ตอบโดย อ.ปราโมทย์ ศรีอุทัย
คำถาม
กรณีมีการรับเงินเป็นอิมามนำละหมาดตะรอเวียะฮฺในเดือนรอมฎอน
เขาจะเรียกเงินอะไรไม่ทราบค่ะ แต่ให้เนื่องจากเป็นอิมามนำละหมาดตะรอเวียะฮ์ตลอดเดือนรอมฎอน
มีคนมาบ่นว่า ในหมู่บ้านหาคนนำละหมาดตะรอเวียะฮ์ไม่ค่อยได้ เพราะคนเหล่านั้นต่างไปเป็นอิมามตามมัสยิด หรือบาลาย ในหมู่บ้านอื่น โดยได้รับเงิน
อยากทราบว่ากรณีดังกล่าว เป็นที่ถูกต้องตามศาสนาหรือไม่ ศาสนากล่าวไว้อย่างไรในเรื่องนี้
คำตอบ
เรื่องรับเงินค่าจ้างเป็นอิหม่ามนำละหมาด ก็คล้ายๆกับการรับเงินค่าสอนอัล-กุรฺอาน .. คือเป็นเรื่องที่อิสลามอนุญาตและไม่มีข้อห้ามอะไรหรอกครับ อิหม่ามที่มัสยิดหะรอมที่มักกะฮ์หรือที่มัสยิดท่านนะบีย์ที่มะดีนะฮ์ก้รับเงินเดือนกันทุกคนครับ
สำหรับเรื่องผลบุญ ท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมเคยกล่าวว่า "งานทุกอย่างย่อมขึ้นอยู่กับเจตนา ..."ครับ เพราะฉะนั้น เมื่อเขาไปรับเป็นอิหม่ามอีกหมู่บ้านเพื่อหวังเงินค่าจ้าง เขาก็จะได้รับ "ค่าจ้าง" ตามที่เขาเจตนานั้น ส่วนผลบุญการ "เป็นอิหม่าม" ผมคิดว่า เขาไม่น่าจะได้นะครับ วัลลอฮุ อะอฺลัม
ส่วนการละหมาดจะใช้ได้หรือไม่ หากอีหม่ามเหนียตเพื่อเงินนั้น เราต้องแยกให้ออกครับระหว่าง "เสียอิบาดะฮ์" กับ "เสียผลบุญ" ว่ามันคนละเรื่องกัน ตัวอย่างง่ายๆเช่นคนที่ถือศีลอดโดยเนียตว่า เพื่อต้องการลดน้ำหนัก อย่างนี้ ศีลอดของเขาถือว่าใช้ได้และน้ำหนักของเขาอาจจะลด แต่ที่เขาไม่ได้คือผลบุญจากอัลลอฮ์ครับ ไม่ใช่ศีลอดของเขาไม่เศาะห์หรอกครับ, หรืออย่างที่ท่านนบีย์เคยกล่าวว่า ผู้ใดไม่งดเว้นการกล่าวเท็จหรือการปฏิบัติในความชั่ว พระองค์อัลลอฮ์ก็ไม่พึงประสงค์ในการอดอาหารและอดเครื่องดื่มของเขา ความหมายก็คือ ถ้าเขาไปปฏิบัติในสิ่งดังกล่าว เขาก็ไม่ได้รับผลบุญจากการถือศีลอด แต่ศีลอดของเขายังถือว่าใช้ได้ครับ ...
สำหรับในกรณีอิหม่ามที่มักกะฮ์หรือมะดีนะฮ์ ไม่ว่าเราจะเรียกเงินที่ทางการให้พวกท่านว่า "เงินเดือน" หรือ "ค่าจ้าง" เป็นอิหม่าม มันก็คือสิ่งเดียวกันนั่นแหละครับ เหมือนอย่างเงินที่ทางธนาคารให้เรามาจากการฝากเงิน ไม่ว่าเขาจะเรียกว่าเงินปันผลหรือจะเรียกว่าดอกเบี้ยมันก็คือสิ่งเดียวกันครับ ...
