อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2557

ความละอายเป็นแขนงหนึ่งของการศรัทธา



ความละอาย เป็นจริยธรรมประการหนึ่ง การที่บุคคลหนึ่งละเว้นสิ่งที่น่าตำหนิ หรือสิ่งที่เป็นความผิด หรือไม่เปิดเผยส่วนที่พึงปกปิด ถือว่าเขามีความละอาย ความละอายมีความผูกพันกับอิหม่าน

ท่านเราะซูล ได้กล่าวความว่า

"ความละอายเป็นแขนงหนึ่งของการศรัทธา" (บันทึกโดย บุคคอรีย์และมุสลิม)

ขณะเดียวกันท่านเราะซูล ก็ได้กล่าวถึงความสำคัญของการศรัทธาความว่า

"ส่วนหนึ่งจากสิ่งที่มนุษย์ตระหนัก จากคำพูดแห่งการเป็นนะบี (ศาสนฑูต) ยุคแรกคือ ถ้าหากท่านไม่ละอายก็จงทำตามที่ท่านปราถนาเถิด"

ผลของการมีความละอาย

1.การมีความละอายจะทำให้การอีหม่านของบุคคลสมบูรณ์ขึ้น จะทำให้ความศรัทธาสูงขึ้น

2. ผู้ใดที่ละอายต่ออัลลอฮ์ เขาจะปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ และของท่านเราะซูล จะไม่มีการยกเว้น หรือบิดเบือนในถ้อยคำต่างๆที่อัลลอฮ์ได้บัญญัติไว้ และตามซุนนะฮ์ของท่านเราะซูล อย่างแท้จริง

3. ความ ละอายจะทำให้บุคคลนั้น ไม่กล้าทำความชั่วและสิ่งที่น่าตำหนิ และน่ารังเกียจ เพราะความเกรงกลัวต่อพระองค์อัลลอฮ์ ผู้ที่มีความละอาย จะไม่แม้แต่จะคิดในสิ่งที่ไม่ดี เพราะเขาอายต่อพระองค์ เพราะพระองค์ทรงรู้ทุกสิ่งทั้งที่เร้นลับและเปิดเผย

4.ด้วยความละอายจะทำให้ผู้หญิงไม่กล้าเปิดเผยสิ่งที่พึงปกปิดต่อผู้อื่น ธรรมชาติของผู้หญิงปกติจะต้องมีความละอายอยู่ในตัว ไม่กล้าที่จะแสดงกิริยาที่ไม่สมควร ไม่กล้าที่จะโชว์สัดส่วนและเรือนร่างอย่างเปิดเผย ไม่กล้าพูดจาในสิ่งที่ไม่ดี นินทาว่าร้ายผู้อื่น ผู้หญิงที่ไม่มีความละอายมักจะทำสิ่งที่ตรงกันข้ามเสมอ และถ้านางหมดสิ้นความละอายที่อยู่ของนางก็คือนรกนั่นเอง

5.การจำแนกความแตกต่างระหว่างมนุษย์ และสัตว์ ก็คือความละอาย เพราะสัตว์ไม่ปกปิดไม่ว่าจะกิน จะถ่าย จะผสมพันธุ์ หรือจะนอน เราจะเห็นการปฏิบัติของสัตว์ทุกขั้นตอน แต่ผู้ที่เป็นมนุษย์ การกระทำทุกอย่างจะตรงข้ามกับสัตว์เดรัจฉาน การแยกมนุษย์จากสัตว์คือความละอาย มนุษย์มีมารยาทในการกิน มีห้องน้ำให้ขับถ่าย มีห้องนอนที่มิดชิดไว้สืบพันธุ์ มีบ้านเรือนให้อาศัย

6. ท่านเราะซูล กล่าวความว่า "ถ้าท่านไม่ละอายก็จงทำตามที่ปราถนาเถิด" ถ้อยคำนี้บอกถึง ไม่ให้ปฏิบัติในสิ่งที่พึงละอาย เพราะถ้าหมดสิ้นความไร้ยางอายก็จะทำได้ทุกสิ่งทุกอย่างนั่นเอง

7. ผู้ ที่ไม่มีความละอาย เขาย่อมจะกระทำทุกสิ่งโดยไม่คำนึงถึง ว่าการกระทำดังกล่าว ชอบด้วยบัญญัติศาสนา ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมและสอดคล้องกับหลักคุณธรรมและจริยธรรมหรือไม่

แล้วท่านละอายต่อพระองค์หรือไม่ ! หรือละอายต่อตนเองบ้างหรือไม่

............................
สุวัฒน์ อิสมาแอล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น