อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2558

ถ้าเรื่องศาสนา แล้วมาอ้างถ้าไม่มีหลักฐานห้ามทำได้ คำว่า “แบบอย่างนบี” มันจะมีความหมายอะไร




สุนนะฮคือ สิ่งที่เราปฏิญานตนในประโยคที่สอง
การรับรองมุหัมหมัด บุตร อับดุลลอฮ ว่า เป็นศาสนทูต (รอซูล)
ไม่ใช่แค่พูดด้วยปลายลิ้น แต่ต้องปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของประโยคนี้ด้วย
เรื่อง อิบาดะฮในอิสลาม
ต้องมีตัวบทที่เป็นคำสั่งจากอักุรอ่านและอัสสุนนะฮ

الأعمال الدينية لا
يجوز أن يتخذ شيء منها سببا إلا أن تكون مشروعة فإن العبادات مبناها على التوقيف

บรรดาการงานที่เกี่ยวกับศาสนานั้น
ไม่อนุญาตให้สิ่งใดๆจากมันถูกเอามาเป็น มูลเหตุ
(ให้กระทำ)นอกจาก มันเป็นสิ่งที่ถูกบัญญัติไว้
เพราะแท้จริงบรรดาอิบาดะฮนั้นรากฐานของมันถูกวางอยู่บนการรอคำสั่ง -
อัลอาดาบอัชชัรอียะฮ ของอิบนุมุฟลิห เล่ม 2หน้า 265

อัสสัรเคาะสีย์ กล่าวว่า

ولا مدخل للرأي في
معرفة ما هو طاعة الله، ولهذا لا يجوز إثبات أصل العبادة بالرأي.

และไม่มีช่องทางใดๆสำหรับความคิดเห็น
ในเรื่องการรู้จักสิ่งที่มันเป็นการภักดีต่ออัลลอฮ เพราะเหตุนี้
จึงไม่อนุญาตให้รับรองรากฐานการอิบาดะฮ ด้วยการใช้ความคิดเห็น – ดู
อุศูลุอัสสัรเคาะสีย์ เล่ม 2 หน้า 122

หมายความว่า ในเรื่อง การอิบาดะฮนั้น ไม่เปิดโอกาสให้นำความคิดเห็นมากำหนดบทบัญญัติศาสนาที่จะนำไปทำการภักดีต่ออัลลอฮ

เพราะเรื่องอิบาดะฮนั้น ต้องหยุดอยู่ที่คำสัง

ดังที่ อัลหาฟิซ อิบนุหะญัร กล่าวว่า

الأصل في العبادة
التوقف
รากฐานในเรื่องอิบาดะฮนั้น คือ
การหยุดอยู่ที่คำสั่ง – ดูฟัตหุลบารีย์ เล่ม 2 หน้า 80


 มาดูตัวอย่างการตามสุนนะฮ ตัรกียะฮ(สุนนะฮโดยการทิ้งสิ่งที่นบีไม่ได้ทำ)

عَنْ مُجَاهِدٍ ، عَنِ ابْنُ عَبَّاسٍَ ، " أَنَّهُ طَافَ مَعَ
مُعَاوِيَةَ بِالْبَيْتِ ، فَجَعَلَ مُعَاوِيَةُ يَسْتَلِمُ الأَرْكَانَ كُلَّهَا ،
فَقَالَ لَه : لِمَ تَسْتَلِمُ هَذَيْنِ الرُّكْنَيْنِ ، وَلَمْ يَكُنْ رَسُولُ
اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَسْتَلِمُهُمَا ؟ فَقَالَ مُعَاوِيَةُ
لَيْسَ شَيْءٌ مِنَ الْبَيْتِ مَهْجُورًا ، فَقَالَ ابْنُ عَبَّاسٍ : لَقَدْ كَانَ
لَكُمْ فِي رَسُولِ اللَّهِ أُسْوَةٌ حَسَنَةٌ سورة الأحزاب آية 21 ، فَقَالَ
مُعَاوِيَةُ : صَدَقْتَ

