อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557

กับดักแห่ง...ดุนยา



ได้อ่านบทความจากหนังสือเล่มหนึ่ง...จึงอยากแบ่งปัน

สารจากคนจมน้ำ...บทความเตือนใจตัวเองและแด่พี่น้องร่วมศรัทธา...

เราต่างก็รับรู้ว่าดุนยานั้นถูกสร้างมาเพื่อมนุษย์..และในดุนยานั้น
มันมีความเพริศแพร้ว..ยั่วยวน..พร้อมทั้งเชิญชวนให้เรานั้นได้ลุ่มหลง
กับมัน เมื่อใครตอบรับคำเชิญชวนของดุนยา มันก็จะเข้ามาห้อมล้อม
ตัวเขาเหล่านั้นโดยไม่รีรอ เขาจะสนุกสนาน เพลิดเพลิน ลุ่มหลงในมัน
จนไม่สามารถหลีกหนี หรือหลุดพ้นไปจากมันได้ ในที่สุดเขาก็ต้องตก
เป็นทาสของดุนยา จะเพราะด้วยเหตุผลใดก็ตาม

เราอาจจะบอกแก่ตัวเองว่าเพราะภาระหน้าที่ ทางโลกที่เราต้องรับผิดชอบ
ความจำเป็นบังคับ เราต้องทำงาน เราต้องอยู่ร่วมกันในสังคม เราต้องหาเงิน
เพื่อยังชีพ ต้องเลี้ยงดูครอบครัว และอีกหลายร้อยสาเหตุที่ทำให้เราไม่มีเวลา
ให้กับตัวเอง ในการประกอบอิบาดะฮฺเพื่อพระองค์ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เรา
ต้องตกอยู่ในกระแสธารอันเชี่ยวกรากของดุนยา กว่าจะรู้สึกตัวเราก็กลายเป็น
ทาสของมันจนถอนตัวไม่ขึ้น

เราทำแต่งาน จนวันๆผ่านพ้นไปโดยที่เราไม่ได้ตระเตรียมเสบียงที่จะติดตัวเรา
ไปยังโลกอาคิเราะฮฺ หรือจะทำก็เพียงน้อยนิดเท่านั้น และจากที่เคยทำอามั้ล
อิบาดะฮฺเพื่อพระองค์อย่างมากมาย ทำด้วยความรู้สึกเป็นสุขใจ กลับกลาย
เป็นเพียงทำเพื่อให้มันผ่านพ้น หรืออาจละทิ้งในสิ่งที่เคยทำเพื่อพระองค์
มุ่งแต่คิดที่จะให้ได้รับสิ่งตอบแทนในโลกดุนยานี้เพียงอย่างเดียว จะบริจาคใน
แต่ละครั้งก็ตระหนี่ คิดแล้วคิดอีกเพียงเพราะกลัวที่จะอด เราอาจไม่ได้อดเพียง
คนเดียว แต่หมายถึงครอบครัวของเราด้วย นี่คือความรู้สึกที่เรายกให้ครอบครัว
มีอำนาจต่อเราเหนือพระองค์ บางคนอาจตกหลุมรักใครสักคน ในหัวใจของเขา
ในความรู้สึกนึกคิด ก็จะมีแต่คนๆนั้น จนหลงลืมพระองค์ และบางคนอาจจะเลย
เถิดจนถึงขั้นทำในสิ่งที่ผิดต่อคำสั่งของพระองค์ เข้าใกล้การซินา จะด้วยทางตาด้วยการมองดู ทางหูด้วยการพูดคุยกัน ทางโทรศัพท์ แชท ไลน์ หรือแม้แต่นัดเจอเพื่อไปเที่ยวด้วยกัน อาจจะมีคนอื่นไปด้วย เพื่อไม่ให้ผิดมากนัก แต่นั่นก็เพราะเราตกเป็นทาสของมัน อาจเป็นเพราะชัยฏอน นั้นมันทำงานหนัก เราที่
เป็นมนุษย์ จึงไม่ต้านแรงแห่งการยั่วยุของมันได้ จนเราลืมสิ้นลืมหน้าที่ ลืมบทบาทที่เราต้องมาอยู่ในโลกดุนยาแห่งนี้ หลงลืมความตาย ลืมวันที่เราต้อง
กลับไปยังพระองค์ หากเป็นเช่นนี้แล้วเราจะเหลืออะไร เปรียบเสมือนดั่งคนจมน้ำ
ที่ไม่อาจช่วยเหลือใครได้แม้แต่ตัวเอง

