อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ชีวิตที่เต็มไปด้วยการเดินทาง







ชีวิตที่เต็มไปด้วยการเดินทาง การเดินทางที่ถูกเริ่มต้นจาก...
สันหลังของพ่อ ไปยังท้องของแม่
จากท้องของแม่ ไปยังสันหลังของแผ่นดิน
จากสันหลังของแผ่นดิน ไปยังท้องของแผ่นดิน
จากท้องของแผ่นดิน ไปยังวันแห่งการพิสูจน์ตัวตน (จากทุก ๆ การกระทำบนสันหลังของแผ่นดิน)
แต่ละสถานีนั้น มีความมหัศจรรย์ภายในตัวของมัน
และสถานีสุดท้ายนั้น จะเป็นที่หยุดพักผ่อนสำหรับทุก ๆ นักเดินทาง
ถ้าไม่ใช่นรก ก็จะเป็นสวนสวรรค์
โอ้ อัลลอฮฺ โปรดพระองค์ทรงมอบที่พักให้แก่พวกเราด้วยสวนสวรรค์ของพระองค์ด้วยเถิด


ข้อความดี ๆ จากเฟสฯ : Dr. Muntasser Alraghban
ถอดความและเรียงคำโดย : อูลุล อัลบ๊าบ


โปรดจงอยู่กับบรรดาอุละมาอฺ ด้วยสติปัญญาของลูก


โปรดจงอยู่กับบรรดาอุละมาอฺ ด้วยสติปัญญาของลูก
โปรดจงอยู่กับบรรดาผู้นำ ด้วยความรู้ของลูก
โปรดจงอยู่กับบรรดามิตรสหาย ด้วยจรรยาบรรณของลูก
โปรดจงอยู่กับบรรดาคนในบ้าน ด้วยความรักของลูก
โปรดจงเป็นผู้ที่อยู่กับพระเจ้าของลูก ด้วยการรำลึกถึงพระองค์
โปรดจงเป็นผู้ที่อยู่กับตัวลูก ด้วยการตักเตือนตัวเอง
ลูกอย่าได้เสียใจกับความดีที่ลูกได้สั่งสมมา
ถึงแม้ว่าไม่มีใครบนพื้นดินนี้ที่เห็นคุณค่าของลูก แต่บนฟากฟ้านั้นมีผู้ที่คอยให้ความเป็นสิริมงคลแก่ลูกเสมอ


.
คำนะศีหะฮฺดี ๆ : จากพ่อ (อัช ชังกีฏียฺ) แด่ลูกของท่าน
ถอดความและเรียงคำโดย : อูลุล อัลบ๊าบ



ละหมาด ไม่ใช่เป็นครึ่งหนึ่งของเวลา



ละหมาด
ไม่ใช่เป็นครึ่งหนึ่งของเวลา
หรือ บางเวลา
หรือ เวลาภายหน้า
หรือ ไม่มีเวลา
แต่ละหมาด
ต้องให้เต็มเวลา
ตรงตามเวลา
และต้องเหนือกว่าเวลา
ก็เพราะว่าความตาย
มาเยือนเราทุกเวลา
.


ข้อความดี ๆ โดย : Sham Kamikaze
ถอดความและเรียงคำโดย : อูลุล อัลบ๊าบ

วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

จากอายะฮ์กรุอาน.นี้ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไป



Masha'Allah ..จากอายะฮ์กรุอาน.นี้ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไป...
"แท้จริงมนุษย์นั้นถูกสร้างมาจากดิน:".
""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
..ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ โอโกดะ อัตซูชิ(Dr. กามัล) อาจารย์ภาควิชาระบบการเมืองการปกครอง..มหาวิทยาลัยเคโอะ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น...

..ก่อนที่ผมจะเข้ารับอิสลามนั้น ชีวิตในวัยรุ่นที่ไม่มีสาระใดๆเลย เหมือนกับคนเถื่อน.ไร้ซึ่งเป้าหมายของการดำเนินชีวิต....แต่อิสลามได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของผมจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว...
..ก่อนที่จะเข้ารับอิสลาม...ผมได้เข้าศึกษาในวิทยาลัยเกี่ยวกับอิสลามถึง6ปี..แต่ตอนนั้นเพียงเพื่อหาความรู้เท่านั้นไม่ได้จริงจังอะไร..ชีวิตในวิทยาลัยนั้นเนื่องจากผมเป็นคนค่อนข้างหยิ่ง หัวสูงและเห็นแก่ตัว จึงไม่ค่อยจะมีเพื่อนมากนัก.

...ด้วยกับความหยิ่งยโสของผม.วันหนึ่งขณะที่ผมทำการศึกษาค้นคว้าอยู่นั้น..ผมเหลือบไปเห็นแผ่นข้อความจากอายะฮ์กรุอาน.." "และขอสาบานว่า แน่นอนเราได้สร้างมนุษย์มาจากธาตุแท้ของดิน" (ซูเราะฮ์ อัล-มุอฺมินูน )..จากอายะฮ์นี้มันเหมือนกับเป็นการสอนผมโดยเฉพาะ..ชีวิตผมเริ่มเปลี่ยนไปจากคนที่หยิ่งยโสหัวสูง ก็เริ่มเป็นคนอ่อนโยน..และสงบนิ่ง.เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ..
..จากนั้นอีกไม่นานผมได้มีโอกาสไปศึกษาเกี่ยวกับอิสลามและภาษาอาหรับที่มหาวิทยาลัยอเล็บโป ประเทศซีเรีย..ตอนนั้นผมยังไม่ได้เข้ารับอิสลามนะ..แต่อาจารย์ที่สอนผมมักจะบอกเสมอว่า อิสลามเป็นศาสนาที่สมบูรณ์แบบในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ชาติ..และอาจารย์ท่านนี้ก็เป็นแบบอย่างของมุสลิมที่ดีที่สุดผมชั่งโชคดี..และผมก็ได้กล่าวชาฮะดะฮ์เข้ารับอิสลามขณะที่ศึกษาอยู่ที่ซีเรีย..

