อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

การยกมือขอดุอาอ์บนมิมบัรฺและกรณีอ่านเศาะละวาตนบีบนมิมบัรฺ



การยกมือขอดุอาอ์บนมิมบัรฺของเคาะฏีบมีสุนนะฮฺให้กระทำได้ แต่ทว่าท่านนบียกมือโดยชี้ด้วยชี้เพียงนิ้วเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ยกทั้งสองข้างมาประกบกันดั่งที่เราเห็นเคาะฏีบกระทำกันในปัจจุบัน ซึ่งนั่นไม่มีแบบอย่างมาจากท่านนบีมุหัมมัดแม้แต่น้อย


ส่วนกรณีมะมูมที่นั่งฟังคุฏบะฮฺสามารถกล่าวอามีนในใจ หรือกล่าวแผ่วเบาได้ แต่ไม่ต้องยกมือในทุกๆ กรณี เพราะไม่มีคำสั่งใช้จากท่านนบีให้กระทำเช่นนั้น


ส่วนกรณีที่อ่านเศาะละวาตนบีบนมินบัรฺขณะขอดุอาอ์นั้น เช่นนี้มีแบบอย่างให้กระทำได้ ส่วนกรณีที่เศาะละวาตนั่งระหว่างสองคุฏบะฮฺแล้วมีการเศาะละวาต นั้นไม่มีแบบอย่างจากท่านนบีมุหัมมัดแต่อย่างใดทั้งสิ้น วาญิบจะต้องละทิ้งโดยเด็ดขาด ส่วนถ้าอ้างว่าสิ่งนั้นเป็นสุนนะฮฺของท่านนบี ก็เท่ากับว่าเขาได้ทำบิดอะฮฺแล้วนั่นเอง


 والله أعلم

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น