อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557

คำพูดที่ถูกนำไปแอบอ้างอบูหะนีฟะฮ


มีผู้ อ้างว่าเป็นคำพูดอบูหะนีฟะฮ

ท่านเป็นอิมามของมัชฮับหะนาฟีย์ ซึ่งเป็นอุลามาอฺซะลัฟ ท่านกล่าวว่า
قلت: أرأيت لو قيل أين الله تعالى؟ فقال : يقال له كان الله تعالى ولا مكان قبل أن يخلق الخلق، وكان الله تعالى ولم يكن أين ولا خلق ولا شىء، وهو خالق كل شىء
"ฉันขอกล่าวว่า ท่านจะบอกว่าอย่างไร หากถูกกล่าว(แก่ท่าน)ว่า อัลเลาะฮฺอยู่ใหน ? ดังนั้น เขา(อบูหะนีฟะฮฺ)กล่าวว่า ก็กล่าวตอบแก่เขาว่า ?อัลเลาะฮฺทรงมีมาแล้ว โดยที่ไม่มีสถานที่ ก่อนที่พระองค์จะสร้างมัคโลก และอัลเลาะฮฺทรงมีมาแล้ว โดยที่ไม่มีคำว่า ที่ใหน (ให้กับพระองค์) ไม่มีมัคโลก และไม่มีสิ่งใด(พร้อมกับพระองค์) โดยที่พระองค์นั้นทรงสร้างทุกๆ สิ่ง" ชัรหฺ อัลฟิกหฺ อัลอักบัร ของท่าน มุลลา อะลีย์ อัลกอรีย์ หน้า 138
@@@@@@
ชี้แจง
คำพูดข้างต้น
มันเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่ออีกคำพูดหนึ่งของอบูหะนีฟะฮคือ
อิบนุอะบิลอิซ อัลหะนะฟีย์ กล่าวว่า

وَكَلَامُ السَّلَفِ فِي إِثْبَاتِ صِفَةِ الْعُلُوِّ كَثِيرٌ جِدًّا : فَمِنْهُ : مَا رَوَى شَيْخُ الْإِسْلَامِ أَبُو إِسْمَاعِيلَ الْأَنْصَارِيُّ فِي كِتَابِهِ " الْفَارُوقِ " ، بِسَنَدِهِ إِلَى أَبِي مُطِيعٍ الْبَلْخِيِّ : أَنَّهُ سَأَلَ أَبَا حَنِيفَةَ عَمَّنْ قَالَ : لَا أَعْرِفُ رَبِّي فِي السَّمَاءِ أَمْ فِي الْأَرْضِ ؟ فَقَالَ : قَدْ كَفَرَ ، لِأَنَّ اللَّهَ يَقُولُ : الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى [ طه : 5 ] وَعَرْشُهُ فَوْقَ سَبْعِ سَمَاوَاتٍ ، قُلْتُ : فَإِنْ قَالَ : إِنَّهُ عَلَى الْعَرْشِ ، وَلَكِنْ يَقُولُ : لَا أَدْرِي آلْعَرْشُ فِي السَّمَاءِ أَمْ فِي الْأَرْضِ ؟ قَالَ : هُوَ كَافِرٌ ، لِأَنَّهُ أَنْكَرَ أَنَّهُ فِي السَّمَاءِ ، فَمَنْ أَنْكَرَ أَنَّهُ فِي السَّمَاءِ فَقَدْ كَفَرَ

