(ภาพ)กษัตริย์ ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาลุซะอูด กับมุฟตีสูงสุดแห่งซาอุดิอารเบีย ชัยคฺ อับดุลอะซีซ บิน อับดุลลอฮฺ อาลุชชัยคฺ หะฟิซอฮุมัลลอฮฺ
"อาลุซะอูด" , "อาลุชชัยคฺ" คือใคร ?
ราชวงศ์ซะอูด(อาลุซะอูด)คือราชวงศ์ที่ปกครองราชอาณาจักรซาอุดิอารเบียในปัจจุบัน ซึ่งกษัตริย์พระองค์ปัจจุบัน พระราชาธิบดี ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาลุซะอูด เป็นกษัตริย์ลำดับที่ 7 แห่งราชวงศ์ซะอูด และราชวงศ์ซะอูดเป็นราชวงศ์ที่สืบเชื้อสายมาจาก อิหม่ามมุฮัมมัด บิน ซะอูด รอหิมาฮุลลอฮฺ ผู้ปกครองเมืองดัรอียะฮฺ(ซาอุดิอารเบียปัจจุบัน)
ตระกูลชัยคฺ(อาลุชชัยคฺ) คือตระกูลของบรรดาอุลามาอฺผู้สร้างคุณประโยชน์ให้เเก่ศาสนาที่เลื่องลือในปัจจุบันนี้ ซึ่งตระกูลอาลุชชัยคฺ สืบเชื้อสายมาจากอิหม่าม มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ รอหิมาฮุลลอฮฺ ผู้ฟื้นฟูศาสนาอิสลามในคาบสมุทรอาหรับ เเละได้ทำการขจัดชิริก เเละบิดอะฮฺจนหมดสิ้นจากคาบสมุทรอาหรับ เเละมุฟตีสูงสุดของซาอุดิอารเบียปัจจุบัน ก็มาจากตระกูลอาลุชชัยคฺ
ท่าน ชัยคฺ มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ เป็นนักฟื้นฟูศาสนาอิสลามที่ทรงอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อประชาติอิสลาม ท่านมีชีวิตอยู่ในช่วง (1115 - 1206 ฮ.ศ.) ตรงกับ (1703 - 1791 ค.ศ.) ที่เมืองนัจดฺ ในประทศซาอุดิอาระเบีย
เเละเป็นที่ทราบกันดีว่าคาบสมุทรอาหรับในยุคของท่านชัยคฺ มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ เป็นยุคที่ศาสนาในจิตสำนึกของมุสลิมเสื่อมโทรมอย่างมากที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์อิสลาม ชิริก(การตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ) เเละบรรดาพิธีกรรมที่เป็นอุตริกรรม(บิดอะฮฺ)เกิดขึ้นอย่างดาษดื่นบนหน้าแผ่นดิน ผู้คนได้ทำการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺในหลากหลายรูปแบบ อาทิ การขอดุอาอฺ วิงวอนขอต่อหลุมฝังศพของบรรดาศอหาบะฮฺเเละบรรดาอิหม่ามต่างๆ หรือแม้กระทั่งต้นไม้ที่บรรดาศอหาบะฮฺได้ปลูกเอาไว้ก็ไม่พ้นที่จะถูกขอความช่วยเหลือ โดยสิ่งต่างๆเหล่านี้ถูกยึดเอาเป็นสื่อกลางระหว่างมนุษย์กับอัลลอฮฺในการขอความช่วยเหลือ(การตะวัซซุล) ซึ่งเป็นมติของปวงปราชญ์อะฮฺลุซซุนนะฮฺว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ
ท่ามกลางความเสื่อมทรามของสังคมที่ดาษดื่นด้วยกับชิริก และบิดอะฮฺ และมีทีท่าว่าจะทวีความรุนเเรงขึ้นทุกที ท่านชัยคฺ มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ ซึ่งท่านเป็นบุคคลที่เติบโตมาท่ามกลางอุลามาอฺ ถูกเลี้ยงดูด้วยกับหลักการของศาสนาอย่างเคร่งครัด ท่านได้ลุกขึ้นเพื่อทำการขจัดสิ่งเลวร้ายเหล่านี้ให้หมดจากสังคมอาหรับ ด้วยเหตุนี้จึงสร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาผู้คน รวมถึงบรรดาผู้ปกครองในบ้านเมืองของท่าน ท้ายที่สุดท่านก็โดนเนรเทศออกจากบ้านเมืองของท่าน เเต่ท่านก็ยังยืนหยัดในอุดมการณ์ของท่านอย่างไม่ถดถอย
