10 ศอฮาบะฮฺ ผู้ได้รับสัญญาสวรรค์
***ซุบัยรฺ บิน เอาวัม รอฎิยัลลอฮุอันฮู***
ชื่อ ซุบัยรฺ บิน เอาวัม
เชื้อสาย เป็นลูกของ เศาะฟียะฮฺ บินติ อับดุถลมุฏฏอลิบ ซึ่งเป็นน้าสาวองท่านศาสดา (ซ.ล.) ดังนั้น ท่านซุบัยรฺ จึงมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของท่าน (ซ.ล.) เช่นเดียวกับท่าน อลี บิน อบีฏอลิบ และท่านญะอฺฟัร บิน อบีฏอลิบ
บิดา เอาวัม บินคุวัยลิด ซึ่งเป็นพีน้องร่วมบิดามารดากับท่านหญิง คอดีญะฮฺ บินติ คุวัยลิด ท่านซุบัยรฺจึงเป็นหลานชายทางฝ่ายภริยาของท่านศาสดา (ซ.ล.) ด้วย
มารดา เศาะฟียะฮฺ บินติ อับดุลมุฏฏอลิบ
บุคลิกภาพ / อุปนิสัย
เป็นผู้ซื่อสัตย์ ไว้วางใจได้ ผู้คนมักฝากสิ่งของไว้กับท่านเสมอ ชอบช่วยเหลือคนยากจนขัดสน
.....การเข้ารับอิสลาม
วันหนึ่งอบูบักรฺ (ร.ฎ.) ได้เดินทางมาที่บ้านของ ซุบัยรฺ บิน เอาวัม เพื่อแจ้งข่าวเกี่ยวกับการเป็นศาสดาของนบีมุฮัมมัด (ซ.ล.) และศาสนาทีท่านได้นำมา ได้ฟังเช่นนั้นซุบัยรฺถึงกับตื่นเต้นดีใจสุดจะกลา่ว เขาจึงนัดพบกับท่านศาสดาตอนเที่ยงคืน เมื่อเวลามาถึง ซุบัยรฺอก็ออกเดินทางจากบ้านไปอย่างเงียบเชียบเพื่อไม่ให้ใครล่วงรู้การพบปะของเากับท่านศาสดา เมือ่พบกับอบูบักรฺแล้ว ทั้งสองจึงออกเดินทางไปหาท่านศาสดา (ซ.ล.) หลังจากได้พบท่านศาสดา (ซ.ล.) แล้ว โดยไม่รอช้า ซุบัยรฺประกาศตนเข้ารับอิสลามต่อหน้าท่านทันที
หลังจากการเข้ารับอิสลาม เขาถูกเนาฟัง บิน คุวัยลิด ทำร้ายเช่นกันด้วยการผูกเท้าทั้งสองของเขาแล้วโยงตัวให้หัวห้อยลงมา แต่เขาก็อดทนในที่สุดก็ถูกปล่อยตัวไป
...... ผลงานเด่น
1. เข้ารับอิสลามในช่วงแรก ๆ ของการประกาศอิสลาม
2. เคยว่ายน้ำข้ามแม่น้ำไนล์ โดยผูกถุงหนังไว้เป็นเครื่องชูชีพ เพื่อสืบช่าวการต่อสู้ของกษัตริย์นะญาซีย์ผู้ก่อการกบฎ ต่อมาเขาได้นำข่าวมาแจ้งแก่ฝ่ายมุสลิมว่ากองทัพของกษัตย์นะญาซีย์ชนะ นั่นหมายถึงมุสลิมที่อพยพไปอบิสซิเนียจะได้อยู่ในราชอาณาจักรของกษัตริย์นะญาซีย์ได้อย่างปลอดภัยต่อไป
3. เป็นนักรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านอาลีั บิน อบีฏอลิบ (ร.ฎ.) ในหลาย ๆ สมรภูมิ
4. ในสงครามบะดัรฺ ท่าน ซุบัยรฺ กับ อลี (ร.ฎ.) เป็นหน่วยสอดแนมที่บ่อน้ำบะดัร เพื่อตรวจสอบดูว่า กองทัพจากมักกะฮฺมีจำนวนเท่าใด