“และคำพูด สะลัฟ เกี่ยวกับการรับรองคุณลักษณะการอยู่เบื้องสูง นั้นมากมายยิ่งนัก และส่วนหนึ่ง จากมันคือ สิ่งที่ ชัยคุลอิสลาม อบูอิสมาอิลอันอันศอรีย์ ในหนังสือของเขา ชื่อ อัลฟารูก ด้วยสายรายงาน สืบไปยัง อบีอัลมุเฏียะ อัลบัลคีย์ ว่า “แท้จริงเขาได้ถาม อบูหะนีฟะฮ เกี่ยวกับผู้ที่ กล่าวว่า “ฉันไม่รู้ว่าพระเจ้าของฉัน อยู่บนฟ้าหรืออยู่บนพื้นดิน? แล้วเขา(อบูหะนีฟะอ)กล่าวว่า “เขาได้ปฏิเสะศรัทธาแล้ว เพราะแท้จริง อัลลอฮตรัสว่า “ พระเจ้าผู้ทรงเมตตา ทรงประทับบน/เหนืออะรัช – ฏอฮา/๕ และอะรัช ของพระองค์ อยู่เหนือฟากฟ้าทั้งเจ็ด ,ข้าพเจ้า กล่าวว่า “ถ้าเขากล่าวว่า “ แท้จริงพระองค์ทรงอยู่บนอะรัช แต่ เขากล่าวว่า “ฉันไม่รู้ว่า อะรัช อยู่บนฟ้า หรืออยู่บนพื้นดิน ? เขา(อบูหะนีฟะฮ)กล่าวว่า “ เขาเป็นกาเฟร “ เพราะเขา คัดค้าน ว่าแท้จริงพระองค์ อยู่บนฟากฟ้า เพราะผู้ใด คัดค้าน ว่า แท้จริง พระองค์ อยู่บนฟากฟ้า แน่นอน “เขาได้ปฏิเสธศรัทธาแล้ว – ดู ชัรหุอะกีดะฮอัฏเฏาะหาวียะฮ เล่ม ๒ หน้า ๓๘๗

อิบนุอะบิลอิซ อัลหะนะฟีย์ กล่าวอีกว่า
وَلَا يُلْتَفَتُ إِلَى مَنْ أَنْكَرَ ذَلِكَ مِمَّنْ يَنْتَسِبُ إِلَى مَذْهَبِ أَبِي حَنِيفَةَ ، فَقَدِ انْتَسَبَ إِلَيْهِ طَوَائِفُ مُعْتَزِلَةٌ وَغَيْرُهُمْ ، مُخَالِفُونَ لَهُ فِي كَثِيرٍ مِنَ اعْتِقَادَاتِهِ
และอย่าไปสนใจผู้ที่คัดค้านดังกล่าว จากผู้ที่อ้างทัศนะอบีหะนีฟะฮ ,แท้จริง บรรดาพวกมุอฺตะซิละฮ และอื่นจากพวกเขา ได้อ้างเขา(อบูหะนีฟะฮ) ,พวกเขามีความแตกต่างกับอบูหะนีฟะฮ มากมายจากบรรดาอะกีดะฮของเขา(ของอบูหะนีหะฮ) - ดู ชัรหุอะกีดะฮอัฏเฏาะหาวียะฮ เล่ม ๒ หน้า ๓๘๗
กล่าวคือ พวกมุอตะซิละฮ ที่ค้านการอยู่เหนือฟากฟ้าของอัลลอฮ จะอ้างทัศนะอบูหะนีฟะฮ ซึ่งความจริง เป็นการแอบอ้าง เพราะพวกเขามีอะกีดะฮแตกต่างจากอะกีดะฮของอบูหะนีฟะฮหลายเรื่อง
อิบนุอะบิลอิซ อัลหะนะฟีย์ กล่าวอีกว่า
. وَقَدْ يَنْتَسِبُ إِلَى مَالِكٍ وَالشَّافِعِيِّ وَأَحْمَدَ مَنْ يُخَالِفُهُمْ فِي بَعْضِ اعْتِقَادَاتِهِمْ . وَقِصَّةُ أَبِي يُوسُفَ فِي اسْتِتَابَتَةِ لِبِشْرٍ الْمَرِيسِيِّ ، لَمَّا أَنْكَرَ أَنْ يَكُونَ اللَّهُ عَزَّ وَجَلَّ فَوْقَ الْعَرْشِ - : مَشْهُورَةٌ . رَوَاهَا عَبْدُ الرَّحْمَنِ بْنُ أَبِي حَاتِمٍ وَغَيْرُهُ .
และ ได้มีการแอบอ้าง มาลิก ,ชาฟิอี และ อะหมัด โดยผู้ที่มีความเห็นขัดแย้งกับพวกเขาในบางส่วนของอะกีดะฮของพวกเขา (ของ มาลิก ,ชาฟิอี และ อะหมัด) และเรื่องราวอบียูซุบ ในการขอให้ บะชีร อัลมะรีสีย์ ทำการเตาบัต เมื่อเขาได้คัดค้าน ว่า อัลลอฮ ผู้ทรง สูงส่ง และ ทรงเลิศยิ่ง อยู่หนืออะรัช (เป็นเรื่องราว) ที่รู้กันแพร่หลาย ,อับดุรเราะหมาน บิน อบีหาติม และอื่นจากเขาได้รายงานมัน- ดู ชัรหุอะกีดะฮอัฏเฏาะหาวียะฮ เล่ม ๒ หน้า ๓๘๗
@@@@
บะชีร อัลมะรีสีย์ เป็นพวกญะฮมียะฮ ที่คัดค้าน การอยู่เหนืออะรัช ของอัลลอฮ จึงถูกขอให้ทำการเตาบัต เราจะสังเกตได้ว่า พวกที่คัดค้าน เรื่อง การอยู่เบื่องสูงของอัลลอฮ พยายามทุกอย่างที่จะลบล้างหะดิษ และอายะฮ อัลกุรอ่าน โดยนำ ทัศนะคนนั้น คนนี้ แม้แต่หะดิษเฎาะอีฟ ก็เอามาอ้าง


