อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

คำตอบของดร.ซากิร ไนค์ทำให้หญิงสาวฮินดูขอเข้ารับอิสลาม


จากคำถามของเธอเอง
"ทำไมอิสลามไม่มีวรรณะ?"
"ทำไมการแต่งงานในอิสลามถึงไม่ดูดวง(ดูฤกษ์ยาม)?"
‪#‎สาวฮินดู‬ : "สวัดีค่ะฉันชื่อ อมุตา ฉันทำงานที่สถานทูตอินเดีย"
"ฉันมีคำถามหลายคำถาม,แต่วันนี้จะถามเพียงไม่กี่คำถาม
ทำไมในอิสลามถึงไม่มีระบบชนชั้นวรรณะ และ คำถามที่สองคือ
‪#‎ดร‬.ซากิร ไนค์ : "รบกวนถามทีละคำถามนะครับ..หลังจากผมตอบให้แล้วคุณก็สามารถ ถามคำถามที่สองได้"
สาวฮินดู : "โอเคค่ะ"
ดร.ซากิร ไนค์ : "เธอถามว่าทำไมอิสลามถึงไม่มีระบบชนชั้นวรรณะ เพราะว่าในอิสลามเราเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีความเท่าเทียม ซึ่งผิดกับในศาสนาฮินดู"
"อัลกรุอาน ซูเราะห์ ฮุจญ์รอต :13 กล่าวว่า "โอ้มนุษย์ชาติทั้งหลาย แท้จริงเราได้ สร้างพวกเจ้าจากเพศชายและเพศหญิง และเราได้ให้พวกเจ้าแยกเป็นเผ่าและตระกูลเพื่อจะได้รู้จักกัน
แท้จริงผู้ที่มีเกียรติยิ่ง ในหมู่พวกเจ้าณ.อัลลอฮฺนั้น คือผู้ที่มีความยำเกรงยิ่ง ในหมู่พวเจ้า"
"หลักเกณฑ์ในการตัดสินของอัลลอฮฺ ว่ามนุษย์คนใดมีความดีกว่ามนุษย์คนอื่น ไม่ใช่เพศ,ไม่ใช่ชนชั้น,ไม่ใช่สีผิว,ไม่ใช่ฐานะ,ไม่ใช่อายุ แต่เป็นความยำเกรง เป็นจิตสำนึกต่อพระเจ้า เป็นความเคร่งครัด เป็นความถูกต้อง"
"หนทางเดียวที่คนฯหนึ่งจะดีกว่าอีกคน ไม่ใช่โดยทรัพย์สิน ไม่ใช่อายุ ไม่ใช่เพศ แต่เป็นความเคร่งครัด เป็นจิตสำนึกต่อพระเจ้า
เป็นความถูกต้อง"
"ซึ่งผิดกับศาสนาฮินดู...ถ้าเราอ่านคัมภีร์พระเวท สุกตะ 1 มันตระ 31
วรรณะพราหมณ์ เกิดจากพระโอษฐ์(ศรีษระ) นั่นคือชนชั้นสูงสุด
วรรณะกษัตริย์เกิดจากทรวงอก
วรรณะแพศย์หรือไวศยะเกิดจากส่วนท้อง
วรรณะศูทร(จันฑาล)เกิดจากเท้า"
" วรรณะกษัตริย์เกิดจากทรวงอก
วรรณะแพศย์หรือไวศยะเกิดจากส่วนท้อง
และ วรรณะศูทร(จันฑาล)เกิดจากเท้าซึ่งวรรณะอื่นแตะต้องไม่ได้เพราะเป็นชนชั้นต่ำ นี่คือสิ่งที่คัมภีร์พระเวทกล่าวไว้"
"ในอิสลามเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกัน เราไม่เชื่อว่ามนุษย์คนหนึ่งพิเศษกว่าอีกคนเนื่องจากการเกิดหรืออาชีพ หรือทรัพย์สิน หรือสีผิว หรือชนชั้น"