.والله أعلم بالصواب
..
คำถาม
กรณีมีการรับเงินเป็นอิมามนำละหมาดตะรอเวียะฮฺในเดือนรอมฎอน
เขาจะเรียกเงินอะไรไม่ทราบค่ะ แต่ให้เนื่องจากเป็นอิมามนำละหมาดตะรอเวียะฮ์ตลอดเดือนรอมฎอน
มีคนมาบ่นว่า ในหมู่บ้านหาคนนำละหมาดตะรอเวียะฮ์ไม่ค่อยได้ เพราะคนเหล่านั้นต่างไปเป็นอิมามตามมัสยิด หรือบาลาย ในหมู่บ้านอื่น โดยได้รับเงิน
อยากทราบว่ากรณีดังกล่าว เป็นที่ถูกต้องตามศาสนาหรือไม่ ศาสนากล่าวไว้อย่างไรในเรื่องนี้
คำตอบ
เรื่องรับเงินค่าจ้างเป็นอิหม่ามนำละหมาด ก็คล้ายๆกับการรับเงินค่าสอนอัล-กุรฺอาน .. คือเป็นเรื่องที่อิสลามอนุญาตและไม่มีข้อห้ามอะไรหรอกครับ อิหม่ามที่มัสยิดหะรอมที่มักกะฮ์หรือที่มัสยิดท่านนะบีย์ที่มะดีนะฮ์ก้รับเงินเดือนกันทุกคนครับ
สำหรับเรื่องผลบุญ ท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมเคยกล่าวว่า "งานทุกอย่างย่อมขึ้นอยู่กับเจตนา ..."ครับ เพราะฉะนั้น เมื่อเขาไปรับเป็นอิหม่ามอีกหมู่บ้านเพื่อหวังเงินค่าจ้าง เขาก็จะได้รับ "ค่าจ้าง" ตามที่เขาเจตนานั้น ส่วนผลบุญการ "เป็นอิหม่าม" ผมคิดว่า เขาไม่น่าจะได้นะครับ วัลลอฮุ อะอฺลัม
ส่วนการละหมาดจะใช้ได้หรือไม่ หากอีหม่ามเหนียตเพื่อเงินนั้น เราต้องแยกให้ออกครับระหว่าง "เสียอิบาดะฮ์" กับ "เสียผลบุญ" ว่ามันคนละเรื่องกัน ตัวอย่างง่ายๆเช่นคนที่ถือศีลอดโดยเนียตว่า เพื่อต้องการลดน้ำหนัก อย่างนี้ ศีลอดของเขาถือว่าใช้ได้และน้ำหนักของเขาอาจจะลด แต่ที่เขาไม่ได้คือผลบุญจากอัลลอฮ์ครับ ไม่ใช่ศีลอดของเขาไม่เศาะห์หรอกครับ, หรืออย่างที่ท่านนบีย์เคยกล่าวว่า ผู้ใดไม่งดเว้นการกล่าวเท็จหรือการปฏิบัติในความชั่ว พระองค์อัลลอฮ์ก็ไม่พึงประสงค์ในการอดอาหารและอดเครื่องดื่มของเขา ความหมายก็คือ ถ้าเขาไปปฏิบัติในสิ่งดังกล่าว เขาก็ไม่ได้รับผลบุญจากการถือศีลอด แต่ศีลอดของเขายังถือว่าใช้ได้ครับ ...
สำหรับในกรณีอิหม่ามที่มักกะฮ์หรือมะดีนะฮ์ ไม่ว่าเราจะเรียกเงินที่ทางการให้พวกท่านว่า "เงินเดือน" หรือ "ค่าจ้าง" เป็นอิหม่าม มันก็คือสิ่งเดียวกันนั่นแหละครับ เหมือนอย่างเงินที่ทางธนาคารให้เรามาจากการฝากเงิน ไม่ว่าเขาจะเรียกว่าเงินปันผลหรือจะเรียกว่าดอกเบี้ยมันก็คือสิ่งเดียวกันครับ ...
.والله أعلم بالصواب
..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น