เห็น พี่น้องอะชาอีเราะฮบางท่าน เอาคำพูดที่อ้างว่าเป็นคำพูดอบูหะนีฟะฮ ปฏิเสธ การอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮ มาใส่กรอบ...โดยเข้าใจว่าเป็นหลักฐานเด็ด ทั้งๆที่เป็นหลักฐานเฏาะอีฟ

อิหม่ามอบูหะนีฟะฮ(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
لا ينبغي لأحد أن ينطق في ذات الله بشيء بل يصفه بما وصف به نفسه ولا يقول فيه برأيه شيئاً تبارك الله وتعالى رب العالمين
"ไม่สมควรแก่คนหนึ่งคนใด กล่าวในเรื่องซาต(อาตมัน)ของอัลลอฮ ด้วยสิ่งใด แต่ ให้เขาพรรณาคุณลักษณะ พระองค์ ด้วยสิ่งที่พระองค์ได้ทรงพรรณาคุณลักษณะแก่พระองค์เอง ด้วยมัน และเขาจะไม่กล่าวสิ่งใดๆในเรื่องนั้น ด้วยความเห็นของเขา อัลลอฮทรงบริสุทธิ์และพระผู้อภิบาลแห่งสากลจักรวาล ทรงสูงส่งยิ่ง (1)
................
(1) شرح العقيدة الطحاوية 2/427 . تحقيق د . التركي , جلاء العينين ص368


อิบนุอะบิลอิซ อัลหะนะฟีย์อัดดัมชะกีย์ (ฮ.ศ 731-792) ปราชญมัซฮับหะนาฟีย์กล่าวว่า
قَالَ أَبُو حَنِيفَةَ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ فِي ( ( الْفِقْهِ الْأَكْبَرِ ) ) : لَهُ يَدٌ وَوَجْهٌ وَنَفْسٌ ، كَمَا ذَكَرَ تَعَالَى فِي الْقُرْآنِ مِنْ ذِكْرِ الْيَدِ وَالْوَجْهِ وَالنَّفْسِ ، فَهُوَ لَهُ صِفَةٌ بِلَا كَيْفٍ ، وَلَا يُقَالُ : إِنَّ يَدَهُ قُدْرَتُهُ وَنِعْمَتُهُ ، لِأَنَّ فِيهِ إِبْطَالَ الصِّفَةِ ، انْتَهَى
อบู หะนีฟะฮ (ร.ฎ) กล่าวในฟิกฮอัลอักบัรว่า “ พระองค์ทรงมี พระหัตถ์ , พระพักต์และ ตัวตน ดังสิ่งที่อัลลอฮตะอาลา ได้ตรัสไว้ในอัลกุรอ่านจากการระบุ เกี่ยวกับ พระหัตถ์ , พระพักต์และตัวตน ดังนั้นมันคือ คุณลักษณะของพระองค์ โดยไม่ถามว่าเป็นอย่างไร และจะไม่ถูกกล่าวว่า “แท้จริง พระหัตถ์ของพระองค์นั้น คือ พลังอำนาจและความโปรดปราณของพระองค์ เพระว่า ในมัน(หมายถึงในการกล่าวเช่นนั้น) เป็นการทำให้สิฟัตนั้นเป็นโมฆะ (หมายถึง หาว่าสิฟัตนั้นใช้ไม่ได้)- ดู ชัรหุอะกีดะฮอัฏเฎาะฮาวียะฮ เล่ม 1 หน้า 265