..การเข้ารับอิสลามถือเป็นของขวัญที่มีค่าที่สุดในชีวิตของผม ที่ได้รับจากอัลลอฮ์(ซบ.)....ปัจจุบันนี้ผมยังเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเคโอะ..และถือเป็นหน้าที่ของมุสลิมทุกคนที่ต้องทำก็คือ..การดะวะฮ์ การเรียกร้องผู้คนสู่ศาสนาของอัลลอฮ์(ซบ.) เพราะอิสลามไม่ใช่แค่ศาสนาแต่อิสลามเป็นแบบอย่างแนวทางการดำเนินชีวิตที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับมนุษย์ชาติ..

(ร่วมนำเสนอสิ่งดีๆ โดย เพจศาสนาอิสลาม - الإسلام)
ที่มา Sukree Desa [Muttaqeen Al islam]

หากสิ่งที่พวกอะชาอิเราะฮฺพูดกันคือความจริง ท่านนบีก็คงจะต้องถ่ายทอดและบอกต่อสิ่งนี้เอาไว้แล้ว



บทความนี้กล่าวขึ้นโดย อับดุ้ลมุ้ฮฺซิน อิบนุ ฮั้มดฺ อั้ลอั้บบ้าด อั้ลบั้ดรฺ 21/8/1427 (ฮ.ศ.)

อาบีดีณ โยธาสมุทร แปลและเรียบเรียง 23/2/1437 – มะดีนะฮฺ ร่อซูลิ้ลลาฮฺ –


*หมายเหตุ ข้อมูลนี้ ได้รับการอนุญาตอย่างถูกต้องแล้ว จากเจ้าของบทความให้ทำการแปลและเผยแพร่ได้ เมื่อวันที่ 28/4/1437 ตรงกับ 7/2/2016. -อาบีดีณ โยธาสมุทร ผู้แปลและเรียบเรียง-

بسماللهالرحمنالرحيم

الحمد لله رب العالمين، وصلى الله وبارك على رسوله وعلى آله وصحبه.وبعد،

เพื่อเป็นการให้คำตอบสำหรับคำถามที่เกี่ยวข้องกับพวกอะชาอิเราะฮฺที่ว่า: พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของอะฮฺลุ้ซซุนนะฮฺวั้ลญะมาอะฮฺหรือไม่? นั้น

ผมขอเรียนว่า: ชาวอะฮฺลุ้ซซุนนะฮฺวั้ลญะมาอะฮฺคือ บรรดาศ่อฮาบะฮฺผู้ทรงเกียรติ ร่อดิยั้ลลอฮุอันฮุม ตลอดจนบุคคลที่ดำเนินตนอยู่บนแนวทางของพวกท่านเหล่านั้น ดังที่ท่าน (นบี) ﷺ ได้บอกเอาไว้ในการชี้แจงถึงกลุ่มชนที่รอดพ้นและปลอดภัย (จากฟิตนะฮฺและการหลงทาง) ( الفرقة الناجية ) ที่ว่า : (( هم من كان على ما أنا عليه وأصحابي ))

((พวกเขาคือ บุคคลที่ตั่งมั่นอยู่บนสิ่งที่ข้าฯและเหล่าสหายของข้าฯตั่งมั่นอยู่บนนั้น))

ซึ่งหลักความเชื่อของพวกท่านเหล่านี้ในเรื่องบรรดาพระนามของอัลลอฮฺ อั้ซซะวะญั้ล และบรรดาพระลักษณะต่างๆของพระองค์นั้น ก็คือ การให้การยืนยันว่าอัลลอฮฺ อั้ซซะวะญั้ล ทรงเป็นไปตามข้อมูลที่อั้ลกิตาบและอั้ซซุนนะฮฺได้ให้การยืนยันเอาไว้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบรรดาพระนามและพระลักษณะของพระองค์ ซึ่ง(เป็นการให้การยืนยันที่)วางอยู่บนรูปแบบที่มีความเหมาะสมและคู่ควรกับอัลลอฮฺ ซุบอานะฮูวะตะอาลา โดยจะไม่เข้าไปลงรายละเอียดเสาะหาว่าเป็นอย่างไร หรือเข้าไปทำการเปรียบเทียบว่าพระองค์ทรงคล้ายหรือเหมือนกับอะไร และไม่เข้าไปทำการบิดเบือน, เปลี่ยนความหมาย,หรือปฏิเสธความหมาย(ของข้อมูลดังกล่าว)แต่อย่างใดทั้งสิ้น ดังที่อัลลอฮฺ อั้ซซะวะญั้ล ได้ตรัสไว้ว่า

لَيْسَ كَمِثْلِهِ شَيْءٌ ۖ وَهُوَ السَّمِيعُ الْبَصِيرُ

((ไม่มีอะไรทั้งสิ้นเหมือนกับพระองค์ และพระองค์คือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงมองเห็น))

ในอายะฮฺนี้ได้ระบุข้อมูลที่ให้การยืนยันเอาไว้ว่าอัลลอฮฺ พระผู้ทรงสูงส่ง ทรงมีพระลักษณะสองพระลักษณะ ซึ่งได้แก่ การได้ยินและการเห็น โดยอยู่ในพระดำรัสของพระองค์ที่ว่า

وَهُوَ السَّمِيعُ الْبَصِيرُ

(( และพระองค์คือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงมองเห็น))

อีกทั้ง ยังได้มีการกำจัดความคล้ายคลึงกันให้หมดไประหว่างสิ่งอื่นที่ไม่ใช่พระองค์(อัลลอฮฺ)กับพระองค์(อัลลอฮฺ)เอง เอาไว้อีกด้วย โดยอยู่ในพระดำรัสของพระองค์ที่ว่า

لَيْسَ كَمِثْلِهِ شَيْءٌ ۖ

((ไม่มีอะไรทั้งสิ้นเหมือนกับพระองค์))

