อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

หนังสือ หลักอะกีดะฮ์แนวทางสะลัฟระหว่างอัลอะชาอิเราะฮ์กับวะฮฺฮาบียะฮ์ บิดเบือน



คนที่ถูกอุปโลกน์ให้เป็นวะฮบีย์ มีอะกีดะฮเชื่อว่าอัลลอฮมีรูปร้างจริงหรือ
ในหนังสือ หลักอะกีดะฮ์แนวทางสะลัฟระหว่างอัลอะชาอิเราะฮ์กับวะฮฺฮาบียะฮ์ หน้า 96-97
อาจารย์อารีฟีน ได้ตั้งหัวเรื่องว่า "วะฮบีย์กับอะกีดะฮพระเจ้ามีรูปร่าง

โดยอ้างคำพูดชัยค์บินบาซ ว่า

واليد والقدم والأصابع والكلام والإرادة وغير ذلك. كلها يقال فيها إنها معلومة من حيث اللغة العربية

และมือ(ของอัลลอฮ) เท้า,บรรดานิ้ว,การพูด,การเจตนา ทั้งหมดนั้นจะถูกกล่าวว่า มันมีความหมายเป็นที่รู้กันตามหลักภาษาอาหรับ"

>>>>>>>>

ชี้แจงดังนี้

อาจารย์อารีฟีน กล่าวหาคนที่ตนเองอุปโลกน์ให้เป็นวะฮบีย์ และชัยคฺบินบาซ ว่า มีอะกีดะฮเชื่อว่าอัลลอฮมีรูปร้าง โดยตัดข้อความคำพูดของชัยค์บินบาซบางส่วน อย่างไร้อามานะฮทางวิชาการ
มาดูคำพูดชัยค์บินบาซ เต็มๆหลังจากที่ท่านได้อธิบายเรื่อง สิฟัตอิสติวาอฺ ท่านได้กล่าวต่อว่า

وهكذا القول في باقي الصفات من السمع والبصر والرضى والغضب واليد والقدم والأصابع والكلام والإرادة وغير ذلك. كلها يقال فيها إنها معلومة من حيث اللغة العربية، فالإيمان بها واجب والكيف مجهول لنا لا يعلمه إلا الله سبحانه، مع الإيمان أن صفاته سبحانه كلها كاملة، وأنه سبحانه لا يشبه شيئا من خلقه، فليس علمه كعلمنا، ولا يده كأيدينا، ولا أصابعه كأصابعنا، ولا رضاه كرضانا إلى غير ذلك، كما قال سبحانه: {لَيْسَ كَمِثْلِهِ شَيْءٌ وَهُوَ السَّمِيعُ الْبَصِيرُ

และในทำนองเดียวกันนี้ คือ คำพูดเกียวกับบรรดาสิฟาตที่เหลือ เช่น การได้ยิน,การเห็น,การพอพระทัย,มือ ,เท้า,บรรดานิ้ว,การพูด,การเจตนา ทั้งหมดนั้นจะถูกกล่าวว่า มันมีความหมายเป็นที่รู้กันตามหลักภาษาอาหรับ ดังนั้น การศรัทธาต่อมันนั้น เป็นวาญิบ และรูปแบบวิธีการนั้น ไม่เป็นที่รู้กัน สำหรับเรา ไม่มีผู้ใดรู้มันนอกจากอัลลอฮ (ซ.บ) พร้อมกับให้ศรัทธาว่า แท้จริงบรรดาคุณลักษณะของพระองค์ (ซ.บ)ทั้งหมดของมัน สมบูรณ์ และแท้จริงพระองค์ ซ.บ ไม่มีสิ่งใดจากมัคลูคของพระองค์ คล้ายคลึงพระองค์ ,ความรู้ของพระองค์ ไม่เหมือนความรู้ของเรา,มือของพระองค์ ไม่เหมือนมือของเรา ,บรรดานิ้วของพระองค์ ไม่เหมือนบรรดานิ้วของเรา,การพอพระทัยของพระองค์ ไม่เหมือนการพอใจของเรา ฯลฯ ดังที่พระองค์ ซ.บ ตรัสว่า (ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์ และพระองค์คือ ผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็น) -ฟัตวาเช็ตบินบาซ เล่ม 2 หน้า 96-97 เรือง
بيان مذهب أهل السنة في الاستواء
...........
การกล่าวหาชัยคฺบิน บาซ และกลุ่มพี่น้องมุสลิมที่ถูกอุปโลกน์ให้เป็นลัทธิวะฮบียะฮ ว่า มีอะกีดะฮว่าอัลลอฮมีรูปร่างนั้น เป็นการบิดเบือน ปรักปรำ ใส่ร้ายพี่น้องมุสลิม อย่างน่าละอายที่สุด วัลอิยาซุบิลละฮ
เพราะสะลัฟนั้น พวกเขาไม่ถื่อว่า การยืนยันความหมายตามที่มีมาในตัวบทคือการเปรียบอัลลอฮกับมัคลูคและเป็นการเชื่อว่า พระเจ้ามีรูปร่าง เพราะมันคือสิฟาต ไม่ใช่อวัยวะ

