อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2555

มุอ์มินคือผู้ได้รับประโยชน์จากการตักเตือน




          คุณสมบัติสำคัญยิ่งอย่างหนึ่งสำหรับผู้ที่ทำงานเพื่ออิสลาม

 คือจะต้องเป็นผู้ยืนหยัด ยึดมั่นในคำสั่งของพระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา

 และท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะวัลลัม

 ยอมรับในคำสั่งใช้ และยุติทันทีเมื่อพบว่ามีคำสั่งห้ามโดยไม่มีการโต้แย้ง

ไม่มีการต่อรองหรือบ่ายเบี่ยงใดๆทั้งสิ้น

แม้จะตระหนักดีว่าในทุกกิจการ เราต้องมุ่งขอการช่วยเหลือจากอัลลอฮฺแต่เพียงองค์เดียว

แต่ในสภาพแห่งความเป็นมนุษย์ เป็นผู้อ่อนแอ ก็อาจเกิดความรู้สึกท้อถอยหมดกำลังใจได้

 เมื่อต้องเพชิญกับอุปสรรค การคัดค้าน หรือต่อต้าน เมื่อถึงตรงนั้นไม่ใช่ทางตัน

 ไม่ว่าในยุคไหนสมัยใด หรือแม้กระทั่งการทำหน้าที่ของบรรดารสูลทุกท่านต่างก็ต้องพบกับอุปสรรคด้วยกันทั้งสิ้น

อัลลอฮฺทรงปลอบขวัญ อัลลอฮฺทรงให้กำลังใจมิอ์มินทุกคนที่บากบั่นต่อสู้ในหนทางของพระองค์อยู่ตลอดเวลา

เราจะได้พบข้อความในทำนองนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกเป้นระยะๆในอัลกุรอาน ในขณะเดียวกัน เราจะได้พบอีกว่าอัลลอฮฺทรงสั่งเราว่า


وَذَكِّرْ فَإِنَّ الذِّكْرَىٰ تَنفَعُ الْمُؤْمِنِينَ ( 55 ) 


“และเจ้าจงตักเตือนเถิด แท้จริงการเตือนนั้นมันยังประโยชน์แก่บรรดา “มุอ์มิน”” (อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัซ-ซาริยาต 51:55)

“การตักเตือน” มิใช่การตำหนิ แต่เป็นการบอก การชี้แจงด้วยเจตนาบริสุทธิ์

 ด้วยความหวังดี ด้วยสำนึกแห่งความเป็นพี่น้องกันอย่างแท้จริง

 ด้วยไม่อยากเห็นคนที่เรารักต้องได้รับความลำบาก

จากการหลับหูหลับตาตามกันโดยไม่ใช้สติปัญญาไต่ตรองว่าสิ่งที่เขาเห็นดีเห็นงามว่าถูกต้องนั้น มันคือความถูกต้องตามบทบัญญัติของอัลลอฮฺหรือไม่

ดังนั้นเมื่อผู้เตือนด้วยความหวังดีเช่นนี้ เตือนด้วยบทบัญญัติและหลักฐานแล้ว ผู้ถูกเตือนรู้สึกอย่างไรกับคำเตือนนั้นนั้น

ถ้าเขายอมรับฟัง ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตามคำเตือนนั้น ...อัลฮัมดุลิลละฮฺ... เขาได้ประโยชน์จากการเตือนนั้นแล้ว

เพราะแท้จริงการเตือนนั้นมันยังประโยขน์แก่ “มุอ์มิน”

 แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าบอกแล้ว เตือนแล้ว ห้ามแล้ว ก็ยังไม่ฟัง

 ดึงดันที่จะเอาชนะ เอาพรรคเอาพวกเป็นที่ตั้ง

 เช่นนี้แล้วเขาจะได้ประโยชน์อันใดเล่าจากการตักเตือนอันนั้น

 และในเมื่อเขาไม่ได้รับประโยชน์ ทั้งๆที่เตือนแล้ว จะให้เข้าใจว่าอายะฮฺนี้ผิดอย่างนั้นหรือ?

 อะอูซุบิลลาฮฺ เปล่าเลย

อายะฮฺนี้บอกว่าผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากการเตือนก็คือ มุอ์มิน

 ดังนั้นคนไหนไม่ได้รับประโยชน์ก็หมายว่าคนนนั้นไม่ใช่มุอ์มิน

แล้วเขาจะเป็นอะไรได้เล่า?


   والله أعلم بالصواب


(อุมัร อับดุลอะซีซ)


✿ ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ ✿

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น