ส่วนพวกอะชาอิเราะฮฺนั้น พวกเขาคือ พวกที่สังกัดเข้าร่วมกับแนวคิดของ อบีฮะซัน อั้ลอั้ชอะรี่ยฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ ซึ่งเกิดปีที่ – ฮ.ศ.270 – และเสียชีวิตปีที่ – ฮ.ศ.330 – แนวคิดนี้เป็นแนวคิดที่มีขึ้นก่อนหน้าที่ท่าน(อบีฮะซัน)จะหวนกลับสู่แนวทางของชาวอะฮฺลุ้ซซุนนะฮฺวั้ลญะมาอะฮฺ

ซึ่งแนวคิดดังกล่าวนี้ ก็ได้แก่ การทำการเปลี่ยนแปลงความหมาย(ตีความ) ( تأويل ) พระลักษณะส่วนใหญ่จากบรรดาพระลักษณะของอัลลอฮฺนั่นเอง ซึ่งแนวคิดๆนี้เป็นแนวคิดที่ค้านกันกับแนวทางของชาวอะฮฺลุ้ซซุนนะฮฺวั้ลญะมาอะฮฺ

และจากข้อมูลข้างต้นนี้นี่เอง จึงถือได้ว่า พวกอะชาอิเราะฮฺคือ ส่วนหนึ่งจากบรรดากลุ่มอิสลามที่เพี้ยนไปจากสิ่งที่ชาวอะฮฺลุ้ซซุนนะฮฺวั้ลญะมาอะฮฺได้ตั่งมั่นกันอยู่บนนั้น

มันไม่กินกับปัญญาเลยครับ กับการที่ความจริงและความถูกต้องได้ถูกปิดเอาไว้ไม่ให้คนที่เป็นศ่อฮาบะฮฺ ไม่ให้คนที่เป็นตาบิอีนหรือคนที่เป็นอั้ตบ๊าอิ้ตตาบิอีน (ยุคที่อยู่ถัดจากยุคตาบิอีน) ได้รับทราบกัน แต่แล้วความจริงและความถูกต้องนี้ กลับมาปรากฏตัวขึ้นในภายหลัง ท่ามกลางหมู่ชนที่เป็นผู้ที่ดำเนินตนตามหลักความเชื่ออะไรซักอย่างหนึ่ง ซึ่งถือกำเนิดขึ้นมาหลังจากยุคของพวกท่านเหล่านั้น

ท่านอั้ลฮาฟิ้ซ อิบนุฮะญั้รได้ถ่ายทอดข้อความจำนวนมากจากบรรดาสลัฟเอาไว้ใน ฟัตฮุ้ลบารียฺ ซึ่งพูดถึงหลักความเชื่อที่ถูกต้องที่วางอยู่บนอั้ลกิตาบและอั้ซซุนนะฮฺ และความเข้าใจของบรรพชนของอุมมะฮฺนี้ ( سلف الأمة )เอาไว้ โดยท่านได้ทำการปิดท้ายการถ่ายทอดบรรดาข้อความดังกล่าวด้วยคำพูดของท่านที่ว่า

” وقد تقدم النقل عن أهل العصر الثالث وهم فقهاء الأمصار، كالثوري والأوزاعي ومالك والليث ومن عاصرهم وكذا من أخذ عنهم من الأئمة ، فكيف لا يوثق بما اتفق عليه أهل القرون الثلاثة وهم خير القرون بشهادة صاحب الشريعة؟” ا.هـ (13/407)

“และที่ผ่านมานี้ ก็ได้มีการหยิบยกข้อมูลจากกลุ่มชนแห่งยุคที่สามมาถ่ายทอดเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งพวกท่านเหล่านี้ต่างเป็น นักวิชาการคนสำคัญของแต่ละมุมเมือง ( فقهاء الأمصار ) เช่นท่านอั้ซเซารียฺ ,ท่านอั้ลเอาซาอียฺ ,ท่านมาลิก , ท่านไล้ซฺและท่านอื่นๆที่อยู่ร่วมยุคสมัยเดียวกันกับพวกท่าน ตลอดจน(ข้อมูลจาก)บรรดาบุคคลชั้นนำทั้งหลายทั้งปวงที่เข้ามารับสืบถอดวิชาการไปจากพวกท่านเหล่านี้ก็ด้วยเช่นกัน ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว จะให้ไม่ยอมเชื่อถือและไม่ยอมวางใจต่อข้อมูลที่บรรดาบุคคลแห่งยุคสมัยทั้งสามได้เห็นพ้องเป็นมติที่ตรงกันไว้แล้วได้อย่างไรกัน ทั้งๆที่พวกท่านเหล่านี้คือ ยุคที่เยี่ยมที่สุดแห่งบรรดายุคสมัยทั้งปวง โดยการรับรองและการยืนยันจากผู้เป็นเจ้าของบทบัญญัติ?.”

ท่าน (อั้ลฮาฟิ้ซ อิบนุฮะญั้ร)ยังได้เล่าถึงข้อมูลจากท่านอั้ลฮะซัน อั้ลบั้ศรี่ยฺไว้อีกด้วยว่า ท่านได้กล่าวไว้ว่า:

” لو كان ما يقول الجعد حقاً لبلّغه النبي صلى الله عليه وسلم ” اهـ (13/504)

“ถ้าหากสิ่งที่อั้ลญ้ะอดฺพูดเอาไว้ คือความจริง ท่านนบี ﷺ ก็คงจะต้องถ่ายทอดและบอกต่อสิ่งนี้เอาไว้แล้วเป็นแน่”

อั้ลญ้ะอดฺคนนี้ หมายถึง ลูกชายของดิ้รฮัม ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งแนวคิดอั้ลญะฮฺมียะฮฺขึ้นมานั่นเอง

และผมเอง ก็ขอพูดเหมือนที่ท่านอั้ลฮะซัน ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ ได้พูดเอาไว้. ว่า:

” لو كان ما يقوله الأشاعرة وغيرهم من المتكلمين حقاً لبلغه الرسول صلى الله عليه وسلم “.

