อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555

การขริบ(คิตาน)หนังหุ้มอวัยวะเพศ




               การขริบ หรือ คิตาน หรือเข้าสุนัต หรือที่ชาวบ้านเรียกอีกอย่างหนึ่งเข้าแขก หรือเข่ามาลายู นั้นคือการตัดหนังที่หุ้มปลายอวัยวะเพศชายออกทั้งหมด เพื่อให้ปลายอวัยวะเพศโผล่ออกมา

          สำหรับสตรีมุสลิม   (มุสลีมะฮฺ) การทำคิตานให้ขริบส่วนปลายปุ่มกระสัน หรือคลิตอรีส หรือ เม็ดละมุด ที่เด่นขึ้นมาของอวัยวะเพศออกนิดหน่อย

รายงานจากท่านอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เล่าว่า ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวว่า
“ธรรมชาติห้าประการที่เป็นแนวทางของท่านนบี คือ การขจัดขนใต้ร่มผ้า การคิตาน(การขริบหนังอวัยวะเพศ) การขริบหนวด การถอนขนรักแร้ และการตัดเล็บ” (บันทึกหะดิษโดยบุคอรีย์ หะดิษเลขที่ 5439 มุสลิม หะดิษเลขที่ 377)

โดยส่งเสริมให้กระทำในวันที่ 7 นับจากวันที่คลอดออกมา โดยให้ถือเป็นสุนนะฮฺสำหรับผู้ชาย และถือเป็นความเสร็ฐ ตามทัศนะของอัลฮะนะฟียะฮฺ และมาลิกียะฮฺ

ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวว่า
“การขริบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศนั้น เป็นสุนนะฮฺสำหรับผู้ชาย เป็นความประเสริฐสำหรับผู้หญิง” (บันทึกหะดิษโดยอะหฺมัด และอัลบัยฮะกี)

ส่วนกลุ่มอัชชาฟออียะฮฺ ถือว่าเป็นเรื่องจำเป็น (วาญิบ) สำหรับชายและหญิง

ส่วนกลุ่มอัลฮะนาบิละฮฺ ถือว่าจำเป็นวาญิบสำหรับผู้ชายเท่านั้น แต่ผู้หญิงไม่จำเป็น ถือเป็นความประเสร็ฐเท่านั้น
เพราะท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ได้กล่าวแก่ผู้ชายที่เข้ารับอิสลามว่า
“จงเอาขนแห่งการปฏิเสธโยนทิ้งออกไปจากท่าน และจงขริบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศเสีย” (บั้นทึกหะดิษโดยอบูดาวูด รายงานโดยอุซัยมฺ)

สำหรับหลักฐานที่ว่าการทำคิตาน เป็นเพียงความประเสร็ฐ ไม่ใช่เรื่องจำเป็นวาญิบแก่มุสลีมะฮฺ ดังหะดิษข้างต้นที่กล่าวไปแล้วนั้น

และรายงานจากท่านอุมมุ อะฏียะฮฺ อัลอันศอรียะฮฺ กล่าวว่า
"สตรีท่านหนึ่งทำคิตานที่เมืองมะดีนะฮฺ ดังนั้นท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม จึงกล่าวแก่นางว่า เธอจงอย่าขริบจนหมด แท้จริง สิ่งนั้นคือความสุขของสตรี และเป็นที่ชอบยิ่งสำหรับสามี” (บันทึกโดยอบูดาวูด หะดาเลขที่ 4587)

ดังนั้นการทำคิตานของมุสลีมะฮฺ ถือว่าเป็นสุนนะฮฺ ส่งเสริมให้กระทำ {หนังสือ “มัจญ์มูอฺ ฟะตาวา” โดยเชคบินบาซ เล่ม 10 หน้า 46} หรือเป็นเพียงความประเสริฐเท่านั้น ไม่ถึงขั้นจำเป็นวาญิบ และการทำคิตานของสตรีเป็นที่ทราบกันดีในกลุ่มของสลัฟ

สำหรับช่วงเวลาทำคิตานของสตรีมุสลิม จะต้องทำก่อนบรรลุศาสนภาวะ

ซึ่งท่านอิบนุ ก็อยยิมแสดงทัศนะว่า 
“ไม่อนุญาตให้ผู้ปกครองละทิ้งการทำคิตานของเด็ก ล่วงเลยไปจนกระทั่งบรรลุศาสนภาวะ” (หนังสือ ตะมามุลมินนะฮฺ โดยมุหัมมัด นาศิรุดดีน อัลบานีย์ หน้าที่ 69)



   والله أعلم بالصواب

✿ ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ ✿


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น