อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557

เจ้าที่อิสลาม






คนที่นำภาพมาแจ้งว่าอยู่ที่ ซอยรามคำแหง 152 มีศาลที่ชาวบ้านในซอยดังกล่าว นั้นกราบไหว้กันมานาน แต่ศาลแห่งนี้ห้ามนำ"หมู" มาเป็นเครื่องเซ่นไหว้ เพราะหน้าศาลมีป้ายที่เขียนข้อความสั้นๆว่า

"เจ้าที่อิสลาม ห้ามไหว้หมู"

มุสลิมส่วนใหญ่เห็นภาพนี้แล้วอดแปลกใจไม่ได้  เพราะในอิสลามนั้นไม่มีความเชื่อเรื่องเจ้าที่เจ้าทางแต่อย่างไร

มุสลิมเมื่อรับศาสนานั้นต้องกล่าวคำปฎิญาณว่า

"ไม่มีสิ่งสักการะได้  เว้นแต่พระเจ้า"

นอกจากนี้ในบทแรกของคำภีร์ยังมียังมีระบุอีกว่า

"พระเจ้าเท่านั้นที่เราของความช่วยเหลือ"


ภาพนี้จึงเป็นภาพที่แปลกตาสำหรับมุสลิม  จะว่าไปผมเคยได้ยินเรื่องเจ้าอิสลามมาเยอะมากเหมือนกัน เช่น

ที่ลาดกระบัง สถาบันพระจอมเกล้าฯ อาจาร์ยผมท่านมาจากที่นั้นท่านบอกเจ้าที่แรง

เป็นเจ้าอิสลาม  ห้ามถวายหมู

เท่าที่รู้บ้านพิษณุโลก  บ้านพักนายกรัฐมนตรีก็มีเจ้าเป็นอิสลาม  มีเรื่องเล่าว่า เคยมีนายกคนหนึ่งไปถวายหัวหมูตอนรับตำแหน่ง  จากนั้นไม่ถึง 7 วันถูกปฎิวัติ

ฯลฯ

คนเชื่อไม่ใช่มุสลิม  คนที่มาเล่าให้ผมฟังโดยมากก็ต่างศาสนิก  เขาเชื่อของเขาแล้วทำ  ไม่มีมุสลิมสักคนไปกราบไห้วศาลที่มี"เจ้าที่อิสลาม"เลย


ภาพนี้จึงเป็นเรื่องของคนต่างศาสนิก เอาคนตายในอิสลามไปไหว้  (แต่ความจริงแล้วมันคือญินไม่ใช่วิญญาณของคนตายมุสลิมหรอก)

ตามหลักความเชื่ออิสลาม ไม่มีระบบผี วิญญาณของผู้ตายไม่มาปรากฎให้มนุษย์เห็น  เพราะคนที่ตายไปแล้วอยู่คนละโลกกัน วิญญาณคนตายจะอยู่อีกโลกหนึ่งที่เรียกว่า "อลัมบัรซัค" ซึ่งหมายถึง สิ่งที่ปิดกั้นที่อยู่ระหว่างโลกดุนยา กับ โลกอาคิเราะห์ และปิดกั้นระหว่างความตาย กับการกลับมาสู่โลกดุนยา

พระองค์อัลลอฮ์ตะอาลา ตรัสไว้ความว่า

العنكبوت57   ((  كُلُّ نَفْسٍ ذَائِقَةُ الْمَوْتِ ثُمَّ إِلَيْنَا تُرْجَعُونَ))

"ทุก ๆ ชีวิตเป็นผู้ลิ้มรสความตาย แล้วพวกเจ้าจะถูกนำกลับยังเรา"

ทุกชีวิตที่กลับคืนสู่ความเมตตาของอัลลอฮ์ตะอาลาแล้วนั้น เขาจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งวิญญาณ คือ โลกอาลัมบัรซัค หรือโลกในหลุมฝังศพ

ดังนั้นวิญญาณผู้ตายจึงไม่มาวนเวียน สิงสถิตอยู่ตามวัตถุใดๆในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นศาลที่มนุษย์สร้างขึ้น จอมปลวก หรือต้นไม้ ก็ตามที

แต่สิ่งเหล่านี้ ที่ปรากฏให้มนุษย์เห็น มันคือ ญิณ ซึ่งบุรูษของมัน พระองค์อัลลอฮฺตะอาลา ทรงสร้างมันมาจากไฟ ญิน มีทั้งญินดี ญินร้าย ญินร้ายเรียกว่า ชัยฏอน พวกนี้มันจะคอยหลอกล่อมนุษย์ ให้หลงรอยตามมัน มันมีการสืบเผ่าพันธ์ุ มีการกินการดื่ม มีการนับถือศาสนาเหมือนกับมนุษย์ แต่ที่สำคัญที่มนุษย์ไม่มี คือ มันสามารถแปลงร่างต่างๆได้ มันเห็นมนุษย์ แต่มนุษย์กลับไม่เห็นมัน เว้นแต่มันจะปรากฏให้มนุษย์เห็น มันสามารถเข้าเรือนร่างมนุษย์ได้ เพราะมันเป็นสสารอย่างไฟ ที่เขาเรียกว่าผีเข้านั้นแหละ
มันจึงอาศัยโอกาสหลอกล่อให้มนุษย์กราบไหว้บูชามัน นำอาหาร เครื่องดื่มมาเซ่นไหว้มัน หากวันใดมนุษย์ไม่นำของเซ่นไหว้ไปบูชามัน มันก็จะแสดงอิทธิฤทธิ์ความน่ากลัวให้มนุษย์เห็น

จึงสรุปได้ว่าอิสลามไม่มีการกราบไหว้เจ้าที่เจ้าทาง มันเป็นความเชื่อของคนต่างศาสนิก ที่มีความเชื่อในเรื่องวนเวียนว่ายตายเกิด นั้นเอง


والله أعلم بالصواب




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น