"อิสลามเป็นศาสนาแห่งมวลมนุษยชาติ ซึ่งไม่เหมือนในพระเวท ที่บอกว่าคุณต้องยึดติดกับวรรณะและการงานของคุณ"
"คุณรู้ไหม?..ว่าระบบวรรณะมันถูกควบคุมโดย วรรณะพรามหณ์ ซึ่งมีจำนวนน้อยนิด พวกเขาบอกว่า ถ้าคุณเกิดในวรรณะศูทร คุณต้องรับใช้พวกพรามหณ์ ชาติหน้าคุณอาจจะได้อยู่ในวรรณะที่ดีขึ้น เหล่านี้เป็นความเชื่อ"
"พวกเขาทำให้ชนชั้นต่ำนั้นต่ำลงและชนชั้นสูงนั้นสูงขึ้น"
"อิสลามเชื่อว่าในความเท่าเทียม และอิสลามเป็นศาสนาแห่งมวลมนุษยชาติ นั่นคือเหตุผลที่อิสลามต่อต้านระบบชนชั้นวรรณะ"
"หวังว่านั่นคงตอบคำถามของคุณครับ"
#สาวฮินดู : "โอเคค่ะ..ฉันมีข้อสงสัยอีกอย่างว่า เวลาคุณพูดว่า ซัยยิดมุสลิม ซุนหนี่ หรือชีอะห์ มันหมายความว่ายังไง"
#ดร.ซากิร ไนค์ : " คุณบอกว่าผมพูดว่า ซัยยิดมุสลิม หรือซุนหนี่ หรือชีอะห์..ผมไม่เคยพูดซัยยิดมุสลิมเลยครับ"
"มุสลิมคือผู้ที่ยอมจำนนต่อพระเจ้า ในอิสลามไม่มีนิกาย"
"อัลลอฮฺกล่าวไว้ในอัลดรุอาน ซูเราะห์ อัลฺอิมรอน:103 ว่า
"พวกเจ้าจงยึดสายเชือกของอัลลอฮฺโดยพร้อมกันทั้งหมด และจงอย่าแตกแยกกัน"
"ไม่มีซัยยิดมุสลิม ซุนหนี่หรืออื่นฯ แต่ว่าเรื่องตระกูลแต่ละคนมาจากตระกูลที่แตกต่างกัน
บางคนมาจากตระกูลเชค(ชัยคฺหรือชี๊ค) บางคนมาจากตระกูลซัยยิด(เชื้อสายท่านศาสดา) เพื่อให้รู้รากฐานที่มา
แต่ไม่ได้บ่งบอกว่าตระกูลหนึ่งดีกวาตระกูลหนึ่ง"
"ตระกูลคานดีกว่าตระกูลเชค หรือซัยยิด... "ไม่เลย"
"เพื่อแค่ให้รู้รากฐาน เช่นตระกูลนี้เดิมมาจากดินแดนไหน หรือพื้นที่ไหน เป็นแค่พื้นเพของตระกูลนั้นฯ ไม่ได้หมายความว่า ตระกูลนั้นฯ จะสูงส่งกว่าตระกูลอื่นฯ"
"หนทางเดียวที่มนุษย์คนหนึ่งจะสูงส่งกว่าคนอื่นก็คือ ความเคร่งครัด,ความถูกต้องและจิตสำนึกต่อพระเจ้า"
"หวังว่านั่นคงตอบคำถามคุณ"
#สาวฮินดู :"โอเคค่ะ..คำถามต่อไป ทำไมการแต่งงานในอิสลามถึงไม่มีการดูฤกษ์ยาม(ดูดวง)"
#ดร.ซากิร ไนค์ :" เธอถามว่าทำไมการแต่งงานถึงไม่มี การดูฤกษ์ยาม(ดูดวง) เพราะเราไม่ได้เชื่อการดูฤกษ์ยาม(ดูดวง)"
#สาวฮินดู:"ไม่ว่าเรื่องใดฯ..พวกคุณไม่ดูฤกษ์ยาม(ดูดวง)กันเลยหรือค่ะ"
#ดร.ซากิร ไนค์ : "ครับ..ผมจะตอบให้ ผมจะบอกในสิ่งที่ศาสนาฮินดูสอน เพราะผมก็เรียนเกี่ยวกับศาสนาฮินดูมาเหมือนกัน"
"ศาสนาฮินดูเชื่อเรื่องดวงชะตาหรือที่เรียกว่า กุณฑลี(เครื่องดูดวงชะตา)..คุณรู้จักไหมครับ?"