“ถ้าหากสิ่งที่พวกอะชาอิเราะฮฺและพวกอื่นๆที่มาจากพวกที่นิยมการใช้ตรรกะ ( المتكلمين ) ได้พูดกันไว้ คือความจริง ท่านร่อซู้ล ﷺ ก็คงจะต้องถ่ายทอดและบอกต่อสิ่งนี้เอาไว้แล้วเป็นแน่”



วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เสวนาเรื่องอะกีดะฮตามแนวทางบรรพชนยุคสะลัฟ (ตอนที่ 2)


3. หลักฐานต้องมีตัวบท คำแปล และ แหล่งอ้างอิง
4. ให้นำหลักฐานแย้งด้วยหลักฐานไม่ใช้ความเห็นตนเอง
5. เมื่อผู้เสวนานำหลักฐานมาอ้าง หนึ่งครั้ง ต้อรอให้คู่เสวนานำหลักฐานมาโต้แย้งให้เสร็จก่อน
6. ต้องมีการสาบานยืนยัน ว่าจะไม่บิดเบื่อน อัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ

รูปภาพของ บทความโต้ตอบอากีดะฮ์ของอะชาอิเราะฮฺ โดย อ.อะสัน หมัดอะดั้ม - asan Madadam


Faosun Ibnu Benjamin อย่าจัดหนักนักครู ให้บาบอได้หายใจบ้าง
ทา วิน ผมขอแลสักมุดหล่าวของครูสัน
Asan Madadam ทีผมเปลียนวิธีการเสวนามาให้มีการสาบานเป็นเงื่อนไขก่อนเสวนา เพราะอยากให้ผู้ศึกษาได้ข้อมูลเที่ยงตรงมากที่สุด หากผู้เสวนากลัวอัลลอฮจริง ก็จะไม่กล้าบิดเบือน ส่วนความผิดพลาดอันเนื่องมาจากไม่รู้ มันเป็นเรื่องปกติ ที่คนเราอาจจะเข้าใจบางเรื่องผิดพลาดได้ อัลลอฮ...ดูเพิ่มเติม
บูทูด หลอน ผมนิ รอศึกษา อยู่ครับ กำลังติดตามครับ
Carrickfergus Fgs บาบอ อยุ่ไหน.?? นี่ก็ 11:10 จะเทียงคืนเเล้วน่ะ^___^
อานัส หมุดตะเหล็บ บาบอคับ มาได้แล้วคับ ผมรออ่านอยู่ ง่วงแล้วเนี้ยะ พรุ่งนี้มีเรียนอิก
SuTee SuaFi Dechasophon จะรอ..ห้ะ !! อีโมติคอน smile
บทความโต้ตอบอากีดะฮ์ของอะชาอิเราะฮฺ โดย อ.อะสัน หมัดอะดั้ม - asan Madadam ประเด็นแรก คือ อัลลอฮอยู่(อิสติวา)เหนืออะรัชจริงหรือ? ขอให้คุณ สาบานตามที่ผมสาบานแล้วนำเสนอหลักฐานได้เลย หลักฐานแย้งด้วยหลักฐานครับ ว่างๆผมจะมาชี้แจง
ถูกใจตอบกลับ5แสดงความคิดเห็นโดย Asan Madadam28 ตุลาคม 2015 เวลา 7:03 น.
ทา วิน ใหนละบาบอที่จะปักหมุดกับครูสัน
บทความโต้ตอบอากีดะฮ์ของอะชาอิเราะฮฺ โดย อ.อะสัน หมัดอะดั้ม - asan Madadam
علي السلفي الاشعاري الخوناوي
และขอหลักเกณในการสนทนาเพียงข้อเดียง คือนำความเป็นจริงมาพูด
>>>>>>>>>>>>>>...ดูเพิ่มเติม
ถูกใจตอบกลับ5แสดงความคิดเห็นโดย Asan Madadam28 ตุลาคม 2015 เวลา 8:37 น.
บทความโต้ตอบอากีดะฮ์ของอะชาอิเราะฮฺ โดย อ.อะสัน หมัดอะดั้ม - asan Madadam
علي السلفي الاشعاري الخوناوي
และขอหลักเกณในการสนทนาเพียงข้อเดียง คือนำความเป็นจริงมาพูด
>>>>>>>>>>>>>>...ดูเพิ่มเติม
ถูกใจตอบกลับ1แสดงความคิดเห็นโดย Asan Madadam28 ตุลาคม 2015 เวลา 9:02 น.
บทความโต้ตอบอากีดะฮ์ของอะชาอิเราะฮฺ โดย อ.อะสัน หมัดอะดั้ม - asan Madadam อัลลอฮตาอาลาตรัสว่า الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى
[20.5] ผู้ทรงกรุณาปรานี ทรงสถิตย์อยู่เหนือบัลลังก์
เนื่องจาก คนบางกลุ่มได้ให้ความหมายของอายะฮฺนี้ว่า “อิสเตาลา” หมายถึง “ครอบครอง” ซึ่งความหมายเช่นนี้เป็นการยึดมั่นของมุอฺตะซิละฮฺ (มะกอลาตอัลอ...ดูเพิ่มเติม
ถูกใจตอบกลับ3แสดงความคิดเห็นโดย Asan Madadam28 ตุลาคม 2015 เวลา 9:10 น.มีการแก้ไข
Carrickfergus Fgs อัชชาอีเราะห์. ก็อย่างที่ว่าละครับ, พอเอาเข้าจริง หายหัวเงียบ!
บทความโต้ตอบอากีดะฮ์ของอะชาอิเราะฮฺ โดย อ.อะสัน หมัดอะดั้ม - asan Madadam
علي السلفي الاشعاري الخوناوي
นี่กระทู้ผมใช่ไหม
...............................
ครับ สาบานใหม่ ใหม่เหมือนที่ผมสาบาน เพื่อพิสูจน์และยืนยันในการนำเสนอข้อมูล แล้วท่านนำเสนอได้เลย ส่วนพี่น้องท่านอื่นขอร้องครับ ขอให้ติดตามอ่าน ไม่ต้องโพสต์ ท่านบาบออาลีมาแล้ว ขอให้เราทั้งสองเสวนากัน แต่ถ้าฝ่ายใด ผิดกติกาเตือนได้ครับ
ถูกใจตอบกลับ4แสดงความคิดเห็นโดย Asan Madadam28 ตุลาคม 2015 เวลา 11:08 น.
Hamdee Sulong โอ้ พี่น้องผม. อาชาอีรอฮ ขอร่วมติดตามด้วยคนครับ
บทความโต้ตอบอากีดะฮ์ของอะชาอิเราะฮฺ โดย อ.อะสัน หมัดอะดั้ม - asan Madadam
เขียนข้อความตอบกลับ...
