สอบถามว่ามาจากไหน ก็ได้คำตอบว่า "จากจะนะ" ก็เลยถามต่อไปว่าอยู่ตรงไหนของจะนะ เมื่อญินที่เข้าร่างนั้นได้ยินเสียงข้าพเจ้า มันก็กล่าวว่า "หยุดเลย ไม่ต้องคุยกับมัน มันทำให้กูลำบาก กูมาอยู่ก่อนมัน แต่มันกลับหัวแข็ง ไม่เชื้อเจ้าที่เจ้าทาง ทำให้กูอยู่อย่างลำบาก ต้องการไปจากที่นั้น"
เมื่อข้าพเจ้าและภรรยาได้ยินมันพูดเช่นนั้น ก็รู้สึกงงงวยและตกใจ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าบ้านหลังนี้ มีพวกญินอาศัยอยู่ด้วย เพราะตั้งแต่เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ ก็อยู่กันอย่างปกติสุข ไม่มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นในบ้านหลังนี้เลย
จนเมื่อสองวันที่แล้ว น้องสาวของภรรยาพร้อมสามีและลูกได้มาเยี่ยมและนอนพักค้างคืนที่บ้าน ซึ่งขณะที่พวกเขามาเยี่ยมและข้างคืนนั้น เหตุการณ์ก็ปกติดี จนถึงรุ่งเช้าของวันต่อมาพวกเขาก็เดินทางไปอำเภอเทพา แต่ก็ไม่ได้ไถ่ถามว่าไปทำธุระอะไร แต่รู้ตอนหลังว่าไปหาโต๊ะหมอแขก
สำหรับสามีของน้องสาวนั้นจบศาสนาชั้นสูง เป็นอิมามนำละหมาดวันศุกร์ หรือวันอีด หรือร่วมทำพิธีต่างๆ เขาจึงเป็นที่นับถือของผู้คนในหมู่บ้าน แต่เขาก็ยังมีความเชื่อในเรื่องการทำหมอ การเสกเป่า ผูกแขวนเส้นด้าย หรืออาซีมัต เวลาตนเอง ภรรยา หรือลูกไม่สบายก็ต้องไปหาหมอแขก เพื่อปัดเป่ารักษา เขาจึงมีพวกญินที่เรียกว่าของติดตามรับใช้ตัวเขาอยู่ตลอดเวลา
สำหรับข้าพเจ้านั้น จะปฏิเสธสิ่งเหล่านี้หัวชนฝา ไม่เคยอิจฉาหรือภูมิใจในตัวเขา ที่เป็นผู้มีความรู้ แต่กลับมีความเชื่อกับสิ่งเหล่านี้เลย
และเมื่อถามญินที่เข้าร่างน้องสาวสะใภ้ว่า มาได้ไง มันก็ตอบว่า "กูอยู่บ้านนั้นไม่ได้แล้ว เมื่อของ(ญิน)บัง (สามีของน้องภรรยา) ได้ชักชวนกูไปกับพวกมัน กูก็เลยมาด้วย พร้อมพวกอีกหลายตน"
คือเมื่อน้องสาวของภรรยาพร้อมสามีและลูกเดินทางไปอำเภอเทพา พวกมันก็ตามไปด้วย ตามคำชักชวนของ(ญิน)สามีน้องสาวภรรยา หลังจากนั้นก็เดินทางไปบ้านในต่างจังหวัด และสามีของน้องสาวภรรยาได้นอนค้างคืนบ้านของน้องสาวภรรยาคืนหนึ่ง หลังจากนั้นตอนเย็นของวันนั้น เขาก็เดินทางกลับไปบ้านของเขาซึ่งตั้งอยู่อีกจังหวัดไปโดยลำพัง พอพลบค่ำของวันเดียวกัน ญินตนนั้นก็เข้าสิงร่างน้องสาวสะใภ้ของภรรยา มันบอกว่า "ทำไมบัง กลับ ไม่ชวนมันด้วย" พร้อมร้องห่มร้องไห้ ที่จะตามสามีของน้องสาวภรรยาไปด้วย สลับกับร้องเพลงภาษาญาวีไปด้วย หลังจากนั้นไม่นานมันก็ออกจากร่างไป
จากการสอบถามคนในพื้นที่บริเวณบ้านนั้น ก็ทราบว่าบริเวณนั้นเคยเป็นป่าและลำคลอง เป็นที่อยู่ของพวกญิน เมื่อมีการสร้างบ้านจึงไปปลูกทับบริเวณที่พวกมันอาศัยอยู่
เหตุการณ์ครั้งนี้ มันไม่ได้ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่มันกลับทำให้ข้าพเจ้ามีความรู้สึกมุ่งมั่นกับการปฏิบัติศาสนา และช่วยเพิ่มพูนความอิหม่านของข้าพเจ้ามากขึ้น และจะไปต่อเติมสิ่งที่บกพร่องให้สมบูรณ์
บ้านหลังนี้ ตั้งแต่ข้าพเจ้าและภรรยาเข้ามาพักอาศัย มันอบอวลไปด้วยการละหมาด เสียงอ่านอัลกุรอาน การถือศิลอด ไร้เสียงดนตรีบรรเลงเพลง ไร้รูปภาพติดตามฝาผนังบ้าน ทีวีมีแต่ช่องศาสนา มีการกล่าวนามของอัลลอฮ์ และขอความคุ้มครองจากพระองค์ทุกครั้งเมื่อเปิดปิดประตู ปิดอาหารเครื่องดื่ม นำสิ่งสกปรกที่มีกลิ่นเหม็นไปเททิ้งทุกวัน ที่สำคัญไม่เคยมีสิ่งของเครื่องรางของขลัง ตะกรุต อาซีมัต หรือเส้นด้าย หรือสิ่งใดที่เป็นการตั้งภาคีต่อพระองค์อัลลอฮ์เข้ามาในบ้านหลังนี้เลย
หากเรายังมีความศรัทธามั่น ทำอิบาดะฮฺอย่างครบถ้วนและสม่ำเสมอ ขอความคุ้มครอง และมอบหมายยังพระองค์อัลลอฮ์แล้ว จะมีสิงใดเล่าที่จะมาทำลาย หรือชักชวนไปในหนทางทางที่หลงผิด จะไม่มีความเกรงกลัวใดๆ ที่มากระชากให้เราหันเหไปจากสัจธรรม หากเรายังคงมั่นใจว่า พระองค์อัลลอฮ์ยังคงอยู่กับเราและคุ้มครองเราอยู่ตลอดเวลา
والله أعلم بالصواب
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น