وَقَالَ نُعَيْمُ بْنُ حَمَّادٍ : مَنْ شَبَّهَ اللَّهَ بِشَيْءٍ مِنْ خَلْقِهِ فَقَدْ كَفَرَ ، وَمَنْ أَنْكَرَ مَا وَصَفَ اللَّهُ بِهِ نَفْسَهُ فَقَدْ كَفَرَ ، وَلَيْسَ فِيمَا وَصَفَ اللَّهُ بِهِ نَفْسَهُ وَلَا رَسُولُهُ تَشْبِيهٌ

และ นุอัยมฺ บิน หัมมาด กล่าวว่า “ ผู้ใดเปลียบเทียบอัลลอฮ ว่าคล้ายคลึงด้วยสิ่งใดๆจากมัคลูคของพระองค์ แน่นอน เขาเป็นกุฟุร และผู้ใด ปฏิเสธ สิ่งที่อัลลอฮทรงพรรณนาคุณลักษณะแก่ตัวของพระองค์เองด้วยมัน แน่นอนเขาเป็นกุฟุร และ สิ่งที่อัลลอฮ ทรงพรรณนาคุณลักษณะแก่ตัวของพระองค์เองด้วยมันและสิ่งที่รอซูลของพระองค์ (พรรณนาคุณลักษณะแก่พระองค์ด้วยมัน)นั้น ไม่ใช่เป็นการตัชบีฮ(หมายถึงไม่ใช่เป็นเปรียบเทียบว่าอัลลอฮคล้ายคลึงกับมัคลูค) – ดู ชัรหุอะกีดะฮอัฏเฎาะหาวียะฮ เล่ม หน้า 85 และ ดู ชัรหุอุศูลเอียะติกอด อะฮลิสสุนนะฮวัลญะมาอะฮ เล่ม 2 หน้า 532 หะดิษหมายเลข 936
การรับรองหรือยืนยัน คุณลักษณะที่อัลลฮ และรอซูลอธิบายไว้ ไม่ถือว่าเป็นการเปรียบอัลลอฮ ตาอาลา กับ มัคลูค แล้ว จะเข้าข่ายการให้รูปร่างอัลลอฮได้อย่างไร

ท่านอิมามอัตติรมิซีย์ รอฮิมาฮุลลอฮฺ หนึ่งในนักปราชญ์ยุคสลัฟได้

وقال إسحق بن إبراهيم إنما يكون التشبيه إذا قال يد كيد أو مثل يد أو سمع كسمع أو مثل سمع فإذا قال سمع كسمع أو مثل سمع فهذا التشبيه وأما إذا قال كما قال الله تعالى يد وسمع وبصر ولا يقول كيف ولا يقول مثل سمع ولا كسمع فهذا لا يكون تشبيها وهو كما قال الله تعالى في كتابه ليس كمثله شيء وهو السميع البصير

