อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555

"การยกมือไหว้ กับผู้คนทั่วไปเป็นที่ต้องห้ามหรือไม่?




 "การยกมือไหว้" ไม่พบนักวิชาการท่านไหนระบุ หรือฟัตวาว่า ผิดหลักการของศาสนา เมื่อไม่พบว่ามีบุคคลใดระบุว่าเป็นสิ่งต้องห้าม เช่นนั้นยังอนุญาต ( مباح ) ให้มุสลิมกระทำได้


 "การยกมือไหว้" ผู้คนทั่วไปนั้นเป็นวัฒนธรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาแต่อย่างใดทั้งสิ้น เมื่อไม่เกี่ยวข้องกับศาสนา เช่นนี้การยกมือไหว้ของมุสลิมต่อคนที่ไม่ใช่มุสลิม อนุญาตให้กระทำได้


 หาก "การยกมือไหว้" ยกมือไหว้พระภิกษุ ,เณร หรือบุคคลที่เป็นตัวแทนของศาสนา หรือรูปปั้นรูปเจว็ดเช่นนี้ถือว่า มุสลิมห้ามกระทำ เพราะการยกมือไหว้พระภิกษุ และสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น ถือเป็นเรื่องของศาสนานั่นเอง 


 หาก "การยกมือไหว้" พร้อมกับก้มเท่ากับท่าทางของการรูกูอฺ เช่นนั้นถือว่าไม่อนุญาตให้กระทำ เพราะการก้มเท่ากับท่าทางรูกูอฺในนมาซถือว่ากระทำเทียบเท่ากับการอิบาดะฮฺต่อพระองค์อัลลอฮฺ ข้างต้นถือว่าต้องห้ามเช่นกัน


 والسلام 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น