"ผี" ตามหลักภาษานั้น หมายถึง "ศพ" หรือร่างที่ไร้วิณญาณ สำหรับผีที่นำมาใช้เรียกตามความเข้าใจทั่วไป หมายถึงวิญญาณของคนที่ตายไปแล้ว โดยมีความเชื่อว่าผีเหล่านี้จะวนเวียนอยู่กับคน ให้คุณให้โทษกับมนุษย์ หรือรอญาติอุทิศผลบุญไปให้ ซึ่งเป็นความเชื่อในเรื่อง "วิญญาณเวียนว่ายตายเกิด" ซึ่งตามหลักอิสลามแล้วถือว่าเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง แต่อิสลามได้สอนไว้ว่า เมื่อวิญญาณได้ออกจากร่างแล้วก็จะไปอยู่อีกโลกหนึ่งที่เรียกว่า “บัรซัค” หรือ “โลกบัรซัค” หมายถึง โลกที่ถูกปิดกั้นไว้ โดยที่คนตายไม่สามารถย้อนกลับมายังโลกใบนี้ได้ ดังพระองค์อัลลอฮ์ (ศุบฮานะฮูวะตะอาลา) ตรัสไว้ในอัลกุรอาน สูเราะฮ์อัลมุอ์มินูน อายะฮ์ที่ 100 มีความหมายว่า
“และเบื้องหน้าของพวกเขามีบัรซัคจนกว่าจะถึงวันที่พวกเขาถูกให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา”
แต่ที่ปรากฏให้มนุษย์เห็น มีการหลอกหลอนให้หวาดกลัว พยายามให้ผู้ศรัทธาหันห่างจากการเคารพสักการะต่อพระเจ้าองค์เดียวนั้น คือ "ญินและชัยฏอน" อันเป็นมัคลูคที่ถูกสร้างดั่งเช่นมนุษย์ ต่างที่มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นพวกมันตามปกติได้ แต่พวกมันกลับเห็นมนุษย์ และหากใครผู้ใดสวามิภักดิ์ต่อญินและชัยฏอนหล่านี้ มันก็จะแสดงอำนาจเหนือผู้นั้นทันที โดยบางครั้งมันจะพูดหรือกระทำแทนผู้ที่ถูกเข้าสิง หรือที่เรียกว่า “ผีเข้า” หรือ “ผีสิง” และหากยอมอยู่ใต้อำนาจของมัน มันก็จะแสดงฤทธิ์ เฮี้ยนและขลัง หรือศักดิ์สิทธิ์ หรือทรงอิทธิฤทธิ์ตามที่กล่าวขานกัน
ดั่งพระองค์อัลลอฮฺ (ศุบฮานะฮูวะตะอาลา) ตรัสไว้ในอัลกุรอาน สูเราะฮ์อัลญิน อายะฮฺที่ 6 มีความหมายว่า
“และแท้จริง มนุษย์บางคนเคยขอความคุ้มครองจากญินบางตัว มันจึงยิ่งเพิ่มความจองหองให้กับญินเหล่านั้น”
ซึ่งคนที่มีหัวใจที่เชื่อมั่นศรัทธาต่ออัลลอฮฺองค์เดียวแล้ว บรรดาญินและชัยฏอนเหล่านั้นก็ไม่มีอำนาจใดๆเหนือเขาได้
วัลลอฮุอะลัม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น