รายงานจาก มุญาฮิด จากอิบนุอับบาส ว่า
เขาได้ทำการฏอวาฟ บัยตุลลอฮ พร้อมกับมุอาวิยะฮ แล้วปรากฏว่า มุอาวียะฮได้ลูบ
รุกน(มุม)ของบัยตุลลอฮทั้งหมด แล้ว อิบนุอับบาสได้ กล่าวแก่เขา(มุอาวียะฮ)ว่า
ทำไมท่านจึงลูบสองรุกนนี้ด้วย ทั้งๆที่ ไม่ปรากฏว่ารซูลุลลอฮ
ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ลูบมันทั้งสองเลย ? แล้วเขา(มุอาวิยะฮกล่าวว่า “
ไม่มีสิ่งใดจากบัยตุลลอฮ ที่ถูกละทิ้ง (ในการลูบ) แล้ว อิบนุอับบาส
ได้กล่าวอายะฮที่ว่า (แท้จริงในศาสนทูตของอัลลอฮนั้น เป็นแบบอย่างที่ดี
สำหรับพวกเจ้า) - ซูเราะฮอัลอะฮซาบ/21 แล้ว ท่านมุอาวิยะฮ จึงกล่าวว่า “
ท่านพูดถูกต้อง แล้ว - รายงาน โดย มุสลิม ,อะหมัด และคนอื่นอื่นๆ

...............
ข้างต้นคือ ตัวอย่างของการละทิ้งปฏิบัติ เนื่องจาก
ตามแบบอย่างของรอซูล ในสิ่งที่ท่านไม่ปฏิบัติ เพราะฉะนั้น การอ้างว่า
ไม่มีหลักฐานห้าม ทำได้
มันเป็นการใช้ความเห็นมากำหนดหลักการศาสนา
นี้คือตัวปัญหาและตัวปัญหาที่สร้างปัญหาให้กับศาสนาและคนอาวามทุกวันนี้


อิหม่าม อิบนุดะกีก อัลอีด เราะหิมะฮุลลอฮฺ กล่าวไว้ว่า

قد منعنا إحداث ما هو
شعار في الدين . ومثاله : ما أحدثته الروافض من عيد ثالث ، سموه عيد الغدير .
وكذلك الاجتماع وإقامة شعاره في وقت مخصوص على شيء مخصوص ، لم يثبت شرعا . وقريب
من ذلك : أن تكون العبادة من جهة الشرع مرتبة على وجه مخصوص . فيريد بعض الناس :
أن يحدث فيها أمرا آخر لم يرد به الشرع ، زاعما أنه يدرجه تحت عموم . فهذا لا
يستقيم ؛ لأن الغالب على العبادات التعبد ، ومأخذها التوقيف

และแท้จริง เราได้ห้าม ไม่ให้มีการประดิษฐขึ้นใหม่ ของสิ่งที่ มันคือ
เครื่องหมายในศาสนา(หมายถึงสิ่งที่เป็นพิธีกรรมในศาสนา) และตัวอย่างของมันคือ สิ่งที่บรรดาชีอะฮรอฟีเฎาะฮ
ได้ประดิษฐ์มันขึ้นมาใหม่ จากการให้มีอีดที่สามขึ้นมา แล้วพวกเขาเรียกว่า “ อีดุลเฆาะดีร”
และในทำนองเดียวกันนั้น คือ การชุมนุมกัน และการกำหนดบรรดาเครื่องหมายศาสนา(พิธีกรรมศาสนา) ในเวลาที่เฉพาะเจาะจง ในสิ่งที่เฉพาะเจาะจง ที่ไม่ได้รับการยืนยันทางศาสนาบัญญัติ และ(ตัวอย่าง)ที่ใกล้เคียงกับดังกล่าวนั้นคือ อิบาดะฮ ที่ ในด้านศาสนาบัญญัตินั้น อยู่ในฐานะบนรูปแบบที่ถูกเจาะจงไว้ แล้วผู้คนบางส่วน ได้ประดิษฐ์สิ่งอื่นขึ้นมาใหม่ในมัน โดยที่ไม่มีรายงานมาจากศาสนบัญญัติ โดยอ้างว่า มันอยู่ภายใต้ หลักฐานกว้างๆ แบบนี้ไม่ถูกต้อง เพราะส่วนใหญ่ บน การอิบาดะฮทั้งหลายนั้นคือ การตะอับบุด (การแสดงการเคารพภักดีต่อพระเจ้า) และที่เอา(ที่มา)ของมัน คือ อัตเตากิฟ (คือรอคำสั่ง) – ดุ อะหกามุลอะหกาม ชัรหอุมดะติลอะหกาม ของ อิบนุดะกีก อัลอีด 1/119 เรือง คุณค่าละหมาดญะมาอะฮ