ท่านอิสหาก อิบนุอิบรอฮีม บินรอฮาวัยฮฺ ได้กล่าวอธิบายว่า การตัชบีฮฺ(เปรียบกับมัคลูก)นั้นคือการที่เรากล่าวว่า พระหัตถ์ของอัลลอฮฺก็เหมือนกับมือของฉันหรือใกล้เคียงกับมือของฉัน หรือการที่เขากล่าวว่า พระองค์อัลลอฮฺได้ยินเหมือนกับที่ฉันได้ยินหรือคล้ายกับที่ฉันได้ยิน แบบนี้แหละที่เขาเรียกว่าตัชบีฮฺ แต่หากเป็นการกล่าวในสิ่งที่อัลลอฮฺได้ทรงตรัสไว้แล้ว เช่น พระหัตถ์, ทรงสดับฟัง, ทรงทอดพระเนตร พร้อมกับไม่ถามว่ามันเป็นอย่างไรแบบไหน ตลอดจนไม่กล่าวว่าอัลลอฮฺได้ยินเหมือนกับฉันได้ยิน ดังนั้นแบบนี้ไม่เป็นการตัชบีฮฺต่ออัลลอฮฺตะอาลา พระองค์กล่าวไว้ในคัมภีร์ของพระองค์ว่า ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนหรือคล้ายคลึงกับพระองค์แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงได้ยินและทรงเห็น”
(หนังสือ สุนันอัตติรมิซีย์ เล่ม 3 หน้าที่ 50-51
.........................
การอิษบาตรคำว่า “มือ(ยัด) ตามที่อัลลอฮบอก ไม่ใช่การเปรียบเทียบ การเปรียบเทียบ(ตัชบีฮ) เมื่อไม่ใช่การตัชบีฮ แล้วจะเป็นมุญัสสิม(ผู้ให้รูปร่างแก่อัลลอฮ)ได้อย่างไร
พวกที่เข้าใจว่า ถ้ายืนยันสิฟาตตามตัวบท คือ การตัชบีฮ (การเปรียบอัลลอฮกับมัคลูค คือ พวกญะฮมียะฮ
อัลมุบาเราะกาฟูรีย์(ร.ฮ)กล่าวว่า

وَقَالُوا : إِنَّمَا مَعْنَى الْيَدِ الْقُوَّةُ ) فَغَرَضُهُمْ مِنْ هَذَا التَّأْوِيلِ هُوَ نَفْيُ الْيَدِ لِلَّهِ تَعَالَى ظَنًّا مِنْهُمْ أَنَّهُ لَوْ كَانَ لَهُ تَعَالَى يَدٌ لَكَانَ تَشْبِيهًا ، وَلَمْ يَفْهَمُوا أَنَّ مُجَرَّدَ ثُبُوتِ الْيَدِ لَهُ تَعَالَى لَيْسَ بِتَشْبِيهٍ

พวกเขา(ญะฮมียะฮ)กล่าวว่า ความจริง ความหมายคำว่ามือ คือ พลังอำนาจ ) เพราะจุดประสงค์ของพวกเขาจากการตีความนี้ คือ ปฏิเสธ คำว่ามือ(ยัด)แก่อัลลอฮ ตาอาลา โดยพวกเขาเข้าใจว่า ถ้า คำว่ามือ (ยัด) เป็นของอัลลอฮตาอาลา แน่นอนเป็นการตัชบีฮ และพวกเขา(ญะฮมียะฮ)ไม่เข้าใจว่า เพียงแค่ยืนยัน/รับรองคำว่า ยัด(มือ) แก่อัลลอฮตาอาลานั้น ไม่ใช่เป็นการตัชบีฮ (ไม่ใช่เป็นการเปรียบอัลลอฮว่าคล้ายคลึงกับมัคลูค) - ดู ตุหฟะตุลอะหวะซีย์ ชัรหสุนันอัตติรมิซีย์ เล่ม 3 หน้า 332

والله اعلم بالصواب

อะสัน หมัดอะดั้ม

7/2/60

ปล.บทความอาจจะยาวไป แต่ทั้งนี้เพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบข้อเท็จจริงว่า เป็นการบิดเบือนให้ร้ายพี่น้องมุสลิม ที่ถูกเรียกว่าวะฮบีย์ และขอถามผู้เขียนตำราเล่มนี้ว่า คุณกำลังตัดสินว่า คนที่คุณเรียกว่าวะฮบีย์เป็นกาเฟรใช่หรือไม่







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น