หน้าเว็บ

หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ความเป็นสุนนะฮฺคือที่ผู้มัดอยู่กับความเป็นญะมาอะฮฺ



    การที่ศาสนาห้ามการแยกตัวออกจากอัลญะมาอะฮฺ นั้นหมายถึงการห้ามแยกตัวออกจากอัลญะมาอะฮฺของบรรดานักปราชญ์สะลัฟและประชาคมอิสลาม ที่ดำรงมั่นอยู่บนสัจธรรม

ส่วนบรรดาพวกบิดอะฮฺที่อุตริแนวทางเบี่ยงเบนขึ้นมาล้วนแล้วแต่เข้าข่ายเป็นพวกที่ออกจากอัลญะมาอะฮฺทั้งสิ้น

เพราะพวกนี้ต่อต้านคัดค้านคำสอนของเหล่าอุลามาอฺอิสลามตลอดจนทำลายการนับถือศาสนาของสังคมมุสลิม

ความแตกแยกของประชาชาติอิสลาม จึงไม่ได้เกิดขึ้นจากการเรียกร้องประชาชาติให้ดำรงมั่นอยู่กับแนวทางสะลัฟ หรืออะฮฺลุสสุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺ

หากแต่ความแตกแยกและทำลายเอกภาพของประชาชาติอิสลามเกิดขึ้นจากการแยกตัวของพวกอุตริกรรมนอกคอกจากอัลญะมาอะฮฺของเหล่าสาวก และเหล่านักปราชญ์ผู้สืบสายธารความรู้ในรุ่นต่อมา จนพัฒนากลายเป็นกลุ่มก๊ก หลงทางต่างๆขึ้นในประชาชาติ

ท่านชัยคุลอิสลามอิบนุตัยมียะฮฺ กล่าวว่า
"ความเป็นสุนนะฮฺ คือที่ผู้มัดอยู่กับความเป็นญะมาอะฮฺ เช่นเดียวกับความเป็นบิดอะฮฺผูกมัดอยู่กับการแตกแยก ด้วยเหตุนี้เองที่มันจึงถูกเรียกด้วยชื่อว่า "อะฮฺลุสสุนนะฮฺกับญะมาอะฮฺ" เช่นเดียวกับกับที่เรียกว่าอะฮฺลุลบิดอะฮฺกับการแยกตัว" ( กุนซะละฟียันอะลัลญาดะฮฺ หน้า67)

การฟื้นฟูแนวทางสะลัฟจึงไม่ใช่การสร้างความแตกแยก หากแต่เป็นหนทางในการรวมมุสลิมขึ้นอย่างถาวรอีกครั้ง

والله أعلم بالصواب

..............

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น