อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557

ก่อนไปทำฮัจญ์ไม่ต้องจัดงานทำบุญใดๆ



ก่อนที่เราไปทำฮัจญ์ ไม่ต้องทำบุญใดๆ ไม่ต้องบอกใครด้วย อุลามาอ์หะดิษท่านหนึ่งซึ่งอยู่ประเทศอินเดีย เมื่อท่านไปทำฮัจญ์ นักเรียนเป็นพันๆคนก็ไม่รู้ว่าอาจารย์ไปประกอบพิธีฮัจญ์ เพราะท่านไม่ได้บอกว่าไปทำฮัจญ์ แต่เมื่อไปถึงสถานที่ประกอบพิธีฮัจญ์จึงส่งข่าวมาให้ทราบ สาเหตุที่ท่านไม่ได้บอกกล่าวให้ผู้คน หรือลูกศิษย์ของท่านให้รับรู้ เนื่องจากท่านกลัวว่าผู้คน ญาติๆ หรือลูกศิษย์จะมาส่งที่สนามบิน  ทำให้อารมณ์ของท่านนั้นเปลี่ยนแปลง ดูว่าท่านยิ่งใหญ่เหลือเกิน ลูกศิษย์ทั้งมหาวิทยาลัยมาส่งเป็นพันๆคน ทำให้ความนึกคิดโอ้อวด โอหังจะตามมา

แต่ที่บ้านเราทำบุญกัน ก็ด้วยเหตุผลขอการบริจาคจากท่านพี่น้อง บางคนก็มีเงินเพียงค่าตั่วอย่างเดียว เลยจัดอาหารเลี้ยง แล้วเชิญญาติพี่น้องมา แล้วมีการแจกซองกัน ตรงนี้ไม่ใช่สุนนะฮฺของท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) เป็นเพียงประเพณีปฏิบัติเท่านั้น เราอย่าเอาประเพณีปฏิบัติมาเป็นศาสนา

และการอาซานก่อนผู้ที่จะไปประกอบพิธีฮัจญ์ออกจากบ้านที่อาศัย ก็ไม่มีแบบอย่างจากท่านรสูล หรือบรรพชนยุคสลัฟแต่อย่างใดเช่นกัน

والله أعلم بالصواب

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น