อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ความสันติ


ขอความสันติจงมีแด่ท่าน และความสันตินั้นจะมีแด่พวกเรา
ขอความสันติไปสู่ยังตัวท่าน และความสันตินั้นจะมาสู่ตัวเราได้เช่นกัน
ขอความสันติจงมีแด่ผู้ที่ได้ตอบรับซึ่งความสันตินั้น และขอความสันติจงมีแด่คนที่ไม่ตอบรับมันเช่นกัน
ความสันติที่มาจากพระนามของพระผู้เป็นเจ้าแห่งผู้ทรงสันติ
พระเจ้าของปวงบ่าวทั้งหลาย ซึ่งเป็นผู้ทรงที่พึ่ง
ความสันติที่เราอยู่กับมันตลอดมา
ความสันติที่เคยอยู่บนผืนแผ่นดินนี้
ความสันติที่เราไม่สามารถมองหามันเหมือนเช่นเคย
ความสันติที่มันไม่สามารถกลับมายังเราได้เช่นเดิม
ความสันติที่เราตามหามัน แต่มันกำลังจะเดินทางไป เพื่อที่จะหนีห่างออกไปจากแผ่นดินของเราอย่างช้า ๆ
สภาพการเป็นอยู่ของความสันติ จะมีการเป็นอยู่ที่แตกต่างกันไป
ไม่ว่าจะเป็นการมอบให้โดยไม่ยินยอม
และการมอบให้โดยยินยอม
ก็เพื่อที่จะหวังการยินยอมจากผู้คน
โดยที่ไม่มีการยินยอมที่เป็นการยินยอมที่แท้จริง (โดยที่ไม่มีอิสลาม)
เปรียบเสมือนว่าอิสลามของบรรพบุรุษเรา
ไม่เหลือค่าและความหมายใด ๆ อีกเลย
พวกท่านทั้งหลายรู้ไหมว่าทำไม ความสันติถึงได้จากพวกเราไป ?
พวกท่านทั้งหลายรู้ไหมว่าทำไม ความมืดมนถึงได้อยู่กับพวกเรา ?
เป็นคำตอบที่ง่ายมาก
ก็เพราะว่าพวกเราทั้งหลายเป็นสังคมที่ช่างหวาดกลัว
พวกเราเป็นสังคมที่ช่างหวาดกลัวในความแตกต่าง
คำพูดของฉันในวันนี้
ที่พวกคุณบางคน
หรือจำนวนที่มากกว่านั้น
หรือพวกคุณทุกคนที่ไม่ชื่นชอบเลย
หากแต่ว่าฉันก็จะพูดมันออกมา
ก็เพราะว่าตัวฉันไม่ต้องการความพังพินาศ
พวกเราเป็นสังคมที่คอยปฏิเสธกับความจริง
ก็เพราะว่าพวกเราเป็นสังคมที่ชอบใช้ชีวิตอย่างล้าสมัย
พวกเราเป็นสังคมที่คอยจะปาวประกาศให้ดัง ๆ
เพื่อให้ตัวเขาถูกขนานนามว่าเป็นผู้ที่มีความคิดที่หลากหลาย
พวกเราเป็นสังคมที่มัวแต่คิดในเรื่องยศหรือตำแหน่ง
เพื่อให้ตัวเขาถูกขนานนามว่าเป็นสังคมที่มีอุดมการณ์และสติปัญญา
โอ้ ความพังพินาศของฉัน สังคมของฉันกำลังติดโรคเรื้อนอะไรอยู่นี่ ?
การยอมรับของพวกเราในสิ่งที่ไม่เหมือนกันนั้น
ไม่มีเลย
เว้นแต่ภายนอกเท่านั้น
ความแตกต่างในหลากสี ทำให้เราต้องเจ็บปวด
ความแตกต่างของเรือนร่าง ทำให้เราต้องเจ็บปวด
ความแตกต่างในความคิดเห็น ก็ต้องทำให้เราต้องเจ็บปวด
ความแตกต่างในศาสนา ก็ยังทำให้เราต้องเจ็บปวด
แม้กระทั่งความแตกต่างเพศ ก็ยังทำให้เราต้องเจ็บปวด
ฉะนั้น
เราควรพยายามลบทุก ๆ ความแตกต่างที่จะก่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่พวกเรา
พวกเราจึงได้ทำการเปลี่ยนแปลงสังคมบางส่วนที่ไม่ดี
พวกเราคือสังคมที่โง่เขลาที่สุด
ใช่แล้ว
พวกเราคือสังคมที่โง่เขลาที่สุด
พวกเรากำลังดูถูกกันและกัน
พวกเรากำลังสำราญสร้างในสิ่งที่ไม่ดีอยู่
พวกเรากำลังทำลายเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
และพวกเราก็ชอบปฏิเสธอยู่ตลอดเวลา
เพื่อที่จะค้นหาความเป็นจริง
และฉันไม่อาจชำระคน ๆ หนึ่งให้สะอาดและบริสุทธิ์ได้
และฉันก็ไม่อาจชำระประชาชนคนธรรมดาและผู้นำทุกคนได้
และฉันก็ไม่อาจชำระผู้คนที่อ่อนแอในประเทศชาติที่เงียบสนิทได้ (จากความดี)
และไม่มีใครมาขนานนามเราว่าเป็นผู้ให้ความบริสุทธิ์แก่ผู้คน
ไม่มีใครที่เลือกจะตามยุโรปเหมือนคนตาบอด
และไม่มีใครต้องการระบบการปกครองที่ต่ำทราม ที่คอยจะตัดแขนตัดขาของผู้คน
พวกท่านจงปล่อยให้เราพยายามทำกับสิ่งที่อยู่ในหัวใจของเราในวันนี้เถิด
พวกท่านจงปล่อยให้เราโอบกอดจิตใจของเราเถิด
พวกท่านจงปล่อยให้เราโอบกอดจิตใจของคนที่มีความแตกต่างกับเราเถิด
นี่ไงตัวฉัน
ที่กำลังยืนอยู่หน้าพวกท่านทั้งหลาย
ด้วยสีของฉัน
ด้วยเส้นผมของฉัน
ด้วยบทกวีของฉัน
ด้วยชนชั้นของฉัน
และด้วยความคิดของฉัน
ฉัน ไม่กลัวพวกท่าน
ฉัน ไม่กลัวความแตกต่างของพวกท่าน
ก็เพราะว่าฉันเป็นส่วนหนึ่งจากพวกท่าน
และพวกท่านก็เป็นส่วนหนึ่งจากฉันเช่นกัน
ฉะนั้น
จงปล่อยให้พวกเราสร้างศิลปะเถิด
จงปล่อยให้เราสร้างความใฝ่ฝันที่ดีเถิด
เพื่อให้เราได้ยืนอยู่บนความรูู้ที่ดี ที่ปราศจากจากความอวิชชา
เพื่อให้เกิดความอ่อนโยนระหว่างพวกเรา
และนี่แหล่ะคือการปกครองที่ดีที่สุด
ฉะนั้น
จงปล่อยให้พวกเราละลายชื่อเสียง
ระดับ
อำนาจ
ความคิด
สี
และศาสนา
และเราไม่อยากจะเห็นสิ่งใด ๆ อีกต่อไป
เว้นแต่เขาคือ อินซาน (มนุษย์)
.
กล่าวโดย : นักกวีอะนีส ชูชาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น