อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2557

การแปลว่าทรงสถิตหรือประทับบนบัลลังเป็นการแอบอ้างของวะฮบีจริงหรือ?




มีคนอ้างคำพูดของอาจารย์ท่านหนึ่งว่า
พระองค์อัลลอฮฺทรงไม่ได้กล่าวว่า“ พระองค์ทรงสถิตหรือนั่งอยู่บนบััลลังก์ ”ในอัลกุอ่าน แต่ที่แปลกันเองว่า อัลลอฮฺทรงสถิตหรือประทับ นั้น เป็นการให้ความหมายเป็นภาษาไทยที่แอบอ้างของทางกลุ่มวะฮ์ฮาบีคณะใหม่นั้นเอง

เขาอ้างหลักฐานว่า
อัลลอฮฺตะอาลาทรงตรัสว่า
ثُمَّ اسْتَوَى إِلَى السَّمَاءِ فَسَوَّاهُنَّ سَبْعَ سَمَاوَاتٍ
“จากนั้นพระองค์ทรงอิสตะวาไปสู่ฟากฟ้า แล้วพระองค์ก็ทรงบันดาลพวกมันเป็นเจ็ดชั้นฟ้า” [อัลบะก่อเราะฮ์: 29]
อัลอิสติวาอฺในซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์อายะฮ์ที่ 29 นี้ ปราชญ์สะลัฟคือท่านอัฏเฏาะบะรีย์ได้เลือกความหมายที่ว่า
وَأَوْلَى الْمَعَانِي بِقَوْلِ اللَّهِ جَلَّ ثَنَاؤُهُ : " ثُمَّ اسْتَوَى إِلَى السَّمَاءِ فَسَوَّاهُنَّ " عَلَا عَلَيْهِنَّ وَارْتَفَعَ ، فَدَبَّرَهُنَّ بِقُدْرَتِهِ ، وَخَلَقَهُنَّ سَبْعَ سَمَاوَاتٍ
“บรรดาความหมายที่ดีที่สุด จากคำตรัสของอัลลอฮฺ ที่ว่า “จากนั้นพระองค์ทรงอิสตะวาไปสู่ฟากฟ้าแล้วพระองค์ก็ทรงบันดาลพวกมัน” หมายถึง สูงส่งเหนือบรรดาฟากฟ้า แล้วพระองค์ก็ทรงบริหารจัดการบรรดาชั้นฟ้าด้วยเดชานุภาพของพระองค์และทรง สร้างพวกมันเป็นเจ็ดชั้นฟ้า” อิบนุญะรีร อัฏเฏาะบะรีย์, ตัฟซีรอัฏเฏาะบะรีย์, 430.
และอัลลอฮฺตะอาลาทรงตรัสว่า
الرَّحْمَن عَلَى الْعَرْش اسْتَوَى
“พระเจ้าผู้ทรงเมตตาทรงอิสตะวาเหนือบัลลังก์” [ฏอฮา: 5]
และอัลอิสติวาอฺในซูเราะฮ์ฏอฮา อายะฮ์ที่ 5 ท่านอัฏเฏาะบะรีย์ ได้ให้ความหมายว่า
وَقَوْلُه : { الرَّحْمَن عَلَى الْعَرْش اسْتَوَى } يَقُول تَعَالَى ذكْرُهُ : الرَّحْمَنُ عَلَى عَرْشِهِ اِرْتَفَعَ وَعَلَا
สรุปคือ อัลอิสติวาอฺทั้งสองอายะฮ์นี้มีความหมายเดียวกันตามที่ท่านอัฏเฏาะบีย์ได้ เลือกเฟ้นไว้ คือความหมาย สูง(เหนือบัลลังก์)” อิบนุญะรีร อัฏเฏาะบะรีย์, ตัฟซีรอัฏเฏาะบะรีย์, เล่ม 18, หน้า 270.
เราจะพบว่า อิสตะวา ในอายะฮ์ที่ 29 ซูเราะฮ์อัลบะก่อเราะฮ์และอายะฮ์ที่ 5 ซูเราะฮ์ฏอฮานั้น เป็นคุณลักษณะของอัลลอฮฺอันเดียวกันตามทัศนะของท่านอิหม่ามอัฏเฏาะบะรีย์ แต่การอิสตะวา ในความหมาย สูงเหนือบัลลังก์และสูงสู่ฟากฟ้าตามการตีความของท่านอิหม่ามอัฏเฏาะบะรีย์ นั้น คือสูงส่งแบบปกครองและอำนาจเหนือฟากฟ้าและบัลลังก์ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
