อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2557

มุสลิมอยู่บนโลกนี้อย่างคนแปลกหน้า



มุสลิมอยู่บนโลกนี้แค่เพียงชั่วคราว เปรียบดั่งคนแปลกหน้าที่เดินทางมายังหมู่บ้านหนึ่ง หรือในสถานที่หนึ่ง หรือคนกำลังเดินทางที่หยุดพักผ่อนเพียงชั่วคราว ก็จะเดินทางต่อ บางคนก็มาแปบเดียว บางคนก็อยู่หลายปี แต่ที่ทุกคนต้องลิ่มรสของมัน คือความตาย ไม่มีใครคนใดจะพักอาศัยอยู่ในโลกนี้อย่างถาวร ต้องเตรียมตัวเดินทางยังโลกอลัมบัรซัคและอาคีเราะฮฺชีวิตอันถาวรต่อไป คนแปลกหน้าหรือคนเดินทางจะนำสิ่งติดตัวไปได้ไม่มากสำหรับการเดินทางครั้งหนึ่ง มุสลิมก็เช่นเดียวกัน เมื่ออยู่บนโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ก้ต้องเดินทางไปสู่โลกหน้า ทรัพย์สินที่เป็นวัตถุเงินทอง ก็ให้เก็บเกี่ยวสำหรับที่จำเป็นและถูกต้องตามหลักศาสนา อย่าพึงสะสมไว้เกินความจำเป็น เพราะเมื่อจะเดินทางต่อไปก็ไม่สามารถแบกหามมันไปได้ แต่สำหรับความดีนั้น ให้เก็บเกี่ยวสะสมไว้มากๆ เพราะมันสามารถพกติดตัวเราไปยังโลกหน้าได้ และมันคือสิ่งที่อัลลอฮฺได้ทรงแลกเปลี่ยนกับสวนสวรรค์อันสถาพรให้กับเรา

ท่านรสูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า
"จงอยู่บนโลกนี้ เสมือนหนึ่งคนแปลกหน้า หรือคนเดินทาง" (บันทึกหะดิษโดยอิมามอัลบุคอรีย์ เลขที่ 6416 เป็นหะดิษเศาะเฮียฮฺ)


والله أعلم بالصواب





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น