อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ไม่ใช่สูตรของท่านนบี





การไปนอนพักค้างเเรมตามมัสยิดต่างๆไม่ใช่สูตรของท่านนบี ถ้าจะอิอฺติกาฟก็มีรูปแบบเฉพาะอยู่ เเต่ที่ไปๆกันนี่ไม่ใช่เรียกอิอฺติกาฟ

การที่อยู่มัสยิดหนึ่งเดินทางไปอีกมัสยิดหนึ่ง ถามว่าที่ไปนั้น ไปด้วยหลักฐาน หรือ เหตุผล ถ้าด้วยหลักฐานมันต้องมีหลักฐาน แต่หลักฐานทางศาสนาไม่สนับสนุนส่งเสริมให้ตระเวนไปตามมัสยิดต่างๆ

ท่านนบี(ซ.ล.)บอกว่า"อย่าจัดเตรียมสัมภาระตระเวนไปตามมัสยิดต่างๆ ยกเว้นเพียง 3 มัสยิด คือ มัสยิดอัล-หะรอม มัสยิดอัล-อักซอ เเละมัสยิดของฉัน(มัสยิดอัล-นะบะวี) " หะดีษ ซอฮีฮ์

เเละสิ่งที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้มันเป็นรูปแบบที่คิดค้นขึ้นมาเองโดยใช้สติปัญญา ซึ่งไร้หลักฐานเเหล่งอ้างอิงจากการกระทำของท่านนบี(ซ.ล.)เเละเหล่าบรรดาศอหาบะห์ ดูไปดูมามันจะคล้ายคลึงกับรูปแบบของต่างศาสนิก

การที่มีมุสลิมเดินตระเวนกันไปตามมัสยิดนั้น ภาพที่ออกมาเเทนที่จะเป็นการรักษาความบริสุทธิ์ของศาสนา เเต่กลับกลายเป็นทำให้ศาสนามีความขมุกขมัว

วันนี้หน้าที่ของเราคือดูเเลครอบครัว นี่คือสิ่งจำเป็น ส่วนการตระเวนไปตามมัสยิดต่างๆ เเล้วทิงครอบครัวไว้ตามลำพังนั้น ถามว่า ......
#ใครสั่ง?

#หรือว่าอะมีรฺสั่ง?

#เเล้วอะมีรฺเป็นใคร?

ซึ่งการดูเเลครอบครัวนั้นเป็นอมานะห์ที่ยิ่งใหญ่ ละเลยไม่ได้

ฉนั้นถ้าอยากเพิ่มอีหม่าน ขอเเนะนำให้ อยู่ที่บ้านดูเเลครอบครัวตามปกติ ถึงเวลาละหมาดก็ไปละหมาดที่มัสยิด อ่านอัล-กรุอานบ้าง ไม่ใช่เที่ยวตระเวนกันไปตามที่ต่างๆ เพราะสิ่งนี้ไม่มีในรูปแบบ

ส่วนคนจำพวกที่ไม่เคยรู้ศาสนามาก่อนพอมาเจอกลุ่มนี้เข้า ก็เห็นดีเห็นงามด้วย โดยเข้าใจว่ามันเป็นของดี โดยหารู้ไม่ว่า แท้ที่จริงเเล้ว กลุ่มญามาอะห์ตับลีฆ ใช้##จิตวิทยามวลชน ในการเชิญชวน

อิสลามตามแบบฉบับ


1 ความคิดเห็น:

  1. มันทำไมจะต้องมาจ้องจับผิดกันไม่รู้จบ ก็คนมันทำดี ทำสิ่งดี ชวนให้คนมาทำสิ่งที่ดี แล้วมันไปหนักหัวใคร เขาเดินไปหาคน ไปชวนคนมามัสยิดมาละหมาด มาทำตัวเป็นคนดี ไม่เหมือนคนที่นั่งพูดนั่งตำหนิเพื่อนอยู่ที่หน้าจอทีวี คนมันจะไปนรกกันก็เพราะความคิดแบบนี้ มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ความคิดไม่สร้างสรรค์ สร้างแต่ความแตกแยก นี่แหละนิสัยยิว-ยาฮูดี อันนั้นก็ผิด สิ่งนี้ก็ไม่ถูก ตัวเองถูกคนเดียว คนอื่นผิดหมด เป็นตูฮันหรือไง? ที่มาตัดสินใครๆว่าผิดหมด คนขี้เหล้าขี้ยา นักเลงทึ่ชกต่อยกัน ที่ไปยิงหัวเพื่อนตาย ที่เขาอยากจะเตาบัตตัวใครไปหา ใครไปชวนมา แหกตาดูซะมั่ง อย่าดีแต่นั่งตำหนิอยู่กับที่ อย่าเป็นคนที่เห็นแก่ตัว คิดเอาแต่ตัวรอดคนเดียว หยุดได้แล้ว พอได้แล้วคำพูดที่ทำให้มีแต่แตกแยก

    ตอบลบ