สรุปจากคำพูดของอิบนุดะกีกคือ

1. ไม่อนุญาตให้กำหนดรูปแบบพิธีกรรมศาสนาในเวลาและรูปแบบที่เฉพาะ โดยไม่มีหลักฐานทางศาสนาบัญญัติ เช่น
การกำหนดวีนอีดที่สามขึ้นมา อย่างพวกรอฟิเฏาะคือ อีดเฆาะดีร

2. การกำหนดรูปแบบอิบาดะฮ โดยอ้างว่า เป็นหลักฐานกว้างๆนั้นไม่ถูกต้อง
เพราะ หลักการอิบาดะฮนั้นต้องรอคำสั่งจากศาสนบัญญัติ


 อิหม่ามอัสสะอดีย์ (ฮ.ศ 1376) ได้กล่าวไว้ว่า
ومن أمثلة العبادات
غير المشروعة: ما يفعله بعض الناس من التقرب لله - عز وجل - بالتصفيق أو بالرقص
والغناء، هذه إذا فُعلت على جهة العبادة تكون بدعة مخالفة للشريعة. ومثل الاحتفال
برأس السنة، أو الاحتفال بالمولد النبوي، ومثل ذلك أيضا: إذا كان العمل لم يرد فيه
إلا دليل ضعيف، فإنه يحكم بكونه بدعة؛ لأنه لا يصح تقرير عبادة جديدة بواسطة
الحديث الضعيف

และส่วนหนึ่งจากบรรดาตัวอย่างอิบาดะฮ ที่ไม่ได้ถูกบัญญัติไว้ คือ
สิ่งที่บรรดาผู้คนบางส่วน ได้ปฏิบัติมัน เพื่อแสดงการใกล้ชิด(อิบาดะฮ)ต่ออัลลอฮ ด้วยการตบมือ ,กาเต้นรำและการร้องเพลง ,กรณีนี้ เมื่อมันถูกปฏิบัติ บนรูปแบบอิบาดะฮ มันก็เป็นบิดอะฮ ที่ขัดแย้งกับศาสนบัญญัติ และตัวอย่างเช่น การเฉลิมฉลองปีใหม่
,การเฉลิมฉลองเมาลิดนบี และในทำนองเดียวกันนั้น เช่น เมื่อ การปฏิบัตินั้น ไม่มีหลักฐานในมัน นอกจากหลักฐานเฎาะอีฟ ดังนั้น
มันก็ถูกตัดสินว่า มัน เป็นบิดอะฮ เพราะ การรับรองอิบาดะฮใหม่ โดยใช้สื่อกลางด้วยหะดิษเฎาะอีฟ- ดู มุอัลลิฟาต อัสสะดีย์ 8/80


 อิหม่ามนะสะฟีัย์ เราะหิมะฮุลลอฮฺ

لا مدخل للرأي في
معرفة ما هو طاعة الله ولهذا لا يجوز إثبات أصل العبادة بالرأي

ไม่มีช่องทางสำหรับความคิดเห็น ในการรู้จัก สิ่งที่มันคือ
การภักดีต่ออัลลอฮ และเพราะเหตุนี้ ไม่อนุญาตให้ยืนยันรากฐานอิบาดะฮ ด้วยความเห็น –
ดู كشف الأسرار (2/210)


.......................
อะสัน หมัดอะดั้ม






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น