บทความโต้ตอบอากีดะฮ์ของอะชาอิเราะฮฺ โดย อ.อะสัน หมัดอะดั้ม - asan Madadam ผมนายอาลี หมัดร่าหมานขอสาบานด้วยนามชื่อของอัลลอฮว่าหากผมจงใจบิดเบือน พูดโกหกจากสิ่งที่อัลลอฮ และรอซูล และปราชญยุคสะลัฟกล่าวไว้ เพื่อให้ชนะการเสวนาขออัลลอฮลงโทษผมในโลกนี้ .....เอาตามนี้ครับท่านบาบออาลี เพราะผมได้สาบานไปแล้วและคุณก็เห็นแล้ว เมื่อคุณสาบานเสร็จ คุณนำเสนอได้เลย และพี่น้องคนอื่นห้ามโพสต์ ยกเว้นเตือนเมื่อใครทำผิดกติกา เชิญเถอะครับ วิชาการเท่านั้น รับรองไม่มีอย่างอื่น และ ไม่ใช่เรื่องแพ้และชนะ แต่ที่ผมต้องการ นอกจากเพื่อให้ความจริงปรากฏแล้ว เพื่อที่จะพิสูจน์ว่า ที่มีการกล่าวหาว่า กระผมและพี่น้องส่วนหนึ่งที่ถูกอุปโลกน์ให้เป็นวะฮบีย์ นั้น มีอะกีดะฮยิว และเป็นลัทธิใหม่จริงหรือไม่ ผมข่มขื่นกับการปรักปรำคำว่า "วะฮบีย์ มีอะกีดะฮบิดอะฮ วะฮบีย์สะลัฟเทียมมานานแล้ว จึงขอสาบานเอาชีวิตเป็นเดิมพันเพื่อให้ความจริงปรากฏ ขอร้องเถอะครับ
ถูกใจตอบกลับ8แสดงความคิดเห็นโดย Asan Madadam28 ตุลาคม 2015 เวลา 11:22 น.
บทความโต้ตอบอากีดะฮ์ของอะชาอิเราะฮฺ โดย อ.อะสัน หมัดอะดั้ม - asan Madadam ผมแค่เด็กบ้านนอกคอกนา ไม่ได้ศึกษาอะไรมากมายหรอกครับ เพราะพ่อแมยากจน ได้เรียนแค่นิดหน่อยตามปอเนาะบ้าน แต่ ผมทนไม่ได้ที่เห็นสังคมมุสลิมเรา แบ่งเก่าแบ่งใหม่ ซึ่งคนรุ่นหลังไม่รู้ว่าทำไมจึงเก่า ทำไมจึงใหม่ คนที่เรียนมา พอสอนไม่เหมือนที่ปู่ย่าตายายเชื่อและปฏิบัติ ก็ถูกพวกมาเฟียสวมกุเปียะ ยุให้สังคมเกลียดชัง ว่าเป็นพวกหลง พวกวะฮบีย์ สารพัดยัดเหยียดข้อหา คนส่วนหนึ่งที่ไร้จุดยืน เรียนจบมาก็เป็นเต่าหดหัวอยู่ในกระดอง เพราะกลัวไม่มีที่ยืนในสังคมแบบผู้มีเกียรติ เพราะฉะนั้นมาพิสูจน์กันเถอะครับ
ถูกใจตอบกลับ8แสดงความคิดเห็นโดย Asan Madadam28 ตุลาคม 2015 เวลา 11:31 น.
ใช่ฟ้า เพียงดิน อัลยาบารีย์ ผมไม่ได้หายน่ะคับ แต่หากระทู้ไม่เจอ
อ่านให้หมดน่ะคับค่อยโต้ ให้ละเอียดไม่ใช่อ่านผ่านๆ
และการที่ อาจารย์ บอกว่า استوي ด้วยความหมาย อาลา หรือ อิรตาฟาอานั่น ก็ถือเป็นการ ให้ความหมายอื่นจากความหมายเดิมของอัลลอฮ ซึ่งความหมายเดิมคือ อิสตาวา ซึ่ง วัลลอฮุอะลัม ในความหมาย วิธีการใดๆ แต่การที่จะให้ความหมายว่าอยู่สูงนั้น คือคุณลักษนะที่คล้ายคลึงสิ่งใหม่ คล้ายคลึงอาลัม
กล่าวคือ(ขออย่ามาใช้คำคอละหาว่าผมอิลมุลกาลามหรืออาลิสโตเติ้ลก่อน)เมื่อกล่าวว่าอยู่สูง มันคล้ายคลึงกับมักโลกในเรื่องว่า เขาเรียน มากูลาตุน วาเดาะ กล่าวคือเช่น การโค้ง การนั่ง การยืนต่างๆ ผมจะยกตัวอย่างการยืน ซึ่งเราจะพิจรณาจากตัวเราเเละสิ่งรอบข้าง กล่าวคือ เช่นกานยืน พิจรณาว่า จากเราคือหัวเเละเท้า จากสิ่งรอบข้างคือ การยืนต้องพิจรณาว่าหัวต้องอยู่ใกล้ฟ้า เท้าใกล้ดิน นี่คือ วาเดาะ ซึ่งคือลักษณะของมักโลก หรือ อาลัมอย่างหนึ่ง ซึ่งการอยู่สูง ก็คือมันพิจรณาได้ว่า เราอยู้ห่างจากพื้นและไกล้ชั้นฟ้า ซึ่งกล่าวคือคุณลักษณะของสิ่งถูกสร้าง ซึ่งจะบอกว่า อิสเตาลา คือ อิรตาฟาอา ไม่ได้ (ซึ่งนี่คือ หนึ่งจากมากูลาตทั้งสิบ ซึ่งจะบอกถึงคุณลักษณะของมักโลกซึ่งเราสามารถพิจรณาถึงและได้ ซึ่งคุณลักษณะเหล่านั้นย่อมต่างจากผู้สร้าง)หรือคุณจะบอกว่า อยู่สูงไม่ไกล้ชั้นฟ้าไม่ห่างจากชั้นดิน อย่างนั้นเขาจะเรียกสูงหรือป่าว
ใช่ฟ้า เพียงดิน อัลยาบารีย์ และกรุณาอย่าว่าาผมใช้ตรรกกะ ถึงจะใช้คุณก็ต้องตอบโต้ไม่ใช่จะมาใช้คำพูดลบเคดิดผม ผมจะยกตัวอย่างให้ว่าสมมุติ ไม่มีหลักฐานใดๆเลยว่ามดที่มีปีกมีบนโลกนี้ แต่ผมไปเรียนการวิจัยมา และผมก็ค้นพบว่ามดมีปีกมีจริง เอาตัวมาให้ดูด้วย แล้วคุณจะมาอ้างว่า เอาตัวบทมาๆ ก็ต...ดูเพิ่มเติม
ใช่ฟ้า เพียงดิน อัลยาบารีย์
ان الله لغني عن العالمين
อัลลอฮห่างไกลจาก อาลัมทั้งหมดด้วยสาเหตุว่าเพราะองค์ไม่พึ่งมามันทั้งหลาย
อัลคอนี เดิมความหมาย ผู้มั่งมี แต่ตรงนี้คือ มายานมุรสัน มินอิตลาเกนมัสลูม วาอีรอดาติน ลาสิม ลาสิม จาก รวย คือไม่ต้องการ ผู้ไม่ต้องการ ไม่พึ่งพิง
ส่วนعن
ความหมายลิลมูยาวาสะ คือเช่น
سافرت عن البلد คือبعدت عن البلد بسبب المسافرة
เช่นกัน
بعد الله عن العالمين بسبب الغناء
