อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2556

จงให้ความยุติธรรมในระหว่างลูกๆทุกคน


อิสลามกำชับให้บิดามารดามีความเที่ยงธรรมและยุติธรรมในระหว่างลูกๆของตนทุกคน คอยเอาใจใส่อบรมสั่งสอนอย่างเท่าเทียมกัน ส่งให้ลูกศึกษาเล่าเรียนทุกๆคน มีสิ่งของ เงินทอง ทรัพย์สมบัติก็แบ่งให้ทุกๆคน ไม่เลือกที่จะเจาะจงมอบสิ่งใดให้แก่บุตรคนหนึ่ง และเจาะจงที่ที่จะไม่มอบให้บุตรอีกคนหนึ่ง เมื่อบุตรคนใดกระทำผิดก็ต้องติเตือน หากบุตรคนใดปฏิบัติตนที่ดีอยู่ในศาสนาก็ยกย่องชมเชย อย่าเลือกที่รักลูกคนใดเป็นพิเศษ และมักที่ชังลูกอีกคนหนึ่งเป็นที่สุด มันจะก่อให้เกิดการความอิจฉาริษยา ความบาดหมาง ความเกลียดชัง และเกิดการห่างเหินและแตกแยกขึ้นในครอบครัว ทำให้โครงสร้างของครอบครัวต้องพังทลายลงไป

รายงานจากท่านอันนั๊วะอฺมาน อิบนิ บะชีร ร่อฎียัลลอฮุอันฮุมา เล่าว่า
“บิดาของฉันได้มอบทรัพย์บางส่วนของเขาให้แก่ฉัน มารดาของฉันอัมเราะฮฺบุตรีของร่อวาฮะฮ ก้กล่าวว่า ฉันยังไม่ยินยอม จนกว่าเขาจะไปหาท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะซัลลัม ให้ท่านเป็นสักขีพยานยืนยันเสียก่อน บิดาของฉันจึงได้ไปหาท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะซัลลัม เพื่อให้ท่านเป็นพยานยืนยันในทรัพย์สินที่บิดาของฉันมอบให้ ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะซัลลัม ถามว่า ท่านทำเช่นนี้กับลูกของท่านทุกคนหรือไม่? บิดาของฉันกล่าวว่า ไม่ ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า พวกท่านจงกลัวเกลงอัลลอฮฺเถิด และจงให้ความยุติธรรมแก่ลูกๆของพวกท่านทุกคน บิดาของฉันจึงเรียกเอาทรัพย์สินนั้นกลับคืนมา(จากฉัน)” (บันทึกหะดิษโดยอิมามมุสลิม)

และอีกรายงานหนึ่ง ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวตอบว่า
“ดังนั้น ท่านอย่าได้ให้ฉันเป็นการพยาน เพราะฉันไม่เป็นพยานในเรื่องที่เป็นการอธรรมต่อผู้อื่น” (บันทึกหะดิษโดยอิมามบุคอรีย์ และมุสลิม)

ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“พวกท่านทั้งหลายจงให้ความเท่าเทียมแก่ลูกๆของพวกท่านในการให้ หากว่าฉันเป็นผู้ให้ความสำคัญแก่คนใด แน่นอน ฉันคงให้ความสำคัญแก่ลูกสาวเป็นพิเศษ” (บันทึกโดยอิมามอัฏฏ็อบรอนีย์)

والله أعلم بالصواب

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น