อิบนุอะบิลอิซ อัลหะนะฟีย์อัดดัมชะกีย์ (ฮ.ศ 731-792) กล่าวอีกว่า
. وَهَذَا الَّذِي قَالَهُ الْإِمَامُ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ ، ثَابِتٌ بِالْأَدِلَّةِ الْقَاطِعَةِ ، قَالَ تَعَالَى : مَا مَنَعَكَ أَنْ تَسْجُدَ لِمَا خَلَقْتُ بِيَدَيَّ ( ص : 75 ) . وَالْأَرْضُ جَمِيعًا قَبْضَتُهُ يَوْمَ الْقِيَامَةِ وَالسَّماوَاتُ مَطْوِيَّاتٌ بِيَمِينِهِ ( الزُّمَرِ : 67 ) . وَقَالَ تَعَالَى : كُلُّ شَيْءٍ هَالِكٌ إِلَّا وَجْهَهُ ( الْقَصَصِ : 88 ) . وَيَبْقَى وَجْهُ رَبِّكَ ذُو الْجَلَالِ وَالْإِكْرَامِ ( الرَّحْمَنِ : 27 ) . [ ص: 265 ] وَقَالَ تَعَالَى : تَعْلَمُ مَا فِي نَفْسِي وَلَا أَعْلَمُ مَا فِي نَفْسِكَ ( الْمَائِدَةِ : 116 ) . وَقَالَ تَعَالَى : كَتَبَ رَبُّكُمْ عَلَى نَفْسِهِ الرَّحْمَةَ ( الْأَنْعَامِ : 54 ) . وَقَالَ تَعَالَى : وَاصْطَنَعْتُكَ لِنَفْسِي ( طَهَ : 41 ) . وَقَالَ تَعَالَى : وَيُحَذِّرُكُمُ اللَّهُ نَفْسَهُ ( آلِ عِمْرَانَ : 28 ) . وَقَالَ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي حَدِيثِ الشَّفَاعَةِ لَمَّا يَأْتِي النَّاسُ آدَمَ فَيَقُولُونَ لَهُ : خَلَقَكَ اللَّهُ بِيَدِهِ وَأَسْجَدَ لَكَ مَلَائِكَتَهُ وَعَلَّمَكَ أَسْمَاءَ كُلِّ شَيْءٍ ، الْحَدِيثَ
และนี้คือ ที่อิหม่าม(อบูหะนีฟะฮ) ร.ฎ ได้กล่าวไว้ ,คือ การยืนยันที่มั่นคง ด้วยหลักฐานที่เด็ดขาด อัลลอฮตาอาลากล่าวว่า
مَا مَنَعَكَ أَنْ تَسْجُدَ لِمَا خَلَقْتُ بِيَدَيَّ
! อะไรเล่าที่ขัดขวางเจ้ามิให้เจ้ากราบสุญูดต่อสิ่งที่ข้าได้สร้างด้วยพระหัตทั้งสองของข้า – ศอด/75
. وَالْأَرْضُ جَمِيعًا قَبْضَتُهُ يَوْمَ الْقِيَامَةِ وَالسَّماوَاتُ مَطْوِيَّاتٌ بِيَمِينِهِ
และ แผ่นดินนี้ทั้งหมดเป็นเพียงกำพระหัตถ์หนึ่งของพระองค์ในวันกิยามะฮฺ และชั้นฟ้าทั้งหลายจะม้วนกลิ้งด้วยพระหัตถ์ขวาของพระองค์ – อัซซุมัร/67
อัลลอฮตะอาลาตรัสว่า
كُلُّ شَيْءٍ هَالِكٌ إِلَّا وَجْهَهُ
ทุกสิ่งย่อมพินาศนอกจากพระพักตร์ของพระองค์ – เกาะศอศ/88
..................
แล้วท่านอิบนุอะบิลอิซ ได้กล่าวหะดิษที่ว่า
وَقَالَ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي حَدِيثِ الشَّفَاعَةِ لَمَّا يَأْتِي النَّاسُ آدَمَ فَيَقُولُونَ لَهُ : خَلَقَكَ اللَّهُ بِيَدِهِ وَأَسْجَدَ لَكَ مَلَائِكَتَهُ وَعَلَّمَكَ أَسْمَاءَ كُلِّ شَيْءٍ ، الْحَدِيثَ
นบี ศอ็ลฯ ได้กล่าวในหะดิษอัชชะฟาอะฮ ว่า “เมื่อบรรดามนุษย์ ได้มายัง อาดัม (อ.) พวกเขากล่าวแก่อาดัมว่า “อัลลอฮได้สร้างท่านด้วยพระหัตถ์ของพระองค์ , ทรงให้บรรดามลาอิกะฮสุญูดแก่ท่าน และทรงสอนบรรดานามของทุกสิ่งแก่ท่าน- จนจบหะดิษ- ดู ชัรหุอะกีดะฮอัฏเฎาะฮาวียะฮ เล่ม 1 หน้า 265
..............
ข้าง ต้น ปราชญ์มัซฮับหะนะฟีย์ ได้อธิบายอะกีดะฮของอิหม่ามอบูหะนีฟะฮ จริงๆ โดยท่านได้อ้างหลักฐานมากมาย ผมได้แปลส่วนหนึ่ง เพราะมันเยอะมาก


ท่านอิบนุอะบิลอิซ ได้กล่าวว่า

وَلَا يَصِحُّ تَأْوِيلُ مَنْ قَالَ : إِنَّ الْمُرَادَ بِالْيَدِ الْقُدْرَةُ ، فَإِنَّ قَوْلَهُ : لِمَا خَلَقْتُ بِيَدَيَّ ( ص : 75 ) . لَا يَصِحُّ أَنْ يَكُونَ مَعْنَاهُ بِقُدْرَتِي مَعَ تَثْنِيَةِ الْيَدِ
การตีความ(ตะอวีล)ของผู้ที่กล่าวว่า “ ความหมายของคำว่ามือนั้นคือ พลังอำนาจ นั้น ไม่ถูกต้อง เพราะแท้จริงคำตรัสของพระองค์ที่ว่า
لِمَا خَلَقْتُ بِيَدَيَّ
สิ่งที่ข้าได้สร้างด้วยพระหัตทั้งสองของข้า- ศอด/75
การที่ความหมายของมันคือ ด้วย สองพลังอำนาจของข้า พร้อมกับการเป็นทวิพจน์ของคำว่ายัดนั้น ไม่ถูกต้อง
..................
คือ การไปตีความคำว่า “สองมือ ไปเป็นสองพลังอำนาจ” นั้นไม่ถูกต้อง นี่คือ การยืนยันของอิบนุอะบิลอิซ ขอให้พี่น้องศึกษากัน การนำเสนอทางวิชาการดีกว่าการเอาชนะ ด้วยการทำลายใส่ร้ายคนที่เห็นต่าง อย่างที่อะชาอิเราะบางส่วนทำกันขณะนี้

……………………………
ชี้แจงโดย อ.หะสัน หมัดอะดั้ม
รวบรวมโดยทหารของอัลลอฮฺ แบบฉบับนบี










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น