และด้วยพระกำหนดของอัลลอฮฺ ท่านชัยคฺ มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ ได้พบเจอกับ ท่านอิหม่ามมุฮัมมัด บิน ซะอูด ผู้ปกครองเมือง"ดัรอียะฮฺ"(ซาอุดิอารเบียปัจจุบัน) เเละได้นำเสนออุดมการณ์ที่มุ่งมั่นที่จะทำการขจัดสิ่งชั่วร้ายให้ท่านเจ้าเมืองได้รับทราบ และด้วยกับความเชื่อมั่นที่มีต่ออัลลอฮฺของอิหม่าม มุฮัมมัด บิน ซะอูด ท่านจึงเห็นด้วยกับอุดมการณ์ของท่านชัยคฺ พร้อมกับให้การสนับสนุนด้านการทหารเพื่อปราบปรามบรรดาเครื่องหมายของการตั้งภาคี อุตริกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบรรดากุบูรฺที่ถูกเคารพบูชา เเละมะกอมโต๊ะวะลียฺต่างๆ สิ่งเหล่านี้ถูกกำจัดอย่างสิ้นซาก เเละท่านชัยคฺ มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ ก็ได้เรียกร้องผู้คนกลับมาสู่หลักการของศาสนาที่เเท้จริง โดยให้ผู้คนได้ยึดหลักการที่มาจากอัล-กุรอาน เเละซุนนะฮฺ เเละเเนวทางของชาวสะลัฟ ทำให้คาบสมุทรอาหรับกลับมาเป็นเเผ่นดินที่เปี่ยมด้วยหลักการของศาสนาอีกครั้งหนึ่ง เเต่ถึงกระนั้นก็ตาม การที่ได้มีการร่วมมือกันปราบปรามสิ่งชั้วร้ายของ นักการปกครอง เเละนักการศาสนาในครั้งนี้ ส่งผลให้บรรดาผู้ที่เคยจมปลักอยู่ในความมืดมนแห่งชิริกเเละบิดอะฮฺต่างไม่พอใจเเละโกรธเเค้นท่าน อิหม่าม มุฮัมมัด บิน ซะอูด เเละ ชัยคฺ มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ เป็นอย่างมาก จึงเป็นเหตุให้เกิดคำที่ถูกอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อทำลายการฟื้นฟูอิสลาม เเละสร้างภาพให้ผู้คนรังเกียจเเละหวาดกลัวต่อกระบวนการฟื้นฟูอิสลามในครั้งนี้ เเละสาเหตุเหล่านี้แหละทำให้เกิดคำว่า"วะฮาบียฺ"ขึ้นมาหลอกลวงสังคม ซึ่งมีเเกนนำโดยพวกชีอะฮฺ พวกศูฟียฺ เเละพวกอุตริกรรมนิยม
เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ คือจุดกำเนิดของประเทศแห่งเตาฮีด ที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาด้วยกับเตาฮีด" ซาอุดิอารเบีย " ที่สำเร็จด้วยกับน้ำมือของนักปกครองผู้เเน่วเเน่ เเละนักศาสนาที่ยืนหยัด เป็นความสำเร็จที่มาจากอัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่ จนกระทั่งทุกวันนี้ซาอุดิอารเบียยังคงดำรงไว้ซึ่งหลักเตาฮีดที่ถูกต้อง เเละเป็นประเทศที่ประกาศใช้กฏหมายอิสลามหนึ่งเดียวในโลก นอกจากนั้นซาอุดิอารเบียยังได้ทำการรับใช้ศาสนาอิสลามอย่างชนิดที่ไม่สามารถคำนวณได้ ไม่ว่าจะเป็นการรับใช้แผ่นดินหะรอมทั้งสอง สนับสนุนกิจการศาสนาอย่างมากมายมหาศาล เเละให้การช่วยเหลือพี่น้องมุสลิมที่ถูกอธรรมทั่วทุกมุมโลก เเละนอกจากนี้ ซาอุดิอารเบียยังมีบทบาทในการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายต่างๆในโลก ณ ปัจจุบันอีกด้วย
ดังนั้นจึงสมควรอย่างยิ่งที่ประเทศนี้จะได้รับการขอดุอาอฺจากพี่น้องมุสลิม ให้พระองค์ทรงปกปักษ์รักษาประเทศนี้ให้ได้รับความปลอดภัยจากบรรดาศัตรูทั้งหลาย ที่มาในรูปแบบต่างๆ
อิสลามตามแบบฉบับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น