อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555

วันนี้วันอะรอฟะฮฺ


                       วันอะรอฟะฮฺเป็นวันที่ผู้ประกอบพิธีฮัจญ์ได้ทำการวุกูฟที่ทุ่งอะรอฟะฮ. และเป็นวันที่มุสลิมทั่วโลกที่ไม่ได้ประกอบพิธีฮัจญ์ทำการถือศิลอดสุนนะฮฺวันอะรอฟะฮฺ

นอกจากนี้วันอะรอฟะฮฺยังมีความสำคัญอื่นอีก ดังนี้

***วันอะรอฟะฮฺ(อะเราะฟะฮฺ แปลว่า พบและรูจัก) เป็นวันหนึ่งที่อัลลอฮฺทรงทำให้ศาสนาของพระองค์สมบูรณ์และเป็น วันหนึ่งที่พระองค์ทรงให้ความเมตตา ของพระองค์สมบูรณ์

รายงานจาก ฎอริก อิบนุ ซิฮาบ ได้กล่าวว่า
أنََّ رجُلاً من اليهودِ قالَ لِعمرَ بنِ الخطَّابِ : يا أمير المؤمِنين ، آيةٌ في كِتابِ الله تقْرؤُونَها  ، 
لو علَينا معْشِرَ اليهودِ نَزَلَت لاتَّخَدنا دلك اليومَ عيْداً ، قال أيُّ آيةٍ ؟  قال : (اليومَ أكمَلْتُ 
لكم دينَكم وأتْمَمْتُ عليكم نعْمتِي ورَضِيتُ لكمُ الإسلامَ ديْناً) (المائدة/3) قال عمر :  قد
عرفْنا دلك اليومَ والمكانَ الدي نزَلَت فيه على النَّبِيِّ  T وهو قائِمٌ بِعرفةَ يومَ الجمُعةِ  (رواه
البخاري ومسلم)

"ยิวคนหนึ่ง ได้กล่าวแก่ท่านอุมัรว่า : แท้จริงพวกท่านได้อ่านโองการหนึ่งในคัมภีร์ของพวกท่านหรือไม่ ซึ่งหากว่าโองการดังกล่าวได้ถูกประทานลงมาให้กับพวกเราชาวยิวแล้วละก็ แน่นอนว่า เราจะเอาวันที่ประทานโองการนั้นมาเป็นวันรื่นเริง

ท่านอุมัร กล่าวว่า : แล้วมันคือโองการใดเล่า ?

พวกยิวตอบว่า : คือ โองการที่ว่า

ٱلْيَوْمَ أَكْمَلْتُ لَكُمْ دِينَكُمْ وَأَتْمَمْتُ عَلَيْكُمْ نِعْمَتِى وَرَضِيتُ لَكُمُ ٱلإسْلاَمَ دِيناً} [المائدة: 3]. 

".....วันนี้ข้าได้ให้สมบูรณ์แก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งศาสนาของพวกเจ้าและข้าได้ให้ครบถ้วนแก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งความกรุณาเมตตาของข้า และข้าได้ยินยอมอิสลามให้เป็นศาสนาแก่พวกเจ้าแล้ว...."(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัล-มาอิดะฮฺ 5:3)

ท่านอุมัร กล่าวว่า : ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ แน่นอนว่า ฉันรู้ดีถึงวันที่โองการนั้นลงมายังท่านเราะซูล ตลอดเวลาที่โองการนั้นลงมา (กล่าวคือ ถูกประทานลงมายังท่านเราะซูล ในตอนเย็นวันอะรอฟะฮ์ ที่ตรงกับวันศุกร์ เดือน ซุลฮิจญะฮ์ ที่ 10 )"  (บันทึกโดย บุคอรีย์ และมุสลิม)


****วันอะรอฟะฮฺเป็นวันที่ทราบกันอยู่แล้วซึ่งเป็นวันที่อัลลอฮฺทรงสรรเสริญในคัมภีร์ของพระองค์ ดังที่พระองค์อัลลอฮฺทรงตรัสว่า :

لِّيَشْهَدُوا مَنَافِعَ لَهُمْ وَيَذْكُرُوا اسْمَ اللَّهِ فِي أَيَّامٍ مَّعْلُومَاتٍ عَلَىٰ مَا رَزَقَهُم مِّن بَهِيمَةِ الْأَنْعَامِ فَكُلُوا مِنْهَا وَأَطْعِمُوا الْبَائِسَ الْفَقِيرَ ( 28 )
“เพื่อพวกเขาจะได้มาร่วม เป็นพยานในผลประโยชน์ของพวกเขา และกล่าวพระนามอัลลอฮ์ในวันที่รู้กันอยู่แล้ว คือวันเชือด ตามที่พระองค์ทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกเขาจากสัตว์สี่เท้า ดังนั้นพวกเจ้าจงกินเนื้อมัน และจงให้อาหารแก่ผู้ยากจนขัดสน" (อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัล-ฮัจญ์ 22:28)