....................
ชี้แจง
เป็นการบิดเบือนอะกีดะฮของอิหม่ามอิบนุญะรีร เพราะอิบนุญะรีร มีความเชื่อเรื่องการอยู่เบื้องสูงของอัลอฮ
มาดูว่าในซูเราะฮอัลบะเกาะเราะฮ อายะฮที่ 29 อิหมามอัฏฏอบรีย์กล่าวว่าอย่างไร
عن الربيع بن أنس: " ثم استوى إلى السماء ". يقول: ارتفع إلى السماء .
รายงานจากรอเบียะ บิน อะนัส ว่า (ภายหลังได้ทรงมุ่งสู่ฟากฟ้า ) เขากล่าวว่า หมายถึง ขึ้นไปยังฟากฟ้า – ดูตัฟสีรอัฏฏอบรีย์ อรรถาธิบายอายะฮที่ 29 ซูเราะฮอัลบะเกาะฮเราะฮ
อิหม่ามฏอ็บรีย์ได้กล่าวว่า
وأوْلى المعاني بقول الله جل ثناؤه: " ثم استوى إلى السماء فسوَّاهن "، علا عليهن وارتفع، فدبرهنّ بقدرته، وخلقهنّ سبع سموات.
และบรรดาความหมายที่ดีที่สุด ด้วยคำตรัสของอัลลฮผู้ซึ่ง การสรรเสริญ พระองค์สูงส่งยิ่ง ที่ว่า ภายหลังได้ทรงมุ่งสู่ฟากฟ้า และได้ทำให้มันสมบูรณ์ขึ้น ) หมายถึง ทรงอยู่สูงเหนือมันและทรงขึ้น แล้วบริหารจัดการมันด้วยพลานุภาพของพระองค์ และทรงสร้างมัน เป็นเจ็ดชั้นฟ้า – ดู ดูตัฟสีรอัฏฏอบรีย์ อรรถาธิบายอายะฮที่ 29 ซูเราะฮอัลบะเกาะฮเราะฮ
หนึ่ง -อิบนุญะรีร ให้ความหมายคำว่า อิสตะวา อิลา ว่า
علا عليهن وارتفع،
ทรงอยู่สูงเหนือมันและทรงขึ้น
เป็นหลักฐานที่แสดงว่า สะลัฟ แปลความหมายของอายะฮสิฟาต และ แสดงว่า การอ้างของอาชะอิเราะฮบางกลุ่มที่ว่า สะลัฟห้ามไปยุ่งกับความหมายอายะฮสิฟาต และให้มอบหมายความหมายแก่อัลลอฮเท่านั้น เป็นการอ้างเท็จ ดังที่ปรากฏชัดเจนว่าสะลัฟได้อธิบายความหมายอายะฮสิฟาต
สอง - อิบนุญะรีร ยืนยันการอยู่เบื้องสูง เหนืออะรัชของอัลลอฮ ดังหลักฐานต่อไปนี้
อิบนุญะรีร อัฏฏอ็บรีย์ นักตัฟสีรยุคสะลัฟ (ฮ.ศ 310) ได้อธิบายว่า
وَهُوَ مَعَكُمْ أَيْنَ مَا كُنْتُمْ ) يَقُولُ : وَهُوَ شَاهِدٌ لَكُمْ - أَيُّهَا النَّاسُ - أَيْنَمَا كُنْتُمْ يَعْلَمُكُمْ ، وَيَعْلَمُ أَعْمَالَكُمْ ، وَمُتَقَلَّبَكُمْ وَمَثْوَاكُمْ ، وَهُوَ عَلَى عَرْشِهِ فَوْقَ سَمَوَاتِهِ السَّبْعِ
(และพระองค์ทรงอยู่กับ พวกเจ้าไม่ว่าพวกเจ้าจะอยู่ ณ แห่งหนใด) เขากล่าวว่า หมายถึง และพระองค์ทรงเป็นพยานแก่พวกเจ้า โอ้มนุษย์เอ๋ย ไม่ว่าที่ใหนก็ก็ตามที่พวกเจ้าอยู่ พระองค์ทรงรู้พวกเจ้า และทรงรู้บรรดาการงานของพวกเจ้า (ทรงรู้)สถานที่เกลื่อนย้ายของพวกเจ้าและที่อยู่อาศัยของพวกเจ้า และพระองค์ ทรงอยู่บนอะรัช เหนือฟากฟ้าทั้งเจ็ดของพระองค์ – ดู ตัฟสีร อัฏฏอ็บรีย์ เล่ม 23 หน้า 170 อธิบายซูเราะฮอัลหะดิด อายะฮที่ 4
สาม - อิบนุญะรีร ยืนยันว่า นบีมูซา อะลัยฮิสสลาม เชื่อว่า อัลลอฮอยู่บน ฟ้า แต่ ฟาโรห์ปฏิเสธ ดังหลักฐานข้างล่าง