อัลลอฮไม่พึ่ง ไม่ต้องการ อัลลอฮทรงห่างไกลจากการอาลัม ซึ่งก็คือ ญิน มนุษย์ หรืออีบาดะฮ การงานของพวกเขา สรุปคือ ทั้งหมด เว้นเเต่อัลลอฮ นั่นอาลัมทั้งหมด เพราะพระองค์ทรงไม่พึ่งพาต่อมัน พระองค์ก็ต้องทรงก่างไกลจากการพึ่งพา อย่านำพระองค์ไปพูดให้ดูเหมือนว่าทรงพึ่งพาอาลัมทั้งหลาย
และอย่ามาว่าผมเอาคำใครมาอ้างนี่เป็นหลักการ ตามวิชานะวู ซึ่งคงไม่ต้องให้เขาบอกทุกตัว แต่อุลามะได้วาง กออีเดาะ ไว้ เเละให้ตัวอย่างเปรียบเทียบ หากเขาวางหลักการไว้ว่า ศูนย์คูณอะไรก็ได้ศูนย์ คงไม่ต้องบอกกันทุกตัวว่าล้านคูนศูนย์ก็ได้ศูนย์ แต่เขาวางหลักการมาเเล้ว แต่ถ้าคุณจะบอกว่าได้หนึ่งคุณก็ต้องนำหลักการเหตุผลมาว่ากออีเดาะนี้ผิดหรือไม่ครอบคุมทุกตัว และเรื่องมายัร นั่นก็วิชา บายาน สาลัฟเขาก็เเต่งตำราและเขาก็เรียนกัน อย่ามาหาว่าผมว่าสิฟัตอัลลอฮเป็นมายาส(กันไว้ก่อนไม่ว่าก็เเล้วไป)
เพราะฉนั้นการเชื่อมั่นต่อสิ่งที่พระองค์กล่าวมาว่าพระองค์ทรงอิสตวา โดยไม่ให้ความหมายว่า อาลา อิรตาฟาอา มาลากา อิสเตาลา ใดๆนั่นย่อมปลอดภัย
ใช่ฟ้า เพียงดิน อัลยาบารีย์ และสิ่ง วิชาที่ผมนำมาอ้างเรื่องมากูลาตุน วาเดาะนั้น ก็อย่าได้ให้ร้ายว่าอิลมูกาลามใด เพราะวิชานี้ ไม่ได้พิจรณาต่ออัลลอฮเเต่พิจราณามักโลก ว่าเป็นยังๆซึ่งอัลลอฮทรงเเตกต่าง
ซึ่งจำเป็นต่อเราต้องรู้จักตัวเองเสียก่อน ดังคำนบีที่ว่า
من عرف نفسه فقد عرف ربه
ใครรู้จักตัวเอง เขาจะรู้จักผู้สร้าง
ใช่ฟ้า เพียงดิน อัลยาบารีย์ และหากจะกล่าวว่า เหล่านั้นคือคำปราชญ์สลัฟผู้ทรงธรรม ที่ไม่ให้วิธีการ ไหนคือการไม่ให้วิธืการ นั่นคือการให้ความหมายอยู่สูง นี่คือการไม่ยุ่งในคุณลักษณะที่ว่าหรือ และบรรดาสลัฟนั่นย่อมปล่อยมันผ่านไปต่างหาก หรือถ้าจะให้ความหมายปราชญ์สลัฟส่วนน้อยก็ยังคงมีที่ให้ความหมายดั่งความหมายที่บรรดาปราชญ์คอลัฟยึดมั่นอยู่ แล้วทัศนะสลัฟเหล่านี้นท่านจะเอาไปไว้ไหนหรือจะกล่าวว่าพวกเขาเป็นมุอตาซีละกันเสียหมด ซึ่งปราชญ์สลัฟเหล่านั้นเราคงไม่ต้องอ้างมาให้เสียเวลาเพราะตลอดการโต้วาทีระหว่างคณาจารย์เราทั้งสองฝ่ายก็มีการโต้ตอบกันและยกบุคลเหล่านั้นเป็นหลักฐานกันมาตลอด ผมอยากจะพูดในส่วนที่ไม่ค่อยมีการนำเสนอมากกว่า อีกข้อหนึ่งการให้ความหมายอิสเตาลาของอาชาอีเราะกับมุอตาซีละนั้นย่อมมีรายละเอียดที่ต่างกันอย่างที่มีชีเเเนะตามหน้าเว็ปให้เห็นทั่วไป เหตุใดต้องยัดเยียดความเป็นมุอตาซีละให้กับอาชาอีเราะที่ล้วนต่อสู้กับพวกเหล่านั้นมาตลอด หรือนี่คือการยัดเยียดเเละลบความน่าเชื่อถือของพวกท่านต่ออากีดะอันบริสุทธิ์ซึ่งเป็นความสกปรกอย่างยิ่ง
ใช่ฟ้า เพียงดิน อัลยาบารีย์ และอีกอย่างสมมุติมันเป็นวิชากาลามอย่าตัดสินอะไรที่ชื่อว่าคือวิชามันติด วิชากาลามใดๆ ให้ดูสิ่งที่มันพูด ขี้เหล็กมันกินได้ เพราะเป็นผัก ไม่ใช่ขี้เหมือนชื่อ ถึงกินไม่ได้ วิชามันติก กาลาม หรือต่อให้อะไรๆ ดูเนื้อหา และโต้คับ
ใช่ฟ้า เพียงดิน อัลยาบารีย์ ขอเเละผมขอสาบานด้วยนามชื่อเเห่งพระเจ้าผู้ทรงเป็นหนึ่งข้าพเจ้านายอาลีจะด้วยไม่เจตนาบิดเบือนกุรอ่าน ฮาดิษ ตลอดจนคำปวงปารชญ์หากข้าพเจ้าผิดคำสาบานขออัลลอฮตอบเเทน ณ โลกนี้
Srun Srunlaiman ผมอ่านของบาบอมา ไม่มี หลักฐานจาก สลัฟ เลยสักท่านเดียว ตกลงท่านนึกเอง เข้าใจเอง ไม่ต้องผ่านอุลามะได้หรือคับ ท่าน มันเพี้ยนนะคับ ท่าน .... ขอให้ท่าน นำเสนอ ตัวบทหลักฐานได้แล้วคับ ด้วยความเคารพ
Hamdee Sulong แหม่ แค่รีสตารท์คุนเริ่มเสือกแล้ว สนทนากับผมมั้ย Srun Srunlaiman
บทความโต้ตอบอากีดะฮ์ของอะชาอิเราะฮฺ โดย อ.อะสัน หมัดอะดั้ม - asan Madadam
เขียนข้อความตอบกลับ...
ถูกใจตอบกลับ1แสดงความคิดเห็นโดย Asan Madadam28 ตุลาคม 2015 เวลา 19:08 น.
บทความโต้ตอบอากีดะฮ์ของอะชาอิเราะฮฺ โดย อ.อะสัน หมัดอะดั้ม - asan Madadam อัลลอฮตาอาลาตรัสว่า الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى
[20.5] ผู้ทรงกรุณาปรานี ทรงสถิตย์อยู่เหนือบัลลังก์
