สาธารณรัฐนิการากัว เป็นประเทศที่มีพื้นที่มากที่สุด
ในอเมริกากลาง แต่มี
ความหนาแน่นของประชากรน้อยที่สุด
มีอาณาเขตทางเหนือจรดประเทศฮอนดูรัส ทาง
ใต้จรดประเทศคอสตาริกา
ชายฝั่งตะวันตกจรดมหาสมุทรแปซิฟิก
ส่วนชายฝั่งตะวันออกจรดทะเลแคริบเบียน
ชื่อของประเทศมาจากการสนธิระหว่างคำว่า "
นีการาโอ"
เป็นชื่อชนเผ่าพื้นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดขณะที่ช
าวสเปนมาถึง กับคำว่า "อะกวา" ซึ่งเป็นคำ
ในภาษาสเปน แปลว่าน้ำ มีพื้นที่ 129,494 ตร.กม.
(115) 49,998 ตร.ไมล์ ประชากร
ทั้งประเทศมีประมาณ 5,487,000 จากการสำรวจ
ที่ผ่านมา
ส่วนศาสนาอิสลาม ในนิการากัว ก็น่าสนใจ
ไม่ไช่น้อย มุสลิม ในนิการากัว โดยมากจะ
เป็นคนต่างถิ่นมาทำงานอยู่ภายในประเทศนี้ ซึ่ง
มีประมาณ 2000-3000 คนเท่านั้น และมีบางส่วนที่
เป็นคนพื้นเมืองที่หันเข้ามารับอิสลามก็มี โดย คนมุสลิม
ส่วนใหญ่ที่เข้าไปอาศัยอยู่ในนิการากัวนั้น โดยมาก
เป็น พี่น้อง มุสลิม จาก ปาเลสไตน์ เป็นส่วนใหญ่ซึ่ง
ได้เดินทางและอพยพเข้าไป อยู่ในประเทศ นิการากัว
เป็นไปได้ว่ามาจากปลายศตวรรษที่สิบเก้าจนกระทั่ง
1917 ถึงสมัย จักรวรรดิออตโตมัน ในยุคท้ายๆ ก็
ยังพบว่า มุสลิมดั้งเดิมนั้น มาจากคนเชื้อสาย
ปาเลสไตน์ ซึ่งเข้ามาอยู่ใน ประเทศนี้ เพียง
ไม่กี่ครอบครัว แต่ก็โดนกลืนหายไปตามกาลเวลา
จนกระทั่งมีชาวปาเลสไตน์ อพยพไปอีก
และนำศาสนากลับสู่ ยัง นิการากัว เช่นเดิม และ
ในปัจจุบันนี้ ก็ยังมีมุสลิมจากชาติอื่นๆเข้าไป อาศัย
ทำงานทำกิจการและ ธุรกิจภายในดินแดนนี้
ในปี 1999 ได้มีการสร้างมัสยิดขึ้นมา ในเมือง ซาน
ฮวน ซึ่งเป็นเมืองหนึ่งที่อยู่ในประเทศนิคารากัว ซึ่ง
เป็นมัสยิดหลังใหญ่และบรรจุคนได้ถึง พันคน
มีโรงเรียนสอนฟัรดูอีน ในมัสยิดและในชุมชนชาวมุสลิม
แต่มุสลิม ในนิการากัว ก็ยังเป็นชุมชนที่ยากจน และ
ในเดือนรอมฏอน พวกเขามักจะ
ได้รับเงินสนับสนุนเพื่อซื้ออาหารละ ศีลอด จากคณะ
ผู้แทนของ ชาวมุสลิมปานามา และบาง
ส่วนของมุสลิมที่อพยพมาบางชุมชน ก็
เป็นคนเชื้อสายอิหร่านที่อพยพมาตั้งแต่สมัยสงคราม
ในอิรัคก็มี
นี่คือความหลากหลายแห่งโลกอิสลาม
ในนิการากัวเราเพิ่งจะทราบว่า มุสลิม มีอยู่
ไม่มากแต่พวกเขาก็ล้วนเป็นคนที่มาจาก ปาเลสไตน์
ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะอพยพมาตั้งแต่ อดีด หรือ
เข้ามาทำงาน ในปัจจุบัน พวกเขาก็ยังคงมีความรัก
ในอิสลาม แม้บางส่วนโดนกลืนหายไป แต่ก็มีบาง
ส่วนเข้าไปเสริมและนำส่วนที่หายกลับคืนมา
เพราะพวกเขาก็คือ ชาวมุสลิม แห่ง นิการากัว แม้จะ
เป็น คนเชื้อสายอื่นที่ไม่ไช่คนในประเทศก็ตามแต่
อย่างน้อยพวกเขาก็เป็นแบบอย่าง
ให้คนพื้นเมืองกลับมานับถือศาสนาอิสลาม ได้อีกเช่น
กัน
...........................................................
บทความ : Arlee Lee (Mujahideen Club)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น