ท่านอิบนุตัยมียะฮ (ร.ฮ)ได้กล่าวว่า
ولم يكن من عادة السلف إذا صلوا تطوعاً أو صاموا تطوعاً أو حجوا تطوعاً أو قرؤوا القرآن ؛ يهدون ثواب ذلك إلى أموات المسلمين ، فلا ينبغي العدول عن طريق السلف فإنه أفضل وأكمل
และไม่ได้เป็นประเพณี(อาดัต)ของชาวสะลัฟ เมื่อพวกเขาละหมาดอาสา(สุนัต),ถือศีลอด ,ประกอบพิธีหัจญ์ หรือ อ่านอัลกุรอ่าน แล้วอุทิศผลบุญดังกล่าวแก่บรรดาผู้ตายที่เป็นมุสลิม ดังนั้น จึงไม่สมควรหันเหออกจากแนวทางของสะลัฟ(บรรพชนผู้ทรงธรรมยุคก่อน) เพราะแท้จริง มันประเสริฐกว่าและสมบูรณ์กว่า – ดู อัลอิคติยารอตอัลอิลมียะฮ หน้า 54
อิบนุกอ็ยยิม(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน) กล่าวว่า
ولم يكن من هديه أن يجتمع للغداء، ويقرأ له القرآن، لا عند قبره ولا غيره، وكل هذا بدعة حادثة مكروهة
และไม่ได้เป็นทางนำของท่านรซูล โดยการ ชุมนุมกันเพื่อรับประทานอาหาร และอ่านอัลกุรอ่านให้แก่เขา(อทิศบุญให้มัยยิต) ไม่ว่าจะกระทำที่กุบูรของเขาหรืออื่นจากนั้นก็ตาม และทั้งหมดนี้ เป็นบิดอะฮ ที่เกิดขึ้นใหม่ ที่น่ารังเกียจ – ดูหนังสือ ซาดุ้ลมะอาด เล่ม 1 หน้า 523
เรื่อง การยกบุญ หรืออุทิศบุญ ให้ผู้อื่น เป็นประเด็นอิจญติฮาด ของนักปราชญ์ที่มีความเห็นขัดแย้งกัน ซึ่งไม่มีหลักฐานจากอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ
อิหม่ามนะวาวีย์ (ร.ฮ)
เรื่อง การยกบุญ หรืออุทิศบุญ ให้ผู้อื่น เป็นประเด็นอิจญติฮาด ของนักปราชญ์ที่มีความเห็นขัดแย้งกัน ซึ่งไม่มีหลักฐานจากอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ
อิหม่ามนะวาวีย์ (ร.ฮ)
وَأَمَّا قِرَاءَةُ الْقُرْآنِ فَالْمَشْهُورُ مِنْ مَذْهَبِ الشَّافِعِيِّ أَنَّهُ لَا يَصِلُ ثَوَابُهَا إِلَى الْمَيِّتِ وَقَالَ بَعْضُ أَصْحَابِهِ : يَصِلُ ثَوَابُهَا إِلَى الْمَيِّتِ .
สำหรับ การอ่านอัลกุรอ่าน(อุทิศผลบุญ)นั้น ที่แพร่หลายจากมัซฮับชาฟิอีย์ นั้น ผลบุญของมันไม่ถึงผู้ตาย และ สหายบางส่วนของท่าน กล่าวว่า ผลบุญของมันถึงผู้ตาย
สำหรับ การอ่านอัลกุรอ่าน(อุทิศผลบุญ)นั้น ที่แพร่หลายจากมัซฮับชาฟิอีย์ นั้น ผลบุญของมันไม่ถึงผู้ตาย และ สหายบางส่วนของท่าน กล่าวว่า ผลบุญของมันถึงผู้ตาย
แล้วอิหม่ามนะวาวีย์ (ร.ฮ) ได้อ้างถึงหลักฐานของอิหม่ามชาฟิอีและผู้ที่มีทัศนะสอดคล้อง กับอิหม่ามชาฟิอีที่บอกว่า การอ่านอัลกุรอ่านอุทิศบุญไม่ถึงผู้ตาย ว่า
وَوَدَلِيلُ الشَّافِعِيِّ وَمُوَافِقِيهِ قَوْلُ اللَّهِ : تَعَالَى : وَأَنْ لَيْسَ لِلْإِنْسَانِ إِلَّا مَا سَعَى وَقَوْلُ النَّبِيِّ - صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ - : إِذَا مَاتَ ابْنُ آدَمَ انْقَطَعَ عَمَلُهُ إِلَّا مِنْ ثَلَاثٍ صَدَقَةٍ جَارِيَةٍ أَوْ عِلْمٍ يُنْتَفَعُ بِهِ أَوْ وَلَدٍ صَالِحٍ يَدْعُو لَهُ
และหลักฐานของอิหม่ามชาฟิอีย์ และบรรดาผู้ที่มีทัศนะตรงกับท่าน คือ คำตรัสของอัลลอฮ ที่ว่า "แท้จริงมนุษย์จะไม่ได้รับผลตอบแทน นอกจากสิ่งที่เขาได้พากเพียรไว้เท่านั้น" - อัลนัจญมิ/39 และคำพูดของท่านนบี ที่ว่า "เมื่อลูกหลานอาดัมสิ้นชีวิตลง การงานของเขาก็ยุติ เว้นแต่จาก 3 ประการคือ
1. ทานถาวรวัตถุ(การบริจาคทานวัตถุถาวรให้เป็นสาธารณะประโยชน์)
2. ความรู้ที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ด้วยมัน
3. ลูกที่ดีขอดุอาให้แก่เขา
วัลลอฮุอะอฺลัม - ดู ชัรหุมุสลิม 1/90
والله أعلم بالصواب
1. ทานถาวรวัตถุ(การบริจาคทานวัตถุถาวรให้เป็นสาธารณะประโยชน์)
2. ความรู้ที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ด้วยมัน
3. ลูกที่ดีขอดุอาให้แก่เขา
วัลลอฮุอะอฺลัม - ดู ชัรหุมุสลิม 1/90
والله أعلم بالصواب
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น