เนื่องจาก คนบางกลุ่มได้ให้ความหมายของอายะฮฺนี้ว่า “อิสเตาลา” หมายถึง “ครอบครอง” ซึ่งความหมายเช่นนี้เป็นการยึดมั่นของมุอฺตะซิละฮฺ (มะกอลาตอัลอิสลามิยีน หน้า 157, 211, อัลอิบานะฮฺ หน้า 120) ที่ค้านกับการให้ความหมายของอะฮฺลุสสุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺ (ที่ให้ความหมายว่า “อะลา วัรตะฟะอา หมายถึง อยู่สูงเหนือ) และยิ่งไปกว่านั้น พวกเขากล่าวหาผู้ที่ไม่ตีความอายะฮนี้ว่าเป็นพวกที่มีอะกีดะฮที่หลงผิด ดังนั้นขอให้บาบออาลี ช่วยอธิบายหน่อยว่า อะกีดะฮสะลัฟที่ท่านเรียนมาให้ความหมายว่าอย่างไร และคนที่ไม่ตีความผิดหรือไม่
ถูกใจตอบกลับ4แสดงความคิดเห็นโดย Asan Madadam28 ตุลาคม 2015 เวลา 19:10 น.
ใช่ฟ้า เพียงดิน อัลยาบารีย์ แปลว่าคุณยังไม่ได้เเม้เเต่อ่าน สิ่งที่ผมนำเสนอเลยเรื่องขอหลักฐานนี่ แล้วที่ผม พิมไปตั้งยาว อั้งโหล่หรืออะไรคับ
Srun Srunlaiman ผมอ่านแล้วนะ แต่ไม่มี ไม่เจอ อ้างมาเลยคับ ไครบอกไว้หนังสือเล่มไหนหน้าไหน เป็นต้นคับ ไม่ไช่ เทศนาเอาเอง ไร้สาระคับ
Hamdee Sulong แหม่เสือกตามเคย. สนทนากับผมดีกว่ามั้ยSrun Srunlaiman
บทความโต้ตอบอากีดะฮ์ของอะชาอิเราะฮฺ โดย อ.อะสัน หมัดอะดั้ม - asan Madadam
เขียนข้อความตอบกลับ...
ใช่ฟ้า เพียงดิน อัลยาบารีย์ และคำถามที่ว่าลาลัฟที่ผมเรียนมาเป็นไง แปลไง อนึ่งสลัฟจะทำการตัฟวีร ผ่านมันไปโดยไม่ให้ความหมายใดๆ ไม่ว่า อาลา อิรตาฟาอา มาลากา หรือยาลาสา หรือใดๆ เเค่เพียงยึดมั่นว่าอัลลอฮทรงคุณลักษณะ อิสตาวา แต่ความหมายใดๆ วัลลอฮุอะลัม และความหมายของ อิสตาวานั้นมีมากเช่นความหมาว่านั่งเช่นคำอาหรับที่ว่า
استوي السلطان علي الكرسي
คือซุลตอนนั่งบนเก้าอี้
หรือ
استوي السلطان علي الاقطار
ซูลตอนปกครองประเทศ
หรือจเเป็นคำกลอนที่ว่า
قد استوي بشر علي العراق
من غير سيف ودم مهراق
แท้จริงมนุษย์ปกครองอิรักโดยที่ไม่มีการฆ่าฟันและนองเลือด
ดังกล่าวคือส่วนปนึ่งของความหมาย อิสตาวาและซึ่งก็มีอุลามะสาลัฟตีความด้วยความหมายเหล่านั้น แล้วอาจารย์นำอะไรมาเป็นข้อบ่งบอกว่าต้องความหมายนี้ความหมายนั้น อย่างกับว่ามันมีความหมายเดียว
และหากยึดเอาความหมายนี้เเล้วอีกความหมายที่มีผู้รู้ให้ความหมายไว้ผิดหรือด้วยเหตุผลใด แน่นอนที่ดีตามวิธีบรรชนที่ดีงามคือการมอบหมายมัน
หรือจะเเปลว่าอยู่สูงเสียให้หมด
ซุลตานอยู่สูงเหนือดินเเดนลอยอยู่
Srun Srunlaiman อริสโตเติลแน่ๆ แล้ว ไหนบอกไม่มีสิ่งไดเสมอเหมือนพระองคืนี้กลับ ยกมา เปรียบเที่ยบเฉย 5555 เอาชาวสลัฟเข้าใจกันดีกว่าคับ นบีบอกไว้ไม่ไช่หรือ
Hamdee Sulong คุนนั่นแหละอริสโต้เติ้ล ชอบเสือก 555
Hamdee Sulong มีมือไม่เหมือนมัคโลก โพ่วววว
บทความโต้ตอบอากีดะฮ์ของอะชาอิเราะฮฺ โดย อ.อะสัน หมัดอะดั้ม - asan Madadam
เขียนข้อความตอบกลับ...
ใช่ฟ้า เพียงดิน อัลยาบารีย์ ท่าน อิหม่าม อบุลหัก วัดดีน อันนาซาฟี
ได้กล่าวว่า
يجوز ان يقال لله يدا بالعربية ولا يجوز بالفارسية
อณุญาติให้กล่าวว่าอัลลอฮทรงคุณลักษณะ ยาดุนด้วยภาษาอาหรับ แต่ไม่อณุญาติด้วยภาษาเปอร์เซีย
กล่าวคือนั่นสำหรับสิฟัตยาดันห้ามแปลใดๆ ให้พูดด้วยภาษาอาหรับไปเลย ส่วนสิฟัตอื่นเเปลได้ เเต่เเค่แปลไม่ใช่การยึดมั่นตามความหมายนั้นๆรวมถึง อิสตาวาก็เช่นกัน แต่จะเเปลไงน่ะซิความหมายมันเยอะกล่าวคือ อิสตาวาก็อิสตาวาเเหละคับ
Srun Srunlaiman หนังสือเล่มไหน หน้าไหน เขาเป็นสลัฟไหม หรือว่าชีอะห์
Hamdee Sulong คุนบังอาจกล่าวอุลามะเป็นชีอะ เลวจริงๆ
บทความโต้ตอบอากีดะฮ์ของอะชาอิเราะฮฺ โดย อ.อะสัน หมัดอะดั้ม - asan Madadam
เขียนข้อความตอบกลับ...
บทความโต้ตอบอากีดะฮ์ของอะชาอิเราะฮฺ โดย อ.อะสัน หมัดอะดั้ม - asan Madadam
علي السلفي الاشعاري الخوناوي แปลว่าคุณยังไม่ได้เเม้เเต่อ่าน สิ่งที่ผมนำเสนอเลยเรื่องขอหลักฐานนี่ แล้วที่ผม พิมไปตั้งยาว อั้งโหล่หรืออะไรคับ
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>.
ตอบ
ผมเซ็งกับคุณจริงๆ คุณอ่านกติกาหรือยังครับท่านบาบออาลี คือ
กติกา
3. หลักฐานต้องมีตัวบท คำแปล และ แหล่งอ้างอิง
4. ให้นำหลักฐานแย้งด้วยหลักฐานไม่ใช้ความเห็นตนเอง
คุณมัวแต่อ้างเรื่องวิชากาลาม วิชากาลามที่อันตรายคือ วิชากาลามที่นำการใช้ตรรกมาอธิบายสิฟาตอัลลอฮ
สิ่งที่แสดงให้เห็นว่า วิชากะลาม เป็นวิชาที่อรรถาธิบายเรื่องอะกีดะฮด้วยปัญญาและเหตุผลทางปัญญา คือ