อัลลอฮ สุบหานะฮุ วะตะอาลา ทรงตรัสว่า
وَقَالَ فِرْعَوْنُ يَا هَامَانُ ابْنِ لِي صَرْحًا لَعَلِّي أَبْلُغُ الْأَسْبَابَ (36) أَسْبَابَ السَّمَاوَاتِ فَأَطَّلِعَ إِلَى إِلَهِ مُوسَى وَإِنِّي لَأَظُنُّهُ كَاذِبًا
และฟิรเอานฺกล่าวว่า โอ้ฮามานเอ๋ย! จงสร้างหอสูงให้ฉันเพื่อฉันจะได้บรรลุถึงทางที่จะขึ้นไป ทางที่จะขึ้นไปสู่ชั้นฟ้าทั้งหลาย เพื่อฉันจะได้เห็นพระเจ้าของมูซา และแท้จริง ฉันคิดอย่างแน่ใจแล้วว่าเขาเป็นคนโกหก
(สูเราะฮฺฆอฟิร 40 : 36-37)
อิหม่ามอิบนุญะรีรอัฏฏอ็บรีย์ อธิบายว่า
وَقَوْلُهُ : ( وَإِنِّي لَأَظُنُّهُ كَاذِبًا ) يَقُولُ : وَإِنِّي لِأَظُنُّ مُوسَى كَاذِبًا فِيمَا يَقُولُ وَيَدَّعِي مِنْ أَنَّ لَهُ فِي السَّمَاءِ رَبًّا أَرْسَلَهُ إِلَيْنَا
และคำตรัสของพระองค์ที่ว่า (และแท้จริง ฉันคิดอย่างแน่ใจแล้วว่าเขาเป็นคนโกหก) หมายถึง “แท้จริงฉันแน่ใจว่ามุซา โกหก ในสิ่งที่เขากล่าวและกล่าวอ้างว่า เขามีพระเจ้าอยู่บนฟากฟ้า พระองค์ส่งเขามายังเรา – ดู ตัฟสีร อัฏฏอ็บรีย์ อรรถาธิบาย ซูเราะฮฆอฟีร อายะฮที่ 37
สี่ - อิบนุญะรีร ยืนยันว่า อัลลอฮอยู่เหนืออะรัช ดังหลักฐานต่อไปนี้
อายะฮที่ว่า
أَلَمْ تَرَ أَنَّ اللَّهَ يَعْلَمُ مَا فِي السَّمَاوَاتِ وَمَا فِي الْأَرْضِ مَا يَكُونُ مِنْ نَجْوَى ثَلَاثَةٍ إِلَّا هُوَ رَابِعُهُمْ
เจ้าไม่เห็นดอกหรือว่า อัลลอฮฺทรงรอบรู้สิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลาย และสิ่งที่อยู่ในแผ่นดิน การซุบซิบกันในสามคนจะไม่เกิดขั้น เว้นแต่พระองค์จะทรงเป็นที่สี่ของพวกเขา…..อัลมุญาดะละฮ/7
อิบนุญะรีร อธิบายว่า
وَعُنِيَ بِقَوْلِهِ : ( هُوَ رَابِعُهُمْ ) بِمَعْنَى : أَنَّهُ مُشَاهِدُهُمْ بِعِلْمِهِ ، وَهُوَ عَلَى عَرْشِهِ
ด้วยคำตรัสของพระองค์ที่ว่า (พระองค์จะทรงเป็นที่สี่ของพวกเขา) ถูกให้ความหมายด้วยความหมาย ว่าแท้จริง พระองค์ คือผูที่เห็นพวกเขาด้วยความรู้ของพระองค์ และพระองค์ทรงอยู่บนอะรัชของพระองค์
- ดูตัฟสีรอิบนุญะรีร อธิบายซูเราะฮอัลมุญาดะฮ อายะฮที่ 7
ห้า - มีหลักฐานอื่นอีกมากมาย ที่แสดงให้เห็นว่า การอ้างของบุคคลข้างต้นเป็นการบิดเบือนอะกีดะฮอิหม่ามอิบนุญะรีร

....................................................
ชี้แจงโดย Ah-lulquran Was-sunnah
รวบรวมโดย ทหารของอัลลอฮ์ แบบฉบับนบี





1 ความคิดเห็น:

  1. คำว่า ทรงรู้สถานที่เคลือนย้ายของพวกเจ้า แก้เป็น ทรงรู้พฤติกรรมของพวกเจ้า

    ตอบลบ