบทนี้เป็นหะดีษชาซ ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของหะดีษเฎาะอีฟ เนื่องจากมุอัมมัล ถึงแม้ว่าระดับความน่าเชื่อถือของเขาจะอยู่ในระดับที่ใช้ได้ (เศาะดูก) แต่ว่าเขามีความผิดพลาดมากในการรายงานหะดีษ ฉะนั้นในการรับหะดีษจากมุอัมมัลจึงจำเป็นต้องตรวจสอบสายรายงานอื่น ๆ ว่าค้านกับสายรายงานของมุอัมมัลหรือไม่ ซึ่งจะเป็นข้อยืนยันได้ว่าหะดีษที่เขารายงานนั้นเป็นส่วนหนึ่งจากความผิดพลาดของเขาหรือไม่
และจากการตรวจสอบพบว่ามีนักรายงาน 8 คน ที่รายงานหะดีษข้างต้นด้วยสายรายงานของมุอัมมัล (นั่นคือสายรายงานจากสุฟยาน อัษ-เษารีย์ จากอาศิม อิบนุ กุลัยบฺ จากพ่อของเขา จากวาอิล อิบนุ หุจญ์รฺ เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุ ) แต่ในสายรายงานดังกล่าวไม่ได้ระบุประโยคที่ว่า "บนหน้าอก" ซึ่งค้านกับการรายงานของมุอัมมัลที่ระบุว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม ได้วางบนหน้าอก


ท่านฮุลบฺ อัฏ-ฏออีย์ เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุ ได้เล่าว่า:
رأيت النبي صلى الله عليه وسلم ينصرف عن يمينه وعن يساره ورأيته قال يضع هذه على صدره وصف يحيى اليمنى على اليسرى فوق المفصل
ความว่า ฉันได้เห็นท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม หันไปทางขวาและทางซ้าย และฉันได้ยินท่านกล่าวว่า เอานี้วางบนหน้าอก และท่านยะหฺยาได้แสดงลักษณะโดยการวางมือขวาบนมือซ้ายเหนือข้อมือ.


(หะดีษบันทึกโดยอะหฺมัดในหนังสือ "อัล-มุสนัด" เลขที่ 21967. ด้วยสายรายงานถึงยะหฺยา อิบนุ สะอีด จากสุฟยาน จากสิมาก จากเกาะบีเศาะฮฺ อิบนุ ฮุลบฺ จากพ่อของเขา (ฮุลบฺ อัฏ-ฏออีย์).)

หะดีษของฮุลบฺ อัฏ-ฏออีย์ เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุ เป็นหะดีษที่เฎาะอีฟและชาซ เนื่องจากเกาะบีเศาะฮฺ อิบนุ ฮุลบฺ เป็นนักรายงานที่ "มัจญ์ฮูล" ดังที่ท่านอิบนุ อัล-มะดีนีย์ได้กล่าวไว้ ส่วนการที่ท่านอิบนุหิบบานและอัล-อิจญ์ลีย์ได้ระบุชื่อเขาไว้ในหนังสือ "อัษ-ษิกอต" นั้น ไม่สามารถนำมาเป็นบรรทัดฐานได้ว่านักรายงานคนดังกล่าวเป็นนักรายงานที่ "ษิเกาะฮฺ" เพราะท่านทั้งสองมีแนวทางหรือมันฮัจญ์ที่ค้านกับนักหะดีษส่วนใหญ่นั่นคือ การเหมารวมว่านักรายงานที่มัจญ์ฮูลเป็นนักรายงานที่ษิเกาะฮฺ เพราะพื้นฐานเดิมของมุสลิมคือ "ษิเกาะฮฺ"
หรือถ้าจะยึดตามทัศนะของอิบนุหะญัรฺหะดีษบทนี้ก็ยังไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้ เพราะอิบนุหะญัรฺกล่าวว่า "มักบูล" กล่าวคือ เมื่อมีสายรายงานอื่นสมทบ แต่ถ้าไม่มีเขาก็จะอยู่ในระดับ "ลัยยิน" และจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีสายรายงานอื่น (متابع ) สนับสนุนสายรายงานของเกาะบีเศาะฮฺเลย ดังนั้นในหะดีษบทนี้เขาจึงอยู่ในระดับ "ลัยยิน" ซึ่งเป็นระดับที่ทำให้หะดีษอยู่ในระดับเฎาะอีฟ.

والله أعلم



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น