#สาวฮินดู :"รู้จักค่ะ...มันเรียกว่า กุณฑลี"
#ดร.ซากิร ไนค์ : "กุณฑลี บอกว่าคุณเกิดวันนั้น ดวงอาทิตย์อยู่ตรงนั้น,ดาวนั้นอยู่นี้,ดาวนี้อยู่นั่น มันบอกว่ามันเป็นลางแต่ลางนี้ไม่ใช่,ลางที่มีมาแต่แรกเริ่ม มันเป็นเพียงการสมมุติ..มันบอกว่าถ้าคุณเกิดวันนี้,ถ้าดาวนั้นมานี้ ดาวนี้ไปนั่น มันจะเป็นลาง แต่ไม่ใช่ลางที่มีมาแต่แรกเริ่ม ไม่ใช่ลางบอกเหตุที่ชัดเจน"
"ไม่เหมือนที่เราอ่านในหนังสือเรียนชีววิทยา หรือกุมารวิทยา
ความเชื่อของพวกเขา มันเป็นเพียงการสมมุติและพวกเขาก็พูดเรื่องอนาคต ทุกสิ่งที่กุณฑลีบอกมา มันจะไม่เป็นจริง"
"ในอิสลามการทำนายอนาคตเป็นเรื่องต้องห้าม"
"อัลกรุอาน ซูเราะห์ มาอิดะห์ :90 กล่าวว่า "ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! ที่จริงสุราและการพนันและแท่นหินสำหรับเชือดสัตว์บูชายันต์และการเสี่ยงติ่ว(การดูดวงหรือเสี่ยงทาย) นั้นเป็นสิ่งโสมม
อันเกิดจากการกระทำของชัยฏอน(มารร้าย) ดังนั้นพวกเจ้าจงห่างไกลจากมันเสีย เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับความสำเร็จ"
"อัลกรุอานบอกว่าการทำนายอนาคต นั้นเป็นสิ่งโสมม อันเกิดจากการกระทำของชัยฏอน ดังนั้นเจ้าจงห่างไกลออกจากมัน"
"ในอิสลามเราไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ สมมุติว่า คุณไปที่เครื่องดูดวง คุณใส่วันที่เกิดแล้วเครื่องมันก็บอกว่า จะมีเรื่องดีเกิดขึ้นกับคุณในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า อาจจะเกิดเรื่องไม่ดีร้อยเรื่องแต่เกิด่รื่องดีสักเรื่อง ก็ต้องมีเกิดขึ้นบ้างนั่นแหละ อีกคนมาดูดวงบ้าง เครื่องบอกว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นในหนึ่งเดือนข้างหน้า อาจจะเกิดเรื่องดีร้อยเรื่องแต่เกิดเ่รื่องไม่ดีสักเรื่อง เรื่องพวกนี้เป็นแค่สิ่งที่คลุมเครือ"
"และวิธีการของมันก็แค่หยิบไพ่ขึ้นมา แล้วก็รู้อนาคตเลย"
"ในอิสลามเราไม่เชื่อในการหยิบไพ่ขึ้นมาแล้วทำนายอนาคต หรือโดยการแตะฝ่ามือหรือโดยการดูจากดวงดาว อิสลามต่อต้านเรื่องพวกนี้"
"และหลายต่อหลายครั้งที่คุณเชื่อเรื่องพวกนี้แบบหลับหูหลับตา"
"มีการทดลองสถานการณ์ว่า มีอาจารย์จิตวิทยาท่านหนึ่งกำลังสอนนักเรียนเป็นร้อย หลังจากนั้นผ่านไปหนึ่งสัปดาห์เขาพูดว่า "ตอนนี้ผมรู้พื้นเพของพวกคุณทุกคน ผมจะเขียนเรื่องราวที่พวกคุณแต่ละคนเคยประสบมา"
"แต่อย่าพึ่งเปิดกระดาษที่ผมเขียนจนกระทั่งผมบอกให้เปิด "
เขาก็เขียนให้นักเรียนทุกคน ว่าประสบอะไรมาบ้าง
"ทีนี้เปิดกระดาษและบอกผมมาว่า ผมเขียนตรงมากี่คน"
"มากกว่า 95% ของนักเรียนตรงตามความจริง 90%"
"ความลับก็คือ อาจารย์ท่านนี้เขียนเรื่องเดียวกันลงในกระดาษทุกแผ่น"
