หน้าเว็บ

หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558

อนุญาตให้กินให้ดื่มและมีเพศสัมพันธ์ในค่ำคืนรอมฎอน


          พระองค์อัลลอฮฺตะอาลา ได้มีข้อผ่อนผันให้แก่บรรดามุสลิม และยกเลิกเรื่องที่ปรากฏในตอนเริ่มแรกของอิสลาม ปรากฏว่าเมื่อคนหนึ่งในหมู่พวกเขาได้ละศิลอดแล้ว ก็จะอนุญตให้กิน ดื่มและมีเพศสัมพันธ์ได้ไปจนถึงละหมาดอิชาอฺ  หรือนอนก่อนจากนั้น แล้วเมื่อได้นอนแล้ว หรือละหมาดอิชาอฺแล้ว ก็ห้ามอาหาร เครื่องดื่ม และมีเพศสัมพันธ์ไปจนถึงคืนต่อไป ดังนั้นพวกเขาจึงพบว่าเกิดความลำบาก

พระองค์อัลลอฮฺ (ศุบฮานะฮูวะตะอาลา) ตรัสว่า
"ได้เป็นที่อนุมัติแก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งการสมสู่กับบรรดาภรรยาของพวกเจ้าในค่ำคืนของการถือศีลอด  นางทั้งหลายนั้นคือเครื่องนุ่งห่มของพวกเจ้า และพวกเจ้าก็คือเครื่องนุ่งห่มของพวกนาง อัลลอฮ์ทรงรู้ว่า พวกเจ้านั้นเคยทุจริตต่อตัวเอง แล้วพระองค์ก็ทรงยกโทษให้แก่พวกเจ้า และอภัยให้แก่พวกเจ้าแล้ว บัดนี้พวกเจ้าสมสู่กับพวกนางได้ และแสวงหาสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงกำหนดให้แก่พวกเจ้าเถิด ..."
(อัลกุรอาน สูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮ  2:187)

คำว่า "อัรรอฟะซุ" (الرَّفَثُ) ณ ที่นี้คือการมีเพศสัมพันธ์

และดำรัสของพระองค์ที่ว่า
"นางทั้งหลายนั้นคือเครื่องนุ่งห่มของพวกเจ้า และพวกเจ้าก็คือเครื่องนุ่งห่มของพวกนาง"

อิบนุ อับบาส, มุญาฮิด, สะอีด อิบนุ ญุบัยรฺ, อัลฮะซัน, กอตาดะฮฺ, อัสสุดดีย์ และมุกอติล อิบนุ ฮัยยาน ได้กล่าว่า "หมายถึงพวกนางเป็นทีพักอาศัย สำหรับพวกท่าน และพวกท่านก็เป็นที่พักอาศัยสำหรับนาง"
(อิบนุ อบีฮาติม ตรวจทานโดย อัลฆฺอมิดี 1/370)

อัรฺรอเบียะอฺ อิบนุ อนัส ได้กล่าวว่า "พวกนางนั้นเป็นผ้าห่มให้แก่พวกเจ้า และพวกเจ้าก็เป็นผ้าห่มให้แก่พวกนาง"
(อิบนุ อบีฮาติม 1/381)

รายงานจากอบีอิสฮาก ว่า ฉันได้ยินอัลบะรออฺได้เล่าว่า
"เมื่อการถือสิลอดในเดือนรอมาฎอนได้ถูกประทานลงมา ปรากฎว่าพวกเขาไม่เคยเข้าใกลสตรีในเดือนรอมาฎอน และปรากฏว่าบรรดาผู้ชายทุจริตต่อตัวเอง ดังนั้น อัลลอฮฺ (ศุบฮานะฮูวะตาอา) จึงประทานอายะลงมาความว่า (อัลลอฮ์ทรงรู้ว่า พวกเจ้านั้นเคยทุจริตต่อตัวเอง แล้วพระองค์ก็ทรงยกโทษให้แก่พวกเจ้า และอภัยให้แก่พวกเจ้าแล้ว) (บันทึกหะดิษโดยอิมามอัลบุคอรีย์)

สรุปก็คือ ผู้ชายและผู้หญิงนั้น จะอยู่โดยปะปนกันฝกล้ชิดกันเป็นที่พักพิงซึ่งกันและกัน ดังนั้น จึงเหมาะสมที่จะผ่อนผันให้แก่พวกเขาที่จะมีเพศสัมพันธ์กันได้ ในค่ำคืนของรอมาฎอน เพื่อไม่ให้เกิดความลำบากแก่พวกเขา


والله أعلم بالصواب


(ตัฟซีรฺ อิบนิ กะษีรฺ เล่ม 1)







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น