อัลลอฮฺทรงกล่าวไว้ในอัลกุรอาน ..ซูเราะอันนัจม อายะฮฺที่ 39

وَأَن لَّيْسَ لِلْإِنسَـٰنِ إِلَّا مَا سَعَىٰ ﴿٣٩﴾

ความว่า... “และมนุษย์จะไม่ได้อะไรเลย นอกจากสิ่งที่เขาได้ขวนขวายเอาไว้”

และอัลลอฮฺทรงกล่าวไว้ในอัลกุรอาน ..ซูเราะอัลฟาฏิรฺ อายะฮฺที่ 5 อีกว่า

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلنَّاسُ إِنَّ وَعْدَ ٱللَّهِ حَقٌّۭ ۖ فَلَا تَغُرَّنَّكُمُ ٱلْحَيَوٰةُ ٱلدُّنْيَا ۖ وَلَا يَغُرَّنَّكُم بِٱللَّهِ ٱلْغَرُورُ ﴿٥﴾

ความว่า... “โอ้มนุษย์เอ๋ย แท้จริงสัญญาของอัลลอฮฺนั้เป็นจริงเสมอ ดังนั้น
อย่าให้การดำรงชีวิตอยู่ในโลกดุนยานี้ล่อลวงพวกเจ้า และอย่าให้การหลอกล่อ
(ของชัยฏอน) มาล่อลวงพวกเจ้าเกี่ยวกับอัลลอฮฺเป็นอันขาด”

และพระองค์ยังทรงถามเราอีกว่า..

يَـٰٓأَيُّهَا ٱلْإِنسَـٰنُ مَا غَرَّكَ بِرَبِّكَ ٱلْكَرِيمِ ﴿٦﴾

ความว่า... “โอ้มนุษย์เอ๋ย อะไรเล่าที่ได้ล่อลวงเจ้า(ให้หันห่าง)จากพระผู้อภิบาล
ของเจ้าผู้ทรงเกื้อกูล” ( อัล-อิมฟิฏอรฺ : 6 )



น่าเสียดายเหลือเกินที่เราไม่ได้เอาใจใส่ในคำตักเตือนจากพระองค์ แต่เรา
กลับเมามัวลุ่มหลง แม้แต่เพ้อฝันหลอกตัวเองไปวันๆ ตั้งความหวังในสิ่งที่
ไม่จีรัง เปรียบได้ดังกับคนที่เป็นโรคที่ไม่อาจรักษาให้หายขาดได้

ท่านอิหม่าม อัล - ฆอซาลี ปราชญ์ของโลกมุสลิมท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า
“ช่างเป็นเรื่องที่ประหลาดเสียเหลือเกิน ที่เมื่อเราปรารถนาที่จะมีทรัพย์สมบัติ
ในโลกนี้ เราได้ทำการเพราะปลูก ทำการค้า และยอมที่จะเดินทางไป ไม่ว่า
การเดินทางนั้นจะมีระยะทางที่ไกล หรือมีความเสี่ยงเพียงใดก็ตาม ทั้งนี้
ก็เพียงเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ได้ถูกจัดเตรียมไว้ให้แก่เรา(โดยอัลลอฮ์) แต่เรา
กลับลืมไปว่า อัลลอฮฺได้ทรงสัญญาไว้แล้วถึงการประทานปัจจัยยังชีพให้แก่
เรา และเมื่อเราหวังในการตอบแทนในโลกอาคิเราะฮฺ เราก็เชื่อว่าจะต้องขอ
การอภัยโทษและขอความเมตตาจากพระองค์”

และคำแนะนำจาก ท่านหะซัน ท่านได้กล่าวไว้ว่า ...
“จงตื่นขึ้นเถิด ณ บัดนี้ (รู้สึกตัว)เพราะทันทีที่ท่านตาย การกระทำที่ท่าน
จะได้ใกล้ชิดกับอัลลอฮฺจะยุติลง(สิ้นสุด) ขออัลลอฮฺ ทรงประทานพรแก่บ่าว
ผู้ใคร่ครวญต่อชีวิตของเขา และได้ร้องให้เพราะบาปอันมากมายของเขา”

จากบทความนี้หวังว่าพี่น้องจะได้ใคร่ครวญกับเวลาแห่งชีวิตที่เหลืออยู่
เพราะตัวเองก็เคยเป็นผู้หนึ่งที่เปรียบเสมือนคนจมน้ำเหมือนกัน แม้ว่า
จะไม่ได้ตื่นขึ้นมา หรือผ่านพ้นจากสภาพคนจมน้ำมาเพราะบทความนี้
แต่ก็หวังว่ามันคงจะช่วยเตือนสติใครบางคนได้บ้าง

.........................................................
ขออัลลอฮฺได้โปรดตอบแทน ผู้เขียน..
สารจากคนจมน้ำ แด่...ทาสแห่งดุนยา
โดย..มัจญดีย์ อัลฮิลาลีย์


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น