"เรื่องเหล่านี้เป็นแค่สิ่งที่คลุมเครือ อิสลามจึงห้ามการทำนายอนาคต
นั่นคือเหตุผลที่ไม่มีการดูดวงในอิสลาม"
"ถ้าการดูดวงก่อนแต่งงานบอกอนาคตได้ แล้วทำไมในครอบครัวฮินดูถึงยังมีการหย่าร้าง"
"ศาสดามุฮัมมัด(ซล.)บอกว่า เมื่อท่านเลือกคู่ครองให้ดูสี่อย่าง
หน้าตา,ฐานะ,เกียรติ,คุณธรรม สิ่งที่ดีที่สุด คือคุณธรรม"
"สิ่งที่ดีที่สุดในการเลือกคู่ครองคือคุณธรรม ไม่ใช่ไปดูดวง"
"ไม่ว่าจะเกิดเดือนกันยา,ตุลาหรือเดือนไหนฯ ก็ไม่มีผลอะไรทั้งนั้น
คุณธรรมต่างหากที่ควรดู นั่นคือเหตุผลว่าผู้หญิงถูกเรียกว่า มุฮัซซินะห์ แปลว่า ปกป้องคุ้มครองจากมารร้าย"
"ในศาสนาอื่นฯรวมทั้งฮินดู ผู้หญิงถูกแทนให้เป็นเครื่องมือของมารร้าย ในอัลกรุอานผู้หญิงในอิสลามถูกเรียกว่า มุฮัซซินะห์ แปลว่า ปกป้องคุ้มครองจากมารร้าย"
"ถ้าเราแต่งงานกับผู้หญิงที่มีคุณธรรม..อินชาอัลลอฮฺ(อัลลอฮฺทรงประสงค์) เธอจะขอพรให้สามีของเธอเดินในหนทางที่ถูกต้อง"
"หวังว่านั่นคงตอบคำถามคุณครับ"
#สาวฮินดู : "ฉันต้องการเข้ารับอิสลาม"(เสียงปรบมือก้องห้องถ่ายทอดของสถานี)
#ดร.ซากิร ไนค์ :"มาชาอัลลอฮฺ(อัลลอฮฺทรงประสงค์)...น้องสาวผู้ซึ่งถามคำถามเมื่อสักครู่..ผมเชื่อว่าคุณเป็นฮินดู "
#สาวฮินดู :"ใช่ค่ะ..ฉันเป็นฮินดู"
#ดร.ซากิร ไนค์ :"
น้องสาว...มาชาอัลลอฮฺ....อัลลอฮฺได้ชี้นำทาง(ฮิดายะห์) และเธอต้องการเข้ารับอิสลาม ผมขอถามคุณครับว่า"
"คุณเชื่อว่าพระเจ้ามีองค์เดียวหรือเปล่า"
#สาวฮินดู :"ฉันเชื่อค่ะ"
#ดร.ซากิร ไนค์ :""คุณเชื่อว่าพระเจ้าไม่ใช่รูปปั้นหรือเปล่า"
#สาวฮินดู :"ฉันเชื่อค่ะ"
#ดร.ซากิรไนค์:"คุณเชื่อว่าไม่มีใครสมควรได้รับการสักการะร่วมกับอัลลอฮฺหรือเปล่า"
#สาวฮินดู :"ฉันเชื่อค่ะ"
#ดร.ซากิร ไนค์ :"คุณเชื่อว่าศาสดามุฮัมมัดเป็นศาสดาสุดท้ายของพระเจ้าหรือเปล่า"#สาวฮินดู :"ฉันเชื่อค่ะ"
#ดร.ซากิร ไนค์ :"อินชาอัลลอฮฺ...ผมจะอ่านคำปฏิญานตนเป็นภาษาอหรับและให้คุณอ่านตามช้าฯ..นะครับ"
"อัชฮะดุ อัลลา อิลาหะ อินลัล ลอหฺ วะอัชฮะดุ อันนะ มุฮัมมะดัร รอซูลุลลอหฺ" ...
#ดร.ซากิร ไนค์ : "ทีนี้ผมจะอ่านความหมายที่กล่าวมาเมื่อกี้และให้คุณกล่าวตามซึ่งเข้าใจง่ายกว่า
"ฉันขอปฏิญาณตนว่าไม่พระเจ้าอื่นใด (ที่ต้องเคารพภักดี) นอกจากอัลลอฮฺเพียงองค์เดียวเท่านั้น และฉันขอปฏิญาณตนว่ามูฮัมมัดคือศาสนาทูตของพระองค์"
"มาชาอัลลอฮฺ..คุณเป็นมุสลิมแล้ว ขอให้อัลลอฮฺตอบแทนคุณและขอให้คุณได้เข้าสวรรค์"
(เสียงปรบมือดังทั่วห้องส่งสถานี)
รับชมบรรยากาศที่เหลือได้ทางยูทูปตามลิงค์ด้านล่าง

https://m.youtube.com/watch?v=udL_Y9ILoWQ

ถอดความจากยูทูป : Ghani Pasha แปล

ดาบแห่งอัลเลาะห์ แอนตี้ไซออนิสต์ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น