อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2559

“ผี” ที่กล่าวขาน มันคือญินและชัยฏอน ไม่ใช่วิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว



"ผี" ตามหลักภาษานั้น หมายถึง "ศพ" หรือร่างที่ไร้วิณญาณ สำหรับผีที่นำมาใช้เรียกตามความเข้าใจทั่วไป หมายถึงวิญญาณของคนที่ตายไปแล้ว โดยมีความเชื่อว่าผีเหล่านี้จะวนเวียนอยู่กับคน ให้คุณให้โทษกับมนุษย์ หรือรอญาติอุทิศผลบุญไปให้ ซึ่งเป็นความเชื่อในเรื่อง "วิญญาณเวียนว่ายตายเกิด" ซึ่งตามหลักอิสลามแล้วถือว่าเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง แต่อิสลามได้สอนไว้ว่า เมื่อวิญญาณได้ออกจากร่างแล้วก็จะไปอยู่อีกโลกหนึ่งที่เรียกว่า “บัรซัค” หรือ “โลกบัรซัค” หมายถึง โลกที่ถูกปิดกั้นไว้ โดยที่คนตายไม่สามารถย้อนกลับมายังโลกใบนี้ได้ ดังพระองค์อัลลอฮ์ (ศุบฮานะฮูวะตะอาลา) ตรัสไว้ในอัลกุรอาน สูเราะฮ์อัลมุอ์มินูน อายะฮ์ที่ 100 มีความหมายว่า

“และเบื้องหน้าของพวกเขามีบัรซัคจนกว่าจะถึงวันที่พวกเขาถูกให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา”


แต่ที่ปรากฏให้มนุษย์เห็น มีการหลอกหลอนให้หวาดกลัว พยายามให้ผู้ศรัทธาหันห่างจากการเคารพสักการะต่อพระเจ้าองค์เดียวนั้น คือ "ญินและชัยฏอน" อันเป็นมัคลูคที่ถูกสร้างดั่งเช่นมนุษย์ ต่างที่มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นพวกมันตามปกติได้ แต่พวกมันกลับเห็นมนุษย์ และหากใครผู้ใดสวามิภักดิ์ต่อญินและชัยฏอนหล่านี้ มันก็จะแสดงอำนาจเหนือผู้นั้นทันที โดยบางครั้งมันจะพูดหรือกระทำแทนผู้ที่ถูกเข้าสิง หรือที่เรียกว่า “ผีเข้า” หรือ “ผีสิง” และหากยอมอยู่ใต้อำนาจของมัน มันก็จะแสดงฤทธิ์ เฮี้ยนและขลัง หรือศักดิ์สิทธิ์ หรือทรงอิทธิฤทธิ์ตามที่กล่าวขานกัน

ดั่งพระองค์อัลลอฮฺ (ศุบฮานะฮูวะตะอาลา) ตรัสไว้ในอัลกุรอาน สูเราะฮ์อัลญิน อายะฮฺที่ 6 มีความหมายว่า

“และแท้จริง มนุษย์บางคนเคยขอความคุ้มครองจากญินบางตัว มันจึงยิ่งเพิ่มความจองหองให้กับญินเหล่านั้น”


ซึ่งคนที่มีหัวใจที่เชื่อมั่นศรัทธาต่ออัลลอฮฺองค์เดียวแล้ว บรรดาญินและชัยฏอนเหล่านั้นก็ไม่มีอำนาจใดๆเหนือเขาได้

วัลลอฮุอะลัม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น