อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ทำไมชาวมลายูปัตตานี‬ ละทิ้งพุทธเข้ารับอิสลาม



นครปัตตานีในสายฝนมีนักประวัติศาสตร์มากมายในไทยที่ระบุภาพนี้เป็นภาพอยุธยา ทั้งๆที่อยุธยาไม่มีภูเขาภาพนี้เป็นภาพปัตตานีครับ

พุทธศาสนาของชาวมลายู

ชาวมลายูหรือคนที่อาศัยในแหลมมลายูนั้น นับแต่ชุมพรลงมา ในอดีตนั้นนับถือศาสนาอะไร

เป็นหนึ่งในเรื่องที่ตอบยาก เพราะศาสนาดั่งเดิมจริงๆนั้นไม่มีใครรู้เชื่อกันแต่ว่าน่าจะนับถือผีเหมือนทั่วๆไป

หนึ่งในความเชื่อโบราณที่เห็นในปัจจุบันคือจั่วพระอาทิตย์ ที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านแบบมลายู

อย่างไรก็ดีภายหลังได้เปลี่ยนมานับถือฮินดูครับ ก่อนจะหันมานับถือพุทธ

พุทธในดินแดนมลายู

ไม่มีบันทึกมากนัก จริงๆจะว่าไปก่อนรับศาสนาอิสลามเอกสารเกี่ยวกับดินแดนนี้มีน้อยมาก มีบันทึกจากคนจีนเสียส่วนใหญ่และชาติยุโรปบ้าง

แต่อย่างไรก็ดี มีหลักฐานมากมายถึงความอ่อนแอของพุทธในย่านนี้และหลักฐานดังกล่าวก็ยังคงพบเห็นในปัจจุบัน อันได้แก่

1)การผสมฮินดูพุทธพุทธศาสนาในดินแดนมลายูไม่เคยบริสุทธิ์หรือใกล้ความบริสุทธิ์เลย จะว่าไปมันอยู่ภายใต้ อยู่เหนือหรืออยู่ร่วม เอาง่ายๆคือตัดขาดจากศาสนาฮินดูไม่ได้เลยหลายคนอาจเทียบใน กทม ที่มีพิธีพราห์ม พิธีพุทธ ปนเป ไม่แปลกอะไรแต่ท่านเคยพบศาลเทพเจ้าฮินดูในวัดพุทธไหม?

ครับวัดเก่าในภาคใต้แทบทุกวัดจะมีศาลของเทพเจ้าฮินดูเสมอ จริงๆแล้วมีการค้นพบซาก ศิวลึงค์(หนึ่งในสัญลักธฺ์ของพระอิศวร ฮินดู)คู่กับพระพุทธรูป

หรือการทำพิธีกรรมโดย รดน้ำลงบนเทพเจ้าฮินดู ให้น้ำไหลไปรดพระพุทธรูปอีกทีด้วย

จะว่าไปมีวัดซื่อวัด พะโคะ หรือพระโค สัญลักษณ์พระอิศวร ด้วย

แน่ละหลายคนเริ่มนึกถึงจตุคาม ที่เอาเทพเข้าฮินดูมาให้พระสงฆ์พุทธปลุกเสก

นั้นแหละคือหนึ่งในซากฮินดูที่ปนเปกับพุทธจนแยกไม่ออกในภาคใต้และดินแดนมลายู

ดังนั้น พุทธในภาคใต้ในสมัยโบราณจึงไม่เคยบริสุทธิ์

2)พฤติกรรมของพระสงฆ์

เรื่องนี้อธิบายยากเล้กน้อยแต่ผมจะเล่าเรื่องหนึ่งที่ท่านสามารถสอบถามความจริงได้เรื่องนี้เป็นของวัดชลธาราสิงเห วัดดังของจังหวัดนราธิวาสเมื่อเจ้าอาวาสท่่านมรณะภาพไป ก่อนมรณะภาพท่านไม่ได้ตั้งใครให้เป็นเจ้าอาวาส ทำให้พระในวัดทะเลาะกัน และการทะเลาะกันครั้งนี้ส่งผลให้พระแบ่งวัดเป็น 2 วัดคือวัดเหนือและวัดใต้มีโบสถ์แยกกันมีเจ้าอาวาส 2 รูปหอระฆังสองหอและโบสถ์สองหลัง บนน้ำและบนบก

ต่อมาท่านไหนผมจำไม่ได้เสียแล้วมรณะภาพก่อน ท่านที่ยังอยู่ก็รื้อกถฏิเจ้าอาวาสที่มรณะภาพ แล้วรื้อโบสถ์ เอาพระประธานมาไว้ในโบสถ์บนดิน

วันนี้เลยมีพระประธาน 2 องค์เรื่องนี้เพิ่งเกิดครับ ยังสอบถามคนที่นั้นได้ว่าจริงไหม มีคนทันสมัย 2 เจ้าอาวาสยังมีชีวิตอยู่ครับ

หลายคนฟังแล้วงง พระทะเลาะกันนี้นะ

ครับ จะว่าไปชาวพุทธที่นั้นสมัยก่อนไม่ได้เรียก พระ ว่า พระ แต่เรียก จอมวัด หมายถึง จอม หรือใหญ่ในวัด พระในดินแดนมลายูสมัยก่อนนิยมพกกริช เล่นไสยศาสตร์ จะว่าไปแล้วมีบันทึกมากมายยืนยันความเป็นนักเลงของพระด้วย

และด้วยพฤติกรรมนี้เองทำให้ฮินดูยังคงมีอิทธิพลและปนเปไปกับพุทธ และ ทำให้พุทธศาสนาอ่อนแอ

และไม่ได้เป็นที่พักใจอย่างที่เป็น ไสยศาสตย์จึงถูกนำมาเสริมและนั้นคือเหตุผลที่พระในยุคนั้นเล่นไสยศาสตร์นั้นเองสิ่งที่เป็นซากความมีอยู่ของพุทธของดินแดนมลายูคือตูปะข้าวเหนียวที่ผูกเป็นรูปสามเหลี่ยม ที่เชื่อกันว่าทำตามรูปลักษณ์ของพระพุทธรูป ทำกินในวันรายอและในชาวพุทธจะทำในงานบุญเดือนสิบนั้นเอง

กรุณาอ่านต่อ : http://muslimchiangmai.net/index.php?topic=2017.0;wap2

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม

ประวัติปัตตานีดารุลสลาม http://www.islammore.com/main/content.php…



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น