อิบนุคอ็ลดูนกล่าวว่า

علم يتضمن الحجاج عن العقائد الإيمانية بالأدلة العقلية
คือ วิชา ที่ประกอบด้วยบรรดาเหตุผล เกี่ยวกับหลักศรัทธาด้วยบรรดาหลักฐานทางปัญญา – ดู ตาริคอิบนคอ็ลดูน หน้า ๓๕๐

อิบนุอุษัยมีน กล่าวว่า

هو ما أحدثه المتكلمون في أصول الدين من إثبات العقائد بالطرق التي ابتكروها، وأعرضوا بها عما جاء بالكتاب والسنة

มันคือสิ่งที่ บรรดานักกะลามได้อุตริขึ้นมาใหม่ เกี่ยวกับรากฐานศาสนา จากการรับรองหลักความเชื่อ ด้วยบรรดาแนวทางที่พวกเขาประดิษฐมันขึ้นมา และพวกเขาหันเหออกจากสิ่งที่นำมาด้วยคัมภีร์และอัสสุนนะฮ ด้วยมัน(ด้วยแนวทางที่พวกเขาประดิษฐ์ขึ้นมา – ดู ฟัตหุรอ็บอัลบะรียะฮ หน้า๗๖
ถูกใจตอบกลับ4แสดงความคิดเห็นโดย Asan Madadam28 ตุลาคม 2015 เวลา 20:27 น.

Hamdee Sulong อิบนุอุซัยมีนสลัฟไหนครับ
Warit Pisleangam นี้ก็เ..ือกเหมือนกัน อิอิ