ท่าน อิบนู อับบาส กล่าวว่า: "วันที่รู้กันอยู่แล้ว" ก็คือ 10 วันแรกของเดือนซุลฮิจญะฮฺก็คือวันอารอฟะฮฺนั้นเอง


***วันอารอฟะฮฺเป็นวันหนึ่งที่อัลลอฮฺใช้ในการสาบานและแน่นอนเมื่ออัลลอฮฺทรงสาบานก็จะสาบานด้วยกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่

พระองค์อัลลอฮฺทรงตรัสว่า :
وَشَاهِدٍ وَمَشْهُودٍ ( 3 ) 
"และด้วยผู้เป็นพยานและผู้ที่ถูกเป็นพยาน"(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัลบุรูจญ์ 85:3)


รายงานจากท่านอบูฮูร็อยเราะฮฺ ท่านนบี(ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม)กล่าวว่า:

"วันที่ถูกสัญญาคือ วันกิยามะฮ์, วันที่ถูกเป็นพยานคือ วันอารอฟะฮฺ,และผู้ที่เป็นพยานก็คือ วันศุกร์" (ติรมีซียฺ)  
                                                                                                                      
        และอัลลอฮฺทรงตรัสว่า:


وَالشَّفْعِ وَالْوَتْرِ ( 3 )
"และด้วยสิ่งที่เป็น คู่ และที่เป็นคี่" (อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัล-ฟัจญ์ร 89:3)


           ท่าน อิบนู อับบาส รอดิยัลลอฮุ อันฮุ กล่าวว่า:  วันที่เป็นคู่คือ วันอีดิ้ล อัฏฮา

           ท่าน อักรอมะฮฺและท่านอัฏ เฏาะฮาก บอกว่า: วันที่เป็นคี่คือ วันอะรอฟะฮฺ


*****วันอารอฟะฮฺเป็นวันหนึ่งที่ดีที่สุดในการขอพร
ท่านนบี(ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม)กล่าวว่า:
"ดุอาที่ดีที่สุดคือ ดุอาแห่งวันอารอฟะฮ์" (ศอฮียฺ อัล อัลบานียฺ)

******วันอารอฟะฮฺเป็นวันแห่งการอภัยโทษและเป็นวันแห่งการปลดปล่อยมนุษย์จากไฟ นรกและเป็นวันแห่งความสวยงามสำหรับผู้ที่อยู่ ณ ทุ่งอารอฟะฮฺ
ท่านนบี(ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม)กล่าวว่า:
            "ไม่มีวันใดที่อัลลอฮ์จะทรงปลดปล่อยปวงบ่าวของพระองค์ให้พ้นจากนรกมากกว่าวัน อะรอฟะฮ์และแท้จริงพระองค์จะทรงอยู่ใกล้ชิดและทรงภูมิใจ(ด้วยการขยันทำความดีของบ่าวของพระองค์)ต่อมวลมะลาอิกะฮฺพระองค์ทรงกล่าว(ด้วยความภาคภูมิใจ)ว่า: พวกเขาเหล่านี้ประสงค์สิ่งใดกัน?" (บันทึกหะดิษโดยมุสลิม)

          และในบางสายรายงานท่านนบี(ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม)กล่าว:
            "แท้จริงอัลลอฮฺทรงนำเสนอต่อมวลมะลาอิกะฮฺด้วยความภาคภูมิใจ(ในความพยายามทำความดีของบ่าวของพระองค์) ในวันอะรอฟะฮ์ของชาวอะรอฟะฮ์และพระองค์ทรงตรัสว่า : “พวกเจ้าจงดูบรรดาบ่าวของฉันซิ พวกเขาได้มาหาฉันด้วยลักษณะผมที่ยุ่งเหยิงคลุกฝุ่น”(บันทึกหะดิษโดย อิมาม อะหมัด)


อะรอฟะฮฺเป็นวันหนึ่งที่เป็นเงื่อนไขอันสำคัญยิ่งในการประกอบพิธีฮัจ
ท่านนบี(ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม)กล่าวว่า:
"ฮัจญ์คือ อะรอฟะฮ์"(บันทึกหะดิษโดยบุคอรี มุสลิม)

 *******ท่านนะบีอะดัมได้พบกับกับภรรยาของท่านที่ชือว่าเฮาวาอ์ ณ ที่แห่งนี้หลังจากที่พระองค์อัลลอฮ์ได้นำทั้งสองลงมาจากสวรรค์

 ******ท่านนะบีอิรอฮีมได้เจอกับภรรยาของท่านและลูกชายของท่านนะบีอิสมาอีลหลังจากนะบีอิบรอฮีมได้ทิ้งทั้งแม่และลูก ณ นครมักกะฮ์ที่แห้งแล้ง ไม่มีต้นไม้และน้ำ และกลับได้ยังถิ่นเดิมคือปาเลสไตน์



والله أعلم بالصواب


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ ✿





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น