5. ในสงคามอุหุด ซุบัยรฺ บิน เอาวัม (ร.ฎ.) คือนักรบผู้กล้าคนหนึ่ง เขาออกไปประชันดดาบกันตัวต่อตัวกับ ยาซิร นักรบชาวยิว ซึ่งในที่สุด ยาซิร ก็ถูกฆ่าตาย
.......เสียชีวิต
ซุบัยรฺ บิน เอาวัม (ร.ฎ.) เป็นคนที่มีมารยาทสูงส่ง เขาประสบความสำเร็จในชีวิตทั้งด้านจิตวิญญาณและด้านธุรกิจการค้า ความร่ำรวยฃองเขาถูกใช้ไปเพื่องานเผยแผ่ศาสนาจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต แต่ด้วยความมีจิตใจเมตตาเอื้อเฟื้ออย่างมากมาย บั้นปลายของชีวิต เขาจึงเป็นหนี้อยู่จำนนมาก
ท่านซุบัยรฺสั่งเสียแ่ก อบดุลลอฮฺ บุตรชายว่า
"เมื่อพ่อจากไป เจ้าจงจ่ายหนี้ของพ่อให้หมดสิ้่นด้วย หากมันไม่เพียงพอก็จงขอจากเมาลานา ของเรา"
อับดุลลลอฮฺถามว่า
"เมาลานาของเรา คือใครหรือครับ ?"
"เมาลานาของเรา คือ อัลลอฮฺ ผู้ทรงเกียรติสูงส่งยิ่ง"
อับอุลลอฮฺเล่าว่า
"ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ ทุกครั้งที่ฉันตกอยู่ในความลำบากในการจ่ายหนี้่ของพ่อ ฉันจะร้องขอต่อเมาลานา แล้วอัลลอฮฺก็ทรงรับดุอาฮฺทุกครั้ง ในที่สุดหนี้สินของพ่อจึงได้รับการจ่ายชำระจนหมดสิ้น"
ในสงคราม อัลญะมัล ซึ่งเป็นการเผชิญหน้าระหว่างกองทัพมุสลิมสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งนำทัพโดยท่านหญิงอาอิชะฮฺ รอฎิยัลลอฮุอันฮา อีกฝ่ายหนึ่งนำทัพโดยท่านอลี บิน อบีฏฮลิบ (ร.ฎ.)
ท่านซุบัยรฺ (ร.ฎ.) ซึ่งทางฝ่ายท่านหญิงอาอิชะฮฺ รอฎิยัลลอฮุอันฮา ขอเข้าพบท่านอาลี (ร.ฎ.) เพื่อแจ้งว่าท่านไม่ได้เป็นปฏิปักษฺกับท่านอลี (ร.ฎ.) ของหใ้มีการปรองดองกันระหว่างพี่น้องทั้งสองฝ่าย ท่านซุบัยรฺ (ร.ฎ.) จึงปฏิเสธการสู้รบในระหว่างที่ท่านซุบัยรฺ (ร.ฎ.) ได้ละจากสมรภูมิ ชายคนหนึ่งซึ่งไม่อยากให้สงครายุติและต้องการโหมไฟสงครามให้รุนแรงขึ้นเลยติดตามท่านซุบัยรฺ (ร.ฎ.) ไป ขณะที่ท่านกำลังนมาซอยู่นั้นชายคนดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า อัมรฺ บิน ญุรมุซ อัตตะมีมี ก็แทงเข้าทางด้านหลังเป็นเหตุให้ท่านซุบัยรฺ (ร.ฎ.) ถึงกับเสียชีวิตด้วยสภาพที่บริสุทธิ์และปลอดพ้นจากฟิตนะฮฺ
ฆาตรกรรีบเดินทางไปพบท่านอลี (ร.ฎ.) เพื่อรายงานสิ่งที่ตนกระทำด้วยหวังว่าจะเป็นที่พึงพอใจของท่านอลี (ร.ฎ.) แต่กลับตรงกันข้าม ท่านอลี (ร.ฎ.) โกรธเขาอย่างรุนแรง จึงสั่งให้มวลมุสลิมขับไล่เขาออกไปพร้อมกล่าวคำประณามว่า
"จงแจ้งแก่เจ้าฆาตรกรลูกชายของแม่หญิงศอฟียะฮฺด้วยว่า เขาจะต้องตกนรกแน่นอน"
ณะที่ดาบของท่านซุบัยรฺ (ร.ฎ.) ถูกมอบแก่อลี (ร.ฎ.) ท่านได้จุมพิตมันและร่ำไห้อย่างยาวนาน ต่อมาท่านอลี (ร.ฎ.) กล่าวว่า
"ด้วยนามแห่งอัลลอฮฺ ดาบเล่มนี้มีบุญคุณยิ่งใหญ่นัก เจ้าของมันใช้เพื่อปกป้องอันตรายที่จะเกิดแก่ท่านรอซูล (ซ.ล.) นับครั้งไม่ถ้วน"
........ความประเสริฐของท่าน ซุบัยรฺ บิน เอาวัม รอฎิยัลลอฮุอันฮู
1. ซุบัยรฺ (ร.ฎ.) คือ ผู้ช่วยเหลือ (หะวารี) ของท่านนบี (ซ.ล.)
จากญาบิร บิน อับดุลลอฮฺ (ร.ฎ.) เล่าว่า ท่านรอซูลลุลลอฮฺ (ซ.ล.) ได้เรียกร้องประชาชนในวันค็อนดัก (หมายถึงเรียกให้ออกสงคราม) ซุบัยรฺได้ตอบสนองเสียงเรียกร้อง หลังจากนั้นท่านได้เรียกร้องอีก ซุบัยรฺได้ตอบสนองอีก หลังจากนั้นท่านได้เรียกร้องประชาชนอีก ซุบัยรฺก็ได้ตอบสนอง (เป็นครั้งที่สาม)
ท่านนบีจึงกล่าวว่า
"นบีทุกคนมีผู้ช่วยเหลือ (หะวารียูน) และผู้ช่วยเหลือของฉัน คือ ซุบัยรฺ" (บุคอรี, มุสลิม, ติรมีซี)
2. ภูเขาหิรออฺสั่นสะเทือนเนื่องจากผู้มีเกียรติยืนอยู่บนมัน
จากอบีฮุร็อยเราะฮฺ (ร.ฎ.) เล่าว่า แท้จริงท่านรอซุลุลลอฮฺ (ซ.ล.) ได้ขึ้นไปบนภูเขาหิรออฺ ต่อมาภูเขาหิรออฺสั่นสะเทือนขึ้น
ท่านรอซุลลุลลอฮฺได้กล่าวว่า
"เจ้าจงหยุดนิ่ง โอ้หิรออฺ ไม่มีใครอยู่บนเจ้านอกจาก นบี หรือ อ้ศศิกดิก หรืออัซซะฮีด" และปรากฏว่าบนภูเขานั้นมีท่านนบี อบูบักรฺ อุมัร อุษมาน อลี ฎอลหะฮฺ ซุบัยรฺ และ สะอัด บิน อบีวักกอส (มุสลิม, ติรมีซี)
3. ซุบัยรฺ (ร.ฎ.) คือคนที่ท่านนบี (ซ.ล.) โปรดปราน
จากมัรวาน บิน หะกัม เล่าว่า ท่านอุษมานกล่าวว่า
โปรดทราบ ขอสาบานต่อผู้ซึ่งชีวิตของข้าพเจ้าอยู่ในเงื้อมมือของพระองค์ แท้จริงเขา (ซุบัยรฺ) เป็นคนดีที่สุด ตามที่ข้าพเจ้าทราบและแท้จริงเขาเป็นคนที่ท่านรอซุลุลลอฮฺ (ซ.ล.) โปรดปรานยิ่ง (บุคอรี)
..............................................
(จากหนังสือ : 10 เศาะหาบะฮฺ ผู้ได้รับสัญญาสวรรค์)
มันศูร อับดุลลอฮฺ : เรียบเรียง
อดทน เพื่อชัยชนะ โพส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น