สิ่งที่สังเกตให้เห็นปัจจุบัน ของการละหมาดตะรอเวียะฮ์ในค่ำคืนรอมฎอนตามมัสยิดบ้านเรานั้น จะมีการเร่งรีบที่จะละหมาดตะรอเวียะฮ์ให้เสร็จโดยเร็ว
เมื่อละหมาดอีชาอฺเสร็จ ก็รีบเร่งขอดุอาอ์ หลังจากนั้นก็มีการทำละหมาดตะรอเวียะฮฺทันที โดยไม่เว้นช่วงให้ผู้มาละหมาด ได้ละหมาดสุนัตหลังละหมาดอีชาอฺก่อน ผู้ที่มาละหมาดภายหลังก็เร่งรีบที่จะละหมาดฟัรฎูให้เสร็จ เพื่อที่จะได้ทันละหมาดตะรอเวียะฮฺซึ่งเป็นสุนัตตามอีหม่าม
เมื่อละหมาดตะรอเวียะฮฺก็มีการละหมาดเร็วกว่าการละหมาดฟัรฎูในเวลาปกติ มีการอ่านสูเราะฮฺที่เร็ว และไม่มีการเว้นวรรคตอน รวมถึงกริยาบทอื่นของละหมาด
ซึ่งพวกเขาเน้นที่จะให้ครบ 23 ร็อกอะฮฺ (ละหมาดตะรอเวียะฮฺ 20 ร็อกอัต และละหมาดหมาดวิเตรฺ 3 ร็อกอะฮฺ) แต่พวกเขาละทิ้งความเป็นคุชัวะฮฺ(สงบนิ่ง) ความบริสุทธิ์ใจ และความสมบูรณ์ของละหมาด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการมุ่งหวังที่จะได้รับผลบุญตอบแทนจากพระองค์อัลลอฮฺตะอาลา ในการปฏิบัติละหมาดไปควบคู่กับจำนวนร็อกอะฮฺนั้น
มีมุสลิมบางคนที่มีการเลือกไปละหมาดตะรอเวียะฮฺในมัสยิดที่มีการละหมาดตะรอเวียะฮฺเร็วและใช้เวลาในระยะสั้น ถึงแม้บริเวณบ้านของตนจะมีมัสยิดอยู่ใกล้ๆก็ตาม ก็ยอมดิ้นรนไป
ครั้งหนึ่งได้สงสัยว่าทำไมมีมุสลิมบางคนไปละหมาดตะรอเวียะฮฺที่มัสยิดไกลบ้าน ทั้งที่มีมัสยิดห่างจากบ้านของตนไม่เกินสามร้อยเมตร จึงลองไปละหมาดตะรอเวียะฮฺที่มัสยิดนั้น ปรากฎว่าอีหม่ามมัสยิดได้นำละหมาดฟัรฎูอีชา และละหมาดตะรอเวียะฮฺ 20 ร็อกอะฮฺ และละหมาดวิเตรฺ 3 ร็อกอะฮฺรวมกันแล้ว ใช้เวลาในการปฏิบัติไม่เกินครึ่งชั่วโมง จึงได้ทราบถึงบางอ้อ ว่าทำไม่มุสลิมคนนั้นจึงเลือกมาละหมาดตะรอเวียะฮ์ในมัสยิดแห่งนี้
การปฏิบัติละหมาดตะรอเวียะฮ์ในช่วงรอมฎอนเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ได้ปฏิบัติให้เห็นกันมาของคนก่อนๆ จากรุ่นสู่รุ่น โดยเข้าใจว่าการปฏิบัติเช่นนี้คือแบบอย่างจากท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยอฺวะซัลลัม) และบรรพชนยุคต้นที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากท่าน
แต่เมื่อตรวจสอบหลักฐานจากการปฏิบัติการละหมาดตะรอเวียะฮฺของท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยอฺวะซัลลัม) และสาวกของท่าน มันกลับสวนทางกับที่มีการปฏิบัติให้เห็นกันของมุสลิมในบ้านเราปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง เพราะการละหมาดของท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยอฺวะซัลลัม) มีการละหมาดอย่างคุชัวะอฺ อ่านอัลกุรอานอย่างไพเราะ และยืนนาน
ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะมีการฟื้นฟูการปฏิบัติละหมาดตะรอเวียะฮฺตามบบอย่างจากท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยอฺวะซัลลัม)และบรรพชนยุคต้น ให้กับมุสลิมในบ้านเรา และให้ละทิ้งสิ่งที่ปฏิบัติกันมาที่เน้นแต่จำนวนร็อกอะฮฺของละหมาดตะรอเวียะฮฺ แต่ไม่ได้เน้นหนักในความสมบูรณ์ของมัน ซึ่งจะทำให้การละหมาดตะรอเวียะฮฺเป็นไปอย่างสมบูรณ์สวยงาม ตามแบบฉบับของท่านรสูลุลลฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยอฺวะซัลลัม) ต่อไป
والله أعلم بالصواب
พี่น้องกัน รักกัน